ความเป็นไทยกับความเป็นทีม


เพิ่มเพื่อน    

 

                                                       (1)

                หลังๆ มานี้...บรรดากีฬาประเภท ยอดนิยม ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล, เทนนิส ชักเป็นอะไรที่น่าเบื่อ น่าเอียน อยู่พอสมควร คือมันอาจ เตะ กันเยอะไป หรือ ตบ กันมากไป ดูมา-ดูไป ก็เลยเป็นอันต้องเบื่อๆ เอียนๆ กันไปตามสภาพ ถ้าหากไม่ใช่แมตช์ประเภท หงส์แดง-ลิเวอร์พรุน ปะทะ ผีแดง-แมนฯ ยูฯ, เจ้าบุญทุ่ม-บาร์ซา ฟาดแข้งกับ ราชันชุดขาว-เรอัล มาดริด หรือ เทพเจ้า-เฟเดอเรอร์ ตบกับ มนุษย์ต่าวดาว-นาดาล แล้ว...ก็แทบไม่เหลือแรงกระตุ้น แรงจูงใจ พอให้ต้องนั่งเฝ้าจอเหมือนก่อนๆ...

                                                     (2)

                แต่ก็พอได้กีฬาอย่าง แบดมินตัน นั่นแหละ...มาช่วยตัดความเลี่ยน ความเอียน ลงไปได้มั่ง โดยเฉพาะในยุคหลังๆ ที่มีคนไทย เด็กไทย หรือทีมชาติไทย โผล่เข้าไปแจมกับนักแบดมินตันในระดับเวิลด์คลาส ระดับโลก ได้แบบชนิดถึงไหน-ก็ถึงกัน คือไม่ใช่มีแต่เฉพาะ น้องเมย์-รัชนก เพียงรายเดียวโดดๆ ที่สามารถคว่ำมือวางอันดับ 1 หรืออันดับต้นๆ ของโลกมาแล้ว ไม่รู้ต่อกี่แมตช์ กี่ทัวร์นาเมนต์ หลังๆ มานี้...ยังมี น้องบาส-เดชาพล กับน้อง ปอป้อ-ทรัพย์สิรี คู่ผสมชาย-หญิง ที่ไล่ทุบ ไล่ถอง นักแบดมินตันระดับเวิลด์คลาส ได้ในระดับเดี้ยงแล้ว เดี้ยงอีก ขนาดคู่ผสมมือวางอันดับ 1 ของโลก อย่าง เจิ้ง ซีเหว่ย และ หวง หย่าเฉียง นักแบดมินตันชาวจีน ที่ได้ชื่อว่าแทบ แพ้ไม่เป็น เมื่อต้องโคจรมาเจอกับ น้องบาส-น้องปอป้อ ที่เคยแพ้แล้ว-แพ้อีก มาถึง 6 ครั้งรวด แต่กลับถูกคู่ผสมชาวไทยทุบๆ ถองๆ จนต้องรู้จักคำว่าแพ้ ไปในรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น เมื่อไม่นานมานี้...

                                                     (3)

                และในรายการชิงแชมป์โลกแบดมินตันทีมผสม ที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ที่กำลังแข่งๆ กันอยู่ในรอบสัปดาห์นี้ ไม่เพียงแต่นักแบดมินตันทีมชาติไทยจะสามารถฝ่าด่านหิน ด่านกระเบื้อง ทะลุเข้ารอบตัดเชือก หรือรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 3 ใครที่มีโอกาสได้ดูแมตช์ น้องหมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยว ดาวรุ่ง พุ่งแรง ดวงใหม่ของทีมไทย ลงไล่ทุบ ไล่ฟัดกับ ไอ้อ้วน-อากาเนะ ยามากูชิ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวชาวญี่ปุ่น ที่เพิ่งขึ้นมาเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลก รับรองว่า...หนีไม่พ้นต้องเอวบิด เอวคลอน หัวใจสั่น หรือเผลอๆ อาจถึงขั้นหัวใจวายเอาง่ายๆ เพราะช่างเป็นอะไรที่ วิ่ง-สู้-ฟัด-โหด-เลว-ดี ชนิด มันซ์ซ์ซ์ แตกเยิ้มออกมาเป็นสายๆ...

                                                       (4)

                คือแม้จะเป็นแค่มือวางอันดับ 20 แต่ น้องหมิว-พรปวีณ์ เธอวิ่ง-สู้-ฟัด ไอ้อ้วน-อากาเนะ ชนิดแทบไม่เหลือไขมัน ถูกรีดไขมันตั้งแต่เซต 2 เซต 3 จนสามารถคว้าชัยชนะเหนือมือวางอันดับ 1 ของโลกไปในท้ายที่สุด เซตแรก...แพ้ไปก่อน 9 ต่อ 21 เซตสองฮึดขึ้นมา เบียดแซงเอาชนะนักแบดมินตันญี่ปุ่นไปได้ถึง 21 ต่อ 14 ส่วนเซต 3 หรือเซตสุดท้ายนี่แหละ ที่เล่นเอาแทบหัวใจวาย ต้องบิดไป-บิดมา จนซี่โครงแทบหลุดออกจากร่าง เมื่อดาวรุ่ง พุ่งแรง ของทีมไทย ออกแรงฮึดในระดับ...ถ้าไม่ชนะก็ตาย โดยต้องไม่มีคำว่าแพ้เป็นเด็ดขาด เฉือนเอาชนะนักแบดมินตันระดับเขี้ยวลากดินและเกล็ดแตกลายงาแห่งทีมญี่ปุ่น ไปได้แบบหวุดๆ หวิดๆ 22 ต่อ 20 สามารถนำพาทีมชาติไทยทะลุเข้ารอบต่อไปกันจนได้...

                                                     (5)

                ส่วนในรอบ ตัดเชือก หรือรอบ 4 ทีมสุดท้าย...ที่จะลงแข่งในวันเสาร์ (25 พ.ค.) และดันต้องโคจรไปเจอกับทีมที่ไม่มีอะไรติดมันเอาเลยแม้แต่น้อย มีแต่ กระดูก ล้วนๆ อย่างทีมจีน ซึ่งเต็มไปด้วยมือวางอันดับ 1 อันดับต้นๆ ของโลกในทุกๆ ประเภท ไม่ว่าชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว คู่ชาย คู่หญิง คู่ผสม ผลจะเป็นเช่นไรนั้น? คงยังมิอาจสรุปได้ เพราะขณะที่เขียนต้นฉบับชิ้นนี้ยังไม่ถึงเวลาลงสนาม แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่าจะไปไม่ถึงดวงดาว แค่พอได้เตร็ดเตร่อยู่ใกล้ๆ ทางช้างเผือก ก็ต้องถือว่า...ยอดแล้ว สุดๆ แล้ว!!!และคงหนีไม่พ้นต้องยกคุณงาม ความดี ไปให้กับเด็กไทย นักกีฬาแบดมินตันไทยในทุกๆ ราย โดยที่มิอาจลืมได้ ก็คือท่านนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันรายใหม่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่น่าจะเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ไม่แพ้นักกีฬาในแต่ละราย เผลอๆ...อาจเหนื่อยกว่าซะด้วยซ้ำ เพราะถึงขั้นลงทุนไปแหกปากส่งเสียงเชียร์นักกีฬาอยู่ข้างสนาม แทบทุกแมตช์ แทบทุกคู่...

                                                      (6)

                ความสำเร็จของนักกีฬาไทย การกีฬาไทย...ในช่วงหลังๆ นั้น ไม่เพียงแต่เป็นอะไรที่น่าปลื้มอก ปลื้มใจ อยู่พอสมควร แต่ยังสะท้อนอะไรบางอย่างที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย คือด้วย ลักษณะพิเศษ แห่ง ความเป็นไทย เท่าที่เคยมีมาตั้งแต่ครั้งอดีต ว่ากันว่า...ถ้าหากว่ากันแบบเดี่ยวๆ แบบเฉพาะ ตัวบุคคล ล้วนๆ อันนั้นนั่นแหละ...ถึงพอจะสู้เขาได้ แบบที่ นายขนมต้ม ตัวคนเดียว สามารถเอาชนะ มวยพม่า ไม่ว่ารายไหน-รายนั้น แต่ถ้าหากลองรวมตัวกันเป็น ทีม เป็นกองทัพทั้งกองทัพ เจอพม่าบุกเข้ามาเมื่อไหร่ ก็มักหงายเก๋ง หงายท้อง ซะทุกทีไป แต่หลังๆ มานี้...ไม่ว่าจะเป็น ทีมแบดมินตันไทย, ทีมวอลเลย์บอลไทย ไปจนถึง ทีมเซปักตะกร้อไทย ฯลฯ ซึ่งต้องอาศัย ความเป็นทีม ไปด้วยกันทั้งนั้น กลับเป็นอะไรที่...สู้เขาได้สบายมาก ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันนี้นี่เอง...ที่น่านำไปศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อนำมาปรับใช้ ประยุกต์ใช้กับ ทีมการเมืองไทย หรือ พรรคการเมืองไทย ให้มันพอได้หายเบื่อ หายเอียน ลงไปได้มั่ง...

                               --------------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"