'กรมสมเด็จพระเทพฯ'ทรงเปิดโรงสีข้าว สวนจิตรลดา และโรงโคนมแห่งใหม่ในวันพืชมงคล


เพิ่มเพื่อน    

9 พ.ค.62 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการนี้ทรงเยี่ยมโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เนื่องในโอกาสวันพืชมงคล การนี้ พระราชทานวโรกาสให้ ผู้แทนโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา กราบบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยวกับกิจการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พร้อมด้วยอธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ผู้แทนสหกรณ์ภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ เฝ้าฯ รับเสด็จ  การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระบรมราโชวาท 

จากนั้นทรงเปิดอาคารโรงสีข้าวตัวอย่าง สวนจิตรลดา น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโดย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ มีขนาดกำลังการผลิต 2 ตันต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์การก่อสร้างเพื่อเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวพระราชดำริในเรื่องข้าวและการสีข้าวที่เป็นพื้นฐานการเกษตรกรรมของประเทศ โดยนำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตข้าวให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ดีเลิศ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและมีการจัดการอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานหลักการผลิตสากล สามารถขยายกำลังการผลิตของโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดาให้เพียงพอสำหรับกิจกรรมของสำนักพระราชวังและการพระราชทานแก่พสกนิกรเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ สำหรับอาคารมีขนาดพื้นที่รวม 2,000 ตร.เมตร แบ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนประกอบด้วยสำนักงาน ห้องประชุม ห้องรับรองและบรรยาย ชั้นล่างประกอบด้วยห้องจัดนิทรรศการ ห้องตรวจสอบคุณภาพข้าว ห้องเก็บบรรจุภัณฑ์ ห้องเก็บรำ ห้องเก็บแกลบ และส่วนของห้องกระบวนการผลิต ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ กระบวนการทำความสะอาด เพื่อคัดแยกสิ่งเจือปนนอกจากข้าวเปลือก, กระบวนการกระเทาะข้าวเปลือกเป็นข้าวกล้องที่มีประสิทธิภาพ, กระบวนการแปรรูปข้าวกล้องเป็นข้าวสาร, กระบวนการคัดแยกสิ่งเจอปน เช่น เมล็ดข้าวสีดำ สีแดง หรือข้าวท้องโซ่, กระบวนการบรรจุข้าวสารลงถุงแบบอัตโนมัติ และกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือกตั้งแต่รับซื้อวัตถุดิบ

จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงเปิดโรงโคนม สวนจิตรลดาแห่งใหม่ ซึ่งกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อใช้เป็นสถานที่สาธิตการเลี้ยงโคนมอย่างเป็นแบบอย่างตามหลักวิชาการ โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้เหมาะสมเพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรได้ศึกษา เรียนรู้และสามารถนำไปปรับใช้กับฟาร์มของตัวเองได้ ภายใต้แนวคิด 4 ข้อ ได้แก่ “ โรงเรือนโคนมแบบคอมบิเนชั่น สเตเบิล” โดยรวมพื้นที่การเลี้ยงโคนมประเภทต่างๆ และส่วนการรีดนมโคไว้ในโรงเรือนเดียวกันเป็นการประหยัดพื้นที่ สะดวกต่อการจัดการ “การออกแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” มีการบำบัดน้ำมูลโคก่อนส่งเข้าระบบบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพฯ   “สาธิตการใช้เทคโนโลยีการเลี้ยงโคนมที่ทันสมัย” เช่น อุปกรณ์ติดข้อเท้าแม่โค สำหรับแสดงประวัติ หรือการใช้เครื่องรีดนมโคพร้อมชุดวิเคราะห์องค์ประกอบน้ำนมโคแบบอัตโนมัติ เป็นต้น และ “คำนึงถึงความสะอาดของน้ำนมและสุขอนามัยของโค” เช่น จัดทำที่นอนยกพื้นสำหรับโคเพื่อไม่ให้นอนปนเปื้อนกับมูลและปัสสาวะ ติดตั้งพัดลมระบายอากาศภายในโรงเรือน, ติดตั้งเครื่องแปรงขนโคอัตโนมัติ ตัดตั้งเครื่องกวาดมูลโคอัตโนมัติ และระบบอาหารส่วนผสมครบส่วน

การนี้เสด็จฯ ไปยังอาคารโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทอดพระเนตรกิจกรรมของโครงการ ทอดพระเนตรนิทรรศการสวนพฤษศาสตร์โรงเรียนจำนวน 4 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดกาญจนบุรี, โรงเรียนตากพิทยาคม จังหวัดตาก, โรงเรียนพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนโพนงามศึกษา จังหวัดสกลนคร จากนั้นเสด็จฯ ไปยังศาลามหามงคล ประทับ ณ โต๊ะเสวย เสวยพระกระยาหารกลางวัน สมควรแก่เวลา เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"