กกต.สอบตก! 'สมชัย' ชี้สูตรคำนวณ ส.ส.ข้ามขั้นตอนกฎหมาย ยันมีแค่ 14 พรรคได้บัญชีรายชื่อ


เพิ่มเพื่อน    

9 พ.ค.62 - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัครส.ส.สมุทรสาคร และอดีตกกต. แถลงข่าวคัดค้านการใช้สูตรคำนวณสส.บัญชีรายชื่อของ กกต.ที่ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณของ กรธ.ที่จัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมี ได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย เพราะจะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91(4) และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128(5) ที่ระบุว่า ให้นำจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งต่ำกว่าจำนวนส.ส.ที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ ตามอัตราส่วน แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มีส.ส.เกินกว่าจำนวนที่พึงจะมีได้ โดยหากยึดหลักตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด พรรคเล็กอันดับที่ 17-21 รวม 11 พรรค ที่มีคะแนนตั้งแต่ 33,754-68,973 คะแนน ต่ำกว่าคะะแนนเฉลี่ยที่พึงจะมีส.ส.หนึ่งคนคือ 71,168.5141 คะแนน จะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ในการแถลงข่าวครั้งนี้นายสมชัย ได้ใช้เอกสารข่าวของสำนักงาน กกต.ที่ 61/2562 ในส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 14 หน้า มาเป็นหลักในการคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การคำนวณตามขั้นตอนของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 129 และ 128 ของกกต.นั้นถูกต้องตั้งแต่หน้าที่ 1-7 แต่ในหน้าที่ 8 ขาดผลลัพธ์ตารางการคำนวณที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 128(5) คือต้องตัดพรรคการเมืองที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมีออกไป แต่เมื่อไม่ตัดออกก็ทำให้ได้ผลลัพธ์จากการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่แตกต่างออกไป ทำให้ทุกตารางหลังจากนั้นไม่สามารถนำมาใช้ในการคำนวณได้ โดยการคำนวณที่ถูกต้องจะมี 16 พรรคการเมืองที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่จะมีเพียง 14 พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคเพื่อไทย ได้ส.ส.เขตเกินกว่าจำนวนส.ส.พึงมีและพรรคประชาชาติ ได้ส.ส.เขตเท่ากับจำนวนส.ส.พึงมี จึงไม่มีสิทธิได้ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก โดย 14 พรรคที่ได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 20 คน พรรคอนาคตใหม่ 54 คน พรรคประชาธิปัตย์ 21 คน พรรคภูมิใจไทย 13 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 5 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 คน พรคชาติพัฒนา 2 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 3 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และพรรคพลังชาติไทย 1 คน รวม 149 คน ทั้งนี้ผลที่เกิดขึ้นจากการคำนวณของตนที่ปฏิบัติตามกฎหมายทุกขั้นตอนแตกต่างจาก กกต. ซึ่งพรรคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อนาคตใหม่หายไป 4 คน พลังประชารัฐหายไป 2 ประชาธิปัตย์หายไป 2 ภูมิใจไทยหายไป 1 เสรีรวมใจไทย และชาติไทยพัฒนาหายไปพรรคละ 1

ทั้งนี้หากนำผลจากการคำนวณตามแนวทางของตนมาใช้ จะทำให้แต่ละพรรคได้ส.ส.ทั้งสองระบบดังนี้ พรรคพลังประชารัฐได้ส.ส. 117 คน พรรคเพื่อไทย 136 คน พรรคอนาคตใหม่ 84 คน พรรคประชาธิปัตย์ 54 คน พรรคภูมิใจไทย 52 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 11 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคประชาชาติ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 6 คน พรรคชาติพัฒนา 3 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 3 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และพรรคพลังชาติไทย 1 คน รวม 498 คน

"กกต.คำนวณตามมาตรา 128 ผิด ท่านหายไปหนึ่งขั้นตอน จะโดยตั้งใจหรือไม่ ไม่รู้ เพราะข้ามขั้นตอนในมาตรา 128(5) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. คนที่มีส่วนได้เสียก็ต้องไปคิดว่าจะใช้สิทธิดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ในเอกสาร กกต.มี 14 หน้าทำถูกแค่ 7 หน้า ได้คะแนนแค่ 50% ในการทำการบ้านข้อนี้ ทั้งที่มีคนแนะนำแล้วยังทำผิดสมควรได้คะแนนต่ำกว่า 50%" นายสมชัย กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"