เลขาฯญาติวีรชนพฤษภา35 เสนอ 10 ข้อดับร้อน 'ผบ.ทบ.'


เพิ่มเพื่อน    

3 เม.ย.62 - นายเมธา มาสขาว  เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา' 35 เสนอความเห็นต่อ พล.อ.อภิรัชต์  คงสมพงษ์  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  1. ไม่เข้าใจว่า ผบ.ทบ. ใช้ตำแหน่งหน้าที่อะไรแถลงข่าวแทน กกต. แถลงข่าวแทนรัฐบาล ต่อสื่อมวลชนในประเทศและสื่อมวลชนต่างประเทศ มันไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของ ผบ.ทบและกองทัพแต่อย่างใด เหมือนกับการไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ดังนั้น กองทัพควรยุติบทบาทดังกล่าว และรัฐบาลควรดำเนินการตักเตือน ผบ.ทบ. โดยเร็วว่าอย่าทำนอกหน้าที่ให้สังคมสับสน อย่าให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ครหาเหมือนในปี 2500 ที่ทหารไปยุ่งเกี่ยว
 
2. หยุดทำตัวเป็น "คนเถื่อนแห่งประวัติศาสตร์" ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไม่ควรออกมาพูดข่มขู่ทางการเมืองหรือให้ความเห็นทางการเมือง ที่ไม่เกี่ยวกับภาระหน้าที่ของตนเอง กองทัพควรเอาทหารออกจากการเมือง และไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองไม่ว่ากรณีใดๆ ขอให้ ผบ.ทบ.ทบทวนบทเรียนทางประวัติศาสตร์สมัย พล.อ.สุนทร และ จปร.5 ที่ได้สร้างความขัดแย้งและรอยแผลของประเทศไทย อย่าได้เดินซ้ำรอยอีก

3.หากต้องการเล่นการเมืองควรลาออกจากตำแหน่งมาสังกัดพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา การใช้ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้ความเห็นทางการเมืองที่นำมาสู่ความขัดแย้งเป็นการนำกองทัพมาเล่นการเมือง โดยไม่เป็นธรรมกับ "ทหารอาชีพ" ทั้งหมด 

4. กองทัพต้องยุติบทบาทการคุกคาม ข่มขู่ ฟ้องร้องประชาชน ในคดีทางการเมืองทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพทางความคิดเห็น เสรีภาพทางการเมืองและพลเมือง ยุตินักโทษทางความคิดและนักโทษทางการเมืองในประเทศไทย กองทัพไม่ควรใช้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาฟ้องร้องดำเนินคดีต่อประชาชนดังเช่นในปัจจุบัน ซึ่งพยายามใช้ ม.116 เป็นเครื่องมือทางการเมือง และต้องพิจารณาดำเนินคดีทางวินัยทหารทุกคนที่ก้าวล่วงในเรื่องดังกล่าวและทำให้ภาพลักษณ์กองทัพเสียหาย

5.สมัยเป็นประธานบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาสลากขายเกินราคาได้ แล้วจะแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองได้อย่างไร? ขอเสนอให้ ผบ.ทบ.ทบทวนตนเองและหยุดใช้อำนาจก้าวก่ายทางการเมืองเนื่องจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.เป็นข้าราชการระดับอธิบดี ต้องฟังคำสั่งรัฐบาลพลเรือนที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องสำคัญที่กองทัพควรตรวจสอบคือปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นภายในองค์กร ในการจัดจ้างจัดซื้อ และการใช้งบในระบบการเกณฑ์ทหารในปัจจุบัน

6. การเปิดเสรีพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดีในศักราชใหม่ทางการเมืองนี้ กองทัพต้องปฏิรูปตนเองเพื่อเป็นทหารอาชีพ ไม่เป็นทหารการเมืองซ้ำรอยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬจนเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งในประเทศไทยขึ้นอีก จนเป็นฉนวนต้นเหตุ  ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์นอกระบบประชาธิปไตย

7. ทหารที่ยุ่งเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองเป็นสาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่น ขอเรียกร้องให้ทหารในสังกัดกองทัพไทย ลาออกจากคณะกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เพื่อยุติปัญหาการคอรัปชั่นทางนโยบายและการประพฤติมิชอบ โดยใช้ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและอำนาจในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีทหารเป็นประธานบอร์ดกว่า 16 รัฐวิสาหกิจและเป็นกรรมการกว่า 40 บอร์ดรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน 

8. ผบ.ทบ. คนเก่าได้ส่งผู้แทนมาร่วมงานรำลึกเหตุการณ์พฤษภา 2535 และผู้แทนก็ได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนในเหตุการณ์รำลึกดังกล่าวเพื่อเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์และเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เป็นอนุสรณ์เตือนสติทางสังคม. รวมถึงมีนโยบายว่าจะให้ทหารช่างมาร่วมก่อสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมเพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนสติทางสังคมในการรำลึกประวัติศาสตร์การเสียสละในเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีต ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ควรเดินตามรอยนโยบายดังกล่าว และนำกองทัพไปมีบทบาทเพื่อสร้างความสมานฉันท์ทางสังคมและไม่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง อีกต่อไป

9. ควรเร่งสร้างการปรองดองของคนในชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้ออ้างในการยึดอำนาจของ คสช.แต่กว่า 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลก็เพิกเฉยไม่ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งข้อเสนอที่ "คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)" เคยทำการศึกษาและเสนอต่อรัฐบาล ล้วนสามารถนำมาปฏิบัติได้เลย โดยเฉพาะการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองและนักโทษทางความคิดที่ยังติดคุกอยู่และกำลังจะติดคุกด้วยข้อหาทางการเมืองไม่ใช่คดีอาญาฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามหลักการเรื่องการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่ควรใช้หลักการความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) และกระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง การพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการตั้งข้อหาต่อผู้กระทำผิด รัฐสามารถทำได้ทันทีโดยการถอนฟ้องข้อหาทางการเมือง เช่น ข้อหาก่อการร้าย ข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคง เป็นต้น และสร้างบรรทัดฐานในกระบวนการยุติธรรมขึ้นมาเป็นหลักประกันทางสังคม

10. ประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้โดยการกระจายอำนาจการปกครอง นอกจากการแยกระบบบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เป็นอิสระออกจากกันและถ่วงดุลกันแล้ว การยกเลิกระบบการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและระบบราชการแบบขึ้นอยู่กับ "กรม" แบบเก่าเป็นเรื่องจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน การเปิดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเป็นโอกาสการพัฒนาของประเทศไทย รวมถึงการกระจายอำนาจตำรวจให้ขึ้นกับจังหวัดด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวขอให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการโดยเร็ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"