ยามย่างเข้าสู่เขตฤดูฝนพรำ


เพิ่มเพื่อน    

 

                                                         (1)
    คงอีกซักแค่ไม่กี่พักหรอกทั่น...เดี๋ยวเดียวก็จะได้เวลาย่างเข้าสู่ หน้าฝน กันแล้ว หรือคงไม่เลยไปกว่าช่วงกลางเดือนพฤษภาฯ มากมายซักเท่าไหร่นัก อะไรที่เคยร้อนๆ กันในระดับ ตับหลังคา แตก ไปพร้อมๆ กับ ตับภายในร่างกาย พลอยทำท่าว่าจะแตกตามไปด้วย เมื่อได้ฝนหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปตามแบบฉบับ อันความกรุณาปรานี-จะมีใครบังคับก็หาไม่-หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ-จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน อย่างที่บทละคร เวนิส-วานิช ท่านว่าเอาไว้นั่นแล...
                                                        (2)
    ระหว่างนี้...ก็ลองเตรียมๆ หาบทเพลงที่เข้ากับหน้าฝน มาจัดเอาไว้ใกล้มือให้เป็นชุดๆ เพราะเมื่อไหร่ที่ฝนตกไม่ว่าเปาะๆ แปะๆ หรือโครมๆ ครามๆ ถ้าหากไม่มีธุระปะปังไปที่ไหน สามารถนอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน หรือเค้เก้อยู่ภายในสำนักงาน ระหว่างฝนกำลังสาดซัด ถ้าหากได้ยินเสียงฮึมๆ ฮัมๆ ผ่านบทเพลงของ Jose Feliciano อย่างเพลงที่ชื่อว่า Rain ขึ้นมาเมื่อไหร่ รับรองว่าได้ ครางง์ง์ง์ ด้วยความซาบซึ้ง ประทับใจ ขึ้นมาเมื่อนั้น คืออะไรมันจะไพเราะเสนาะหู ซุกไซ้ ซึมซ่าน แผ่ลึกลงไปถึงหัวจิต หัวใจ เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว...
                                                       (3)    
    หรือจะตามด้วยเพลง “Raindrops keep falling on my head” ของ “BJ. Thomas” เข้าไปอีกซักเพลง แม้จะออกเศร้าๆ เหงาๆ อยู่บ้าง แต่ก็น่าจะพอช่วยสรรค์สร้างความโรมันคาทอลิก หรือโมแลงติก ได้ไม่น้อยไปกว่ากัน ส่วนถ้าจะให้ออกไปทางสดชื่น รื่นเริง ก็โน่นแหละ...เอาไปเลย Laughter in the rain ของ Neil Sedaka รับรองว่าได้ ฮู้วว์ว์ว์ ได้ ฮ้า กันไปมิใช่น้อย และถ้าหากอยากจะสด อยากจะชื่น ยิ่งไปกว่านั้น ระดับลุกขึ้นมาเต้นแร้ง เต้นกา ก็คงต้องไปขุดเอา I’m singing in the rain ของอดีตพระเอกรุ่นพระเจ้าเหายังใส่กางเกงหูรูด อย่าง Gene Kelly ที่ถือร่มเต้นไป-เต้นมากลางสายฝน ชนิดเนื้อตัวเปียกโชก ทั้งๆ ที่มีร่มอยู่ในมือแท้ๆ...
                                                       (4)
    แต่สำหรับผู้ที่ยังอยากจะรักษา ความเป็นไทย เอาไว้ให้ครบทุกเม็ด...ก็คงต้องไปควานหาเพลงของ สุนทราภรณ์ ที่เอื้อนเอ่ยถึงสายฝน ฤดูฝน เอาไว้เยอะแยะมากมาย อย่างเพลง ฝนจ๋าฝน ของ เลิศและศรีสุดา ที่ผูกถ้อยร้อยคำเอาไว้ชนิดหลับตาเห็นภาพได้โดยฉับพลัน-ทันที เช่นที่ว่าไว้ว่า ฝน-ฝน-ฝน...พระอินทร์คงซน-เล่นกลจับปลา-ฟ้าเท-ฝนซ่า-น้ำนอง-กุ้ง-ปลา-เล่นฝนเริงใจ ไปจนถึง มองดู-เจ้าทุยพิลึก-ได้ฝนมันคึก-กันใหญ่-กิ่งไม้-แกว่งไกว-ดอกไม้ดอกใด-ได้ฝนก็บาน อะไรประมาณนั้น ส่วนถ้าหากไม่อยากหนักไปทางลูกกุ้ง หรือ ลูกกรุง รสนิยมออกไปทาง ลูกทุ่ง ซะมากกว่า ก็ยิ่งเยอะแยะหนักขึ้นไปใหญ่...
                                                       (5)
    อย่างเพลง ฝนหนาวสาวครวญ ของคุณทวด ผ่องศรี วรนุช ก็ออกจะเข้าท่ามิใช่น้อย แม้จะออกไปทางเซ็กซี่ เสียวสยิว อยู่บ้าง แต่โดย ท่วงทำนอง ตั้งแต่เริ่มแรกที่ขึ้นต้นเอาไว้ว่า...ยามย่างเข้าสู่-เขตฤดูฝนพรำ-ตกกระหน่ำเสียจน-พร่างพราว-ฝนก็พรม-สายลมก็หนาว-ยิ่งคิดสาวเปลี่ยวใจ ต้องยอมรับว่า ออกจะให้ภาพ ให้บรรยากาศ ที่เข้ากันได้กับการสาดซ่า ซัดส่าย ของสายฝนได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับใครที่เคยฟังเพลงนี้จนชินรูหูพอสมควรแล้ว เพราะถือเป็นเพลงเก่าเอามากๆ ที่คุณทวด ผ่องศรี ท่านร้องเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นสาวๆ ก็อาจลองเปลี่ยนไปฟัง เวอร์ชั่น ใหม่ๆ ลองดูก็ได้ โดยเฉพาะเวอร์ชั่นที่คุณน้อง สุนารี ราชสีมา ท่านหยิบเอามาร้องใหม่ และเป็นอะไรที่เข้าทาง อยู่พอสมควร...
                                                     (6)
    คือโดยน้ำเสียง เส้นเสียง ของคุณน้อง สุนารี นั้น...ออกจะทุ้มๆ พร่าๆ ประมาณ ขยี้ผ้าแพรในฟองเบียร์ ทำนองนั้น เพลง ฝนหนาวสาวครวญ ที่เธอหยิบเอามาปัดฝุ่นร้องใหม่ จึงเป็นอะไรที่ซาบซึ้ง ซาบซ่า เสียวซ่าน รัญจวนใจ ต่างไปจากเสียงใสๆ ของคุณทวด ผ่องศรี อยู่พอสมควร หรืออาจให้บรรยากาศออกไปอีกแบบ ส่วนถ้าหากอยากจะสนุกสนาน บันเทิง รื่นเริง แบบชนิดสะใจ สมใจ อันนี้...คงต้องไปหาเพลงใหม่ๆ ของนักร้องรุ่นที่ออกจะเก่าๆ อยู่พอประมาณ คือคุณน้อง กบ-ศจี สายชล ที่เอื้อนเอ่ยเอาไว้ในบทเพลงชื่อว่า ฟ้าครึ้มๆ ฝนพรำๆ อะไรประมาณนั้น...
                                                        (7)
    เพราะโดย เนื้อร้อง ที่บรรยายเอาไว้ถึง ตา กับ ยาย คู่หนึ่ง ออกไปหา กบ ในช่วงขณะฟ้าครึ้มๆ ฝนพรำๆ นั่นแหละ แต่หลังจากจับกบมาได้เพียงแค่ตัวเดียว ต่างฝ่ายต่างดันหันมาเถียงกันไป-กันมา ว่าจะเอากบที่จับได้ไปผัดเผ็ด หรือไปต้มยำกันดี ความสะใจ สมใจ มันเลยอยู่อีตรงที่เนื้อร้องท่อนสุดท้าย ที่สรุปเอาไว้ประมาณว่า ฟ้าคำราม-เสียงดังเปรี้ยง-ตากับยายยังเถียงกันลั่น-กบหลุดมือ-โดดลงน้ำ-ตาไล่ตาม-ไล่ตามไม่ทัน-ยายบอกตา-สมน้ำหน้า-ก็แกดันมา-ยืนเถียงกับฉัน-กบผัดเผ็ด-หรือว่ากบต้มยำ-เลยอดหม่ำ อดหม่ำด้วย หรือต่างก็ อดแดก ไปด้วยกันทั้งคู่ ด้วยประการฉะนี้...แล...
                              ----------------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"