'แม่งามทิพย์'กำลังใจสำคัญบ้าน'ฉัตรบริรักษ์'


เพิ่มเพื่อน    

 

          เรียกว่าฮอตไม่แพ้ลูกๆ เลยทีเดียว สำหรับ แม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 4 คนให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ ทั้ง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พระเอกช่อง 3 รวมถึง  หน่อง-ธนา ฉัตรบริรักษ์, ภัทร ฉัตรบริรักษ์ และ น้องวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์ โดยวันนี้แม่ทัพบ้านฉัตรบริรักษ์ได้มาเปิดเผยถึงวิธีการรับมือกับลูกๆ ทั้ง 4 คน

          “ลูกบ้านนี้เลี้ยงไม่ยาก ทั้ง บอย, หน่อง, ภัทร เขาเป็นเด็กผู้ชายอายุไล่เลี่ยกันเลยดูไม่ค่อยเหมือนพี่น้อง จะเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่า ตั้งแต่เด็กจนโตกันมาก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้เขาก็ยังพูดคุยหรือเล่นกันเหมือนเพื่อน แม่เองก็ต้องเล่นไปกันลูกๆ ด้วย ที่บ้านอยู่กันคนน้อยด้วยไง อยู่กันเอง 5 คน รวมน้องวันใหม่ด้วย น้องวันใหม่เองตอนนี้ก็เป็นเพื่อนเฮียๆ ไปแล้วเหมือนกัน

   

            บ้านเราไม่มีกฎกติกาอะไรเลย แค่รู้หน้าที่ตัวเองเป็นพอ ไม่ใช่หน้าที่การงานนะ เหมือนรู้บทบาทตัวเอง หน้าที่ตัวเองในบ้านแค่นี้ก็พอแล้ว อย่างเรียนหนังสือ พ่อแม่ทุกคนก็ต้องบ่นเรื่องอ่านหนังสือ ทำการบ้านเป็นปกติ ก็อยู่ที่ตัวเขาเองล่ะว่าจะเป็นห่วงเรียนอะไรยังไง เขาก็ดูแลกันเอง เรียนก็พอใช้ได้นะ ไม่ค่อยสร้างปัญหาอะไรกัน ยิ่งมาตอนนี้ทำงานกันหมดแล้วก็ยิ่งหมดห่วงไปได้บ้าง

            เลี้ยงลูกชาย 3 คนหนักใจอะไรไหม พอผ่านช่วงเรียนแล้วก็ไม่หนักใจอะไรแล้วนะ ช่วงที่เขายังเรียนอยู่มันก็มีหนักใจบ้าง ช่วงม.ปลาย อาจจะต้องเคี่ยวเข็ญกันนิดหนึ่ง พอเข้ามหาวิทยาลัยได้เขาก็เป็นอิสระล่ะ  เราเคยคุยกันไว้ว่าถ้าอยากได้อิสระก็จะให้ แต่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ที่เรารู้สึกว่าไม่ต้องห่วงมากแล้ว แต่แม่ไม่เคยกดดันลูกนะว่าต้องเรียนที่ไหน คณะอะไร เขาต้องชอบของเขาเอง เขาต้องรู้ว่าเขาอยากเรียนที่ไหนเอง แต่เอาจริงๆ นะเราอยากให้เขาเรียนที่ไหนมันก็มีในใจ แต่สุดท้ายอะไรที่เขาแฮปปี้มีความสุขเราก็แฮปปี้ไปกับเขาด้วย

 

            ซึ่งวิธีการเลี้ยงดูแบบนี้เราก็ใช้กับน้องวันใหม่ แต่อาจจะต้องมีการปรับนิดหน่อยตามยุคสมัย แต่ถามว่าอยากให้น้องเรียนดีไหม เราก็อยากให้น้องเรียนดี แต่ตรงบอยเขาจะรู้สึกว่าเขาเคยเรียนหนักมาก่อน เขาจะรู้สึกว่าน้องไม่ต้องเรียนซีเรียสมาก อย่างเรื่องสอนการบ้านน้องเขาเลยจะดูขำๆ ไม่อยากให้น้องเครียด แต่แม่จะเป็นห่วง อยากให้น้องเรียนด้วยความเข้าใจ บอยก็จะแย้งตลอดว่าน้องยังเด็ก ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

           แต่ว่าเฮียๆ ทุกคนก็จะมาช่วยดูการบ้านน้อง มีไปรับส่งน้องที่โรงเรียนบ้าง แล้วแต่ใครจะว่างเขาก็จะสลับๆ กันเอง อาจจะดูจากตารางงานของแต่ละคนว่าใครว่างวันไหน ก็คงสลับๆ กัน แต่แม่ไม่ซีเรียสนะเพราะการไปรับส่งน้องมันคือความสุขของแม่ เวลาอยู่กับลูกสาวมันก็ชื่นใจ แต่วันใหม่เป็นเด็กที่ไม่ฉอเลาะ ไม่ขี้อ้อน ไม่ขี้ฟ้อง ไม่ร้องไห้ แต่เป็นเด็กที่ค่อนข้างเข้มแข็ง

 

            ที่บ้านถ้ามีเวลาว่างตรงกันเราก็จะหากิจกรรมทำกันตลอด อย่างไปกินข้าวหรือไปดูหนัง หรือว่าไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเรามักจะไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว คืออันนี้ลูกๆ เขาคิดกันเอง ตัวแม่ไม่ได้เรียกร้องอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคงคิดกันเองว่าไม่ได้ทำงานออฟฟิศ งานเขาไม่เป็นเวลา อาชีพเขาไม่มีวันหยุดที่แน่นอน เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่มีเวลาตรงๆ กันปุ๊บ หรือขยับกันเล็กน้อยเพื่อให้มาตรงๆ กัน ก็จะไปเที่ยวพร้อมกัน มันก็เลยมีภาพแบบนี้มากกว่าครอบครัวคนอื่นที่เขามีหยุด วันเสาร์-อาทิตย์ เขาก็จะธรรมดากับวันหยุด แต่บ้านเรามันไม่มีหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีก็แค่แม่กับวันใหม่ที่หยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ แต่ก็ไม่มีปัญญาจะพากันไปเอง คงรอให้เขามีวันหยุดตรงกันหรือขยับตรงกันได้ก็จะได้เที่ยว

            จริงๆ พอมีเวลาว่างทุกคนก็อยากรีแลกซ์ อยากพักผ่อน แม่เองก็อยากพาน้องไป พวกเฮียๆ ก็อยากพาน้องไปและอยากพักผ่อนเองด้วย ใครว่างก็จะชวนแม่กับน้องไปเที่ยวกัน แต่ส่วนใหญ่ก็ไปกันครบทั้งบ้าน หรืออาจจะตามไปทีหลังหรือบางทริปอาจจะมีใครต้องกลับก่อนก็มี เพราะเขาต้องกลับมาทำงาน ปีหนึ่งเราไม่ได้ตั้งไว้ว่าจะไปเที่ยวกี่ครั้ง อยู่ที่ลูกๆ ว่างเลย ส่วนใหญ่ที่บ้านซื้อตั๋วแพงตลอด เพราะว่าไม่ได้แพลนล่วงหน้า ว่างเมื่อไหร่ก็ไป คนที่คิวยากสุดคือเฮียบอย แต่ทุกคนโอเค ทุกคนรอเฮียบอยได้

 

            เรื่องห่วงลูกต่อให้โตกันขนาดไหนคนเป็นพ่อแม่ก็ยังห่วงลูกเสมอ ตอนนี้ห่วงใครที่สุด ก็ห่วงเท่ากันนะ  ถ้าห่วงในชีวิตเขาก็ไม่ได้ห่วงอะไร แต่ห่วงสุขภาพเขามากกว่า โดยเฉพาะเฮียบอย เพราะเขาทำงานเยอะ เหมือนพักผ่อนน้อย แต่เขาก็บอกว่าเขาดูแลตัวเองดี ถ้าพักกองเขาก็ได้นอน อยู่บนรถเขาก็รีบนอน  หลายคนบอกว่าลูกบ้านนี้ติดแม่ ไม่ใช่นะ อย่างเฮียบอยเขาก็จะมีเวลาไปหาเพื่อนๆ แต่ถ้าเข้าบ้านเมื่อไหร่แม้เวลาสั้นๆ เขาก็จะมาคลุกคลีกับน้องๆ โดยเฉพาะวันใหม่ และด้วยความที่น้องวันใหม่กับแม่ตัวติดกัน วันใหม่ก็เหมือนตัวเชื่อมระหว่างหนุ่มๆ กันแม่ เอาจริงๆ เด็กผู้ชายกับแม่มันก็จะไม่มีภาพใกล้ชิดขนาดนี้หรอก แต่ด้วยความที่ทุกคนโฟกัสอยู่ที่วันใหม่ แล้วบ้านมันก็แค่นี้ มันก็เห็นกันชัดเจน

            แม่โชคดีที่ลูกๆ ไม่เป็นเด็กเหลวไหล ไม่สร้างปัญหาให้ตัวเอง ให้ที่บ้าน แค่นี้เราก็สบายใจแล้ว ส่วนเฮียบอยในฐานะพี่คนโตได้ช่วยแม่ดูแลน้องๆ ไหม ถ้าเป็นวันใหม่เฮียบอยแบ่งเบาแม่ได้เยอะมาก แต่ถ้ากับหน่องหรือภัทร พวกเขา 3 คนโตมาด้วยกัน เขาเหมือนเพื่อนกัน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองหมด แต่ถ้าเขาจะช่วยเป็นสมองอะไรให้น้องอันนั้นมี มันไม่ใช่ภาระ ถ้าเขารู้อะไรมาเขาก็จะแนะนำน้อง บางทีพวกน้องๆ ถ้าเรื่องงานอะไรแบบนี้ก็จะไปถามเฮียบอย เฮียบอยจะแนะนำให้อย่างดี หน่องกับภัทรก็เลยจะโชคดีนิดหนึ่งที่จะมีคนคอยช่วยชี้ แต่ส่วนใหญ่เขาก็คิดกันเอง

 

            เวลาลูกๆ เจอข่าว ต่างๆ เราได้ให้กำลังใจกันยังไง จริงๆ ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครไปทำอะไรไม่ดี ไม่ค่อยมีข่าวไม่ดี เขาไม่ได้อยู่ในจุดที่มันเสี่ยงๆ  ให้มีข่าวล่อแหลมมาที่ตัว แต่แม่ก็จะบอกว่ามีอะไรให้เขาพูดให้เคลียร์แต่ต้องระวังคำพูด แต่เฮียบอยจะระวังคำพูดมาก อาจเป็นเพราะว่าเขาอยู่ในวงการมานาน บางทีเราไม่ต้องสอนเขาด้วยวาจา แต่ประสบการณ์ของตัวเขาจะสอนเขาเอง”

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @momomama1234 @boy_pakorn

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"