"สุเทพ"เผยจะนำวิธีเรียนแบบอาชีวะปรับใช้ใน รร.สังกัดสพฐ.


เพิ่มเพื่อน    


20พ.ค.62-“สุเทพ” เผยแนวทางบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะเลขาสพฐ.คนใหม่ ระยะ 4เดือนข้างหน้า จะนำประสบการณ์ด้านอาชีวะ การเรียนรู้นอกห้องเรียนมาเชื่อมต่อ และนำวัฒนธรรมสอศ.ที่ไม่มีทุจริต มีความอดทนมาใช้ในการทำงาน  และจะฟังเสียงสะท้อนพื้นที่มากขึ้นเชื่อปีการศึกษา62 สัดส่วนอาชีวะต่อสามัญ เพิ่มเป็น 45%

นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า  ตามที่ตนได้ดำรงตำแหน่ง เลขาฯ กอศ. เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีนั้น การดำเนินงานที่ผ่านมาอาชีวศึกษาส่งผลให้ตนได้เพิ่มพูนประสบการณ์ ความรู้อย่างมาก โดยเฉพาะใน 3 ด้านหลัก คือ 1.ด้านองค์ความรู้ ซึ่งตนได้องค์ความรู้จากอาชีวะที่จะนำไปต่อยอดในงานของงานสำนักงานคณะกรรมการการฟสึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อย่างมาก เช่น การเรื่องการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับอาชีวะ เรื่องการศึกษาที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เป็นต้น 2.ด้านเจตนคติ ตนพบว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีวัฒนธรรมองค์กรทำงานมีอดทนมากและไม่มีเรื่องทุจริต อีกทั้งการขับเคลื่อนงานยังดำเนินไปด้วยหลักธรรมาภิบาล รวมถึงมีความเป็นเอกภาพด้านการบริหารงานมากที่ดี และสุดท้าย 3.ด้านการฝึกปฏิบัติทักษะ ส่งผลให้ตนได้รับทักษะการบริหารในเชิงปฏิบัติการอย่างมาก การทำงานด้านอาชีวะตนจะรับฟังเสียงสะท้อนจากพื้นที่และนำมาแก้ไขปัญหาที่เป็นจุดบกพร่อง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ในระยะเวลา 4 เดือนในตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) ตนฟังเสียงสะท้อนจากระดับพื้นที่ เพื่อมาพัฒนาภาพรวมการศึกษาโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน

“ผมขอประเมินตัวเองในการทำงานด้านอาชีวศึกษาเต็ม 10 คะแนน ให้ 7 คะแนน เพราะมองว่าผมยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกจำนวนมากไม่เพียงเฉพาะงานอาชีวศึกษาเท่านั้น แต่เมื่อไปนั่งทำงานในตำแหน่งเลขาฯ กพฐ. ผมก็จะต้องเรียนรู้งานการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยเช่นกัน”เลขาฯ กอศ.กล่าว
             
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า  สำหรับภาพรวมการรับนักเรียนของวิทยาลัยอาชีวศึกษา สังกัด สอศ. ในปีการศึกษา 2562 นั้น การดำเนินการยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งจะสามารถสรุปยอดจำนวนผู้เรียนได้ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2562 ทั้งนี้ตนเชื่อว่าที่ สอศ.ตั้งเป้าหมาย ว่า ผู้เรียนสายอาชีพจะเพิ่มเป็นร้อยละ 45 ต่อผู้เรียนสายสามัญร้อยละ 50 มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน อีกทั้งในอนาคตก็มั่นใจว่าเป็นไปได้แน่ที่สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพกับสายสามัญจะเพิ่มเป็น 50 ต่อ 50 เพราะการขับเคลื่อนการบริหารจัดการอาชีวศึกษาทำได้ดีทั้งการมีศูนย์ประสานงานการผลิตและกำลังคนของอาชีวศึกษา การเรียนในรูปแบบทวิภาคี โดยสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้สามารถเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพได้มากขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"