4 มิ.ย.62-น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่  แถลงกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ 7 พรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.ว่า วันนี้ได้ข้อสรุปแล้ว เป็นไปตามที่ทางพรรคเพื่อไทยเปิดเผย นั่นคือทั้ง 7 พรรคยืนยันจะเสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแคนดิเดตนากยรัฐมนตรี และเราคาดหวังว่าจะได้เห็นการแสดงวิสัยทัศน์ ของแคนดิเดตนายกฯทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และนายธนาธร

 “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรที่จะปรากฎตัวและแสดงวิสัยทัศน์ต่อ รัฐสภาและพี่น้องประชาชน การโหวตแม้จะเกิดขึ้นในรัฐสภา แต่ผู้ที่ควรตัดสินว่าใครควรเป็นนายกรัฐมนตรีควรเป็นประชาชนทั้งประเทศ พวกเขาควรได้เห็นว่านายกฯของพวกเขามีคุณสมบัติอย่างไร มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาบริหารภาษีของประชาชนหรือไม่ "

โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้นายธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ได้พูดชัดเจนแล้วว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายก เป็นสิ่งที่ทำได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายห้าม โดยนายธนาธรจะเดินทางไปที่สภา เพื่อรับฟังการประชุมที่ห้องประชุม ส.ส.ของพรรคภายในอาคารรัฐสภา แม้จะไม่สามารถเข้าไปในห้องประชุมร่วมได้ แต่ถ้ามีการอนุญาตให้แสดงวิสัยทัศน์ นายธนาธรจะเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ในฐานะ ส.ส.ซึ่งไม่ขัดคำสั่งศาล 

อย่างไรก็ตาม หากสุดท้ายคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการตัดสิทธินายธนาธรไม่ให้เป็น ส.ส. แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส. ซึ่งเป้นสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย แต่เมื่อการเดินทางการของเรามาถึงจุดนี้ คงเป็นสิ่งที่สังคมได้เห็นว่าเราทำอย่างเต็มที่ แต่หัวหน้าพรรคของเรากลับไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภา จึงถือว่า นายธนาธรมีศักดิ์ และสิทธิทุกประการในการดำรงตำแหน่งนากยกรัฐมนตรี

 ถามว่าอะไรคือเหตุผลที่ทั้ง 7 พรรค เลือกนายธนาธร เป็นแคนดิเดต น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถตอบแทนทั้ง 7 พรรคได้ แต่สำหรับเรา ต้องบอกว่า รู้สึกเป็นเกียรติ ที่แคนดิเดตของพรรคได้รับการยอมรับจากทั้ง  7 พรรค แต่ในความเป็นจริงแล้วจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ เพราะการรวมตัวของทั้ง 7 พรรคนั้นรวมด้วยอุดมการณ์ ทุกคนมีแนวทางเดียวกันคือ ทำอย่างไรก็ได้ ที่ไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคสืบทอดอำนาจได้ครองอำนาจในการบริหารประเทศต่อ ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สำคัญ แต่ทางเราก็ขอบคุณที่เป็นนายธนาธร.