'อยากเลือกตั้ง'เฮอีกครั้งรอดฝากขัง-หยาม'บิ๊กตู่'อ่านหนังสือน้อย!


เพิ่มเพื่อน    

กาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ ภาพจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

22 ก.พ.61 -  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง คุมตัวนายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ อายุ 24 ปี, นายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ อายุ 24 ปี, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อายุ 25 ปี และนายอานนท์ นำภา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 และข้อหายุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 กรณีจัดการชุมนุมคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา มายื่นฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. – 5 มี.ค. นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีกจำนวน 6 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. กองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ กองทัพภาคที่ 1 ตรวจสอบพบกลุ่มมวลชนเริ่มรวมตัวกันบน ถ.ราชดำเนิน ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. มี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว เป็นแกนนำขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คสช. มีนายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ เป็นพิธีกร และเชิญนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายรังสิมันต์ โรม, นายอานนท์ นำภา, น.ส. ณัฎฐา มหัทธนา และนายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ ผู้ต้องหาร่วมขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลและปลุกระดมมวลชน ต่อมาเวลาประมาณ 19.10 น. มีผู้ชุมนุมประมาณ 400 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจาเพื่อให้เลิกการชุมนุม จนกระทั่งเวลา 19.35 น. ผู้ชุมนุมจึงยกเลิกการชุมนุม จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 7 ได้ปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างรุนแรงและยุยงปลุกปั่นให้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล คสช.อย่างชัดเจน พร้อมแสดงท่าทางประกอบเชิงสัญลักษณ์ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ต่อมาวันนี้ (22 ก.พ.)  นายสุกฤษฎ์กับพวกรวม 4 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับข้อกล่าวหา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและยังมีการนัดหมายจะจัดการชุมนุมอีกหลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ก็ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังไว้ด้วย ต่อมาศาลจึงได้ไต่สวนคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนและคำคัดค้านของผู้ต้องหาที่ห้องเวรชี้ ชั้น 1 อาคารศาลอาญา กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ศาลพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ที่ขอฝากขังผู้ต้องหาดังกล่าว เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี 

อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนด้วยดีมาโดยตลอด และพนักงานสอบสวนยังสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีได้ด้วยความสะดวก ในชั้นนี้จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 ให้ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ก็มีคำสั่งยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน โดยไม่รับฝากขังผู้ต้องหา “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” 5 คน ประกอบด้วยน.ส.ณัฏฐา มหัทนา, นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ, นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล, นายวีระ สมความคิด และนายสมบัติ บุญงามอนงค์  คดียุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และกระทำความผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ที่จัดกิจกรรมรวมพลประชาชนคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณสกายวอล์คแยกปทุมวัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า MBK 

ครั้งนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ขอคัดค้านการฝากขังด้วย ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้ก็เห็นว่า ผู้ต้องหาล้วนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และได้ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ผู้ต้องหาบางคนพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปเข้าร่วมการชุมนุมและก่อให้เกิดเหตุอันตรายก็เป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น ศาลเห็นว่าจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะขังผู้ต้องหาไว้

ต่อมาเวลา 17.00 น. ภายหลังได้รับการปล่อยตัว นายสิรวิชญ์ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้ยกคำร้องของพนักงานสอบสวนในการขออำนาจศาลฝากขัง โดยให้เหตุผลว่า ทางพวกเราได้ให้ความร่วมมือในการมารายงานตัว ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี ส่วนที่ตำรวจอ้างว่าพวกเรามีพฤติการณ์เป็นแกนนำ ศาลก็เห็นว่าสิ่งที่อ้างไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ศาลจึงยกคำร้องและให้ปล่อยตัวในวันนี้ หลังจากนี้ไปเราจะเดินหน้าทำกิจกรรมของเราต่อในวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ด้านนายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ นักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า วันที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น. ขอเชิญประชาชนที่รักความเป็นธรรมและอยากเห็นความเสมอภาคในสังคมออกมาต่อสู้ วันนี้เรา 4 คน ได้พิสูจน์แล้วว่าเราออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของเรา เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง จะมีใครมาแจ้งข้อกล่าวหาเราก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงของประเทศชาติ ตรงนี้คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เราต้องการการเลือกตั้งให้ได้ภายในปีนี้

"ฝากถึงนายกรัฐมนตรีที่ออกมาขอให้อาจารย์ไม่ให้สนับสนุนการทำกิจกรรมแล้วให้สอนหนังสืออย่างถูกต้องนั้น อาจารย์ผมสอนในสิ่งที่ถูกต้อง สอนตามหลักยุติธรรมและสากลทุกประการ ตามหลักประเทศที่มีสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยเขาทำกัน ขอให้ท่านนายกอ่านหนังสือเยอะๆ การเรียนรู้น้อยเป็นเรื่องที่น่าอันตราย”นายกาณฑ์  กล่าว
 
ส่วนนายอานนท์ กล่าวว่าคิดว่าการตั้งข้อหาในวันนี้ ทางทหารต้องการเพื่อสกัดไม่ให้พวกเราได้แสดงสิทธิเสรีภาพ แต่เราก็ยืนยันว่าการใช้สิทธิเสรีภาพของพวกเราใช้ด้วยความสงบ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากตำรวจหรือทหารเห็นว่าผิดก็เชิญแจ้งความได้อีก เราก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อศาล เพราะการทำกิจกรรมทุกครั้งทำเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง เป็นสิ่งที่เราจะต้องยืนยันในจุดนี้ ในส่วนของคดีที่โดนฝากขังในวันนี้จะต้องเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีหมายเรียกว่าจะให้มาวันไหน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"