23 พ.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ตรงกับ วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งในทางพุทธศาสนาคือ วันอัฏฐมีบูชา หรือ วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ 8 วัน ดังนั้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันอัฏฐมีบูชาและน้อมถวายเป็นพุทธบูชา จังหวัดชัยนาท และวัดสรรพยาวัฒนาราม ร่วมกับชาวบ้านชุมชนตลาดเก่าสรรพยา เตรียมจัดงาน “เล่าขานตำนานเมืองสาปยา อัฏฐมีบูชารำลึก" ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2562 ณ บริเวณวัดสรรพยาวัฒนาราม และตลาดเก่าสรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

ภายในงานจะมีกิจกรรมพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระจำลองของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การแสดงแสง สี เสียงผ่านสื่อผสม ชุดอัฏฐมีบูชารำลึก นอกจากนี้ยังมีการแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทุกและศึกนาคบาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียนและมีการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน อาหารคาว-หวาน ของดีอำเภอสรรพยา ที่จะขนสินค้ามากมายหลากหลายชนิดมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา

นอกจากนี้ ทางวัดสรรพยาวัฒนาราม ยังเปิดวิหารน้อย วิหารเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี ให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชน ได้เข้าไปกราบสักการะ พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ปางกราบพระบรมศพ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ปางแหย่เท้า เป็นพระพุทธรูปประทับนอนหงายในหีบพระบรมศพ โดยมีพระบาทยื่นออกมาจากหีบพระบรมศพ มีพระมหากัสสปะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์สาวกและพระสาวกรวมทั้งหมด 4 รูป นั่งกราบสักการะอยู่ปลายพระบาท ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปปางสุดท้าย และเป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอสรรพยา ที่บรรพบุรุษเหลือไว้ให้สืบทอดรักษา

พระมหาสมศักดิ์ สกฺกธีโร พระลูกวัดสรรพยาวัฒนาราม เปิดเผยว่า เนื่องจากพระพุทธรูปปางแหย่เท้า ประดิษฐานอยู่ภายในวัดมานานกว่า 100 ปี ทางวัดและชาวบ้านจึงร่วมใจกันจัดงานประเพณีวันอัฏฐมีบูชาขึ้น ในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6  เพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งความหมายของ อัฏฐมีบูชาคือการบูชาในดิถีที่ 8 หรือ แรม 8 ค่ำ เดือน 6 โดยหลังจากที่มีการตั้งพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าได้ 8 วันแล้วไม่สามารถวายพระเพลิงพระบรมศพได้ ต้องรอให้พระมหากัสสปเถระ พระอรหันต์สาวกองค์สำคัญ เดินทางมาถึงเชิงตะกอนก่อน

เมื่อพระมหากัสสปะเถระ เดินทางมาถึง ก็เข้าไปอธิษฐานขอให้พระพุทธเจ้ายื่นพระบาทออกมาจากรางทองหรือหีบศพ เพื่อกราบสักการะ หลังจากนั้นจึงจุดไฟถวายพระเพลิงพระบรมศพได้ จึงเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางกราบพระศพ หรือปางแหย่เท้า  ทั้งนี้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปกราบไหว้สักการะได้เป็นประจำทุกวัน