“สมคิด” ปัดตอบเอกชนรุมยี้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่


เพิ่มเพื่อน    

 

26 มิ.ย. 62 - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2562 มีการชะลอตัว โดยมีสาเหตุมาจากการเมืองภายในประเทศที่มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้มาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีรัฐบาลใหม่ชัดเจนที่จะสามารถเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะการเดินหน้าการลงทุนที่จะเริ่มมีมากขึ้น

“ประเทศไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่ดีมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีปัญหาแค่เมื่อมีการเลือกตั้ง ทำให้ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งตอนนี้มีความชัดเจนแล้ว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และยืนยันว่ากลางเดือน ก.ค. 2562 จะได้รัฐบาลใหม่ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น นักลงทุนและประชาชนจึงไม่ควรกังวลอีกต่อไป” นายสมคิด กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ปฏิเสธให้ความเห็นเรื่องที่ภาคเอกชนมองทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่ายังไม่ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นได้ โดยนายสมคิดได้เดินไปขึ้นไปประชุมให้นโยบายผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรต่อเนื่อง

นายสมคิด กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นรอยต่อรัฐบาลเก่ากับใหม่ จึงอยากให้มั่นใจว่า ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรได้ดีไม่เกิดการสะดุด ซึ่ง ธ.ก.ส. ต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรปีนี้ที่เกิดปัญหาแห้งแล้งมาก ชาวนาและชาวไร่จะได้รับความเดือดร้อน ต้องยกระดับเกษตรกรให้เป็นเกษตรอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม เป็นทางเดียวที่จะช่วยเหลือเกษตรกรได้ ไม่ใช่ให้ขายแต่ผลผลิตราคาต่ำ

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้ามาช่วย ธ.ก.ส. ในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเกษตรกรเกษตรกร ให้ยกระดับการผลิตเพิ่มมูลค่าให้ได้ ให้ ธ.ก.ส. ทำตามลำพังอย่างเดียวการดำเนินการจะไม่มีพลังไม่พอ

“ให้กรมส่งเสริมการเกษตร เจ้ามาช่วยเรื่องการยกระดับสมาร์ทฟาร์เมอร์ ซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีฐานลูกค้าอยู่ 3 แสนราย ให้สามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร แปรรูป และหาช่องทางจำหน่าย รวมทั้งจะขอความร่วมมือจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ผลักดันให้สินค้าเกษตร และ สตาร์ทอัพเกษตรเข้าระดมทุนทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มในอนาคตด้วย” นายสมคิด กล่าว

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ในปีบัญชี 2561 ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อได้กว่า 6.7 แสนล้านบาท โดยมีเกษตรกรลูกค้ามากกว่า 4.2 ล้านราย มีพอร์ตสินเชื่อทั้งระบบรวมกันกว่า 1.4 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ดี ธนาคารได้เตรียมมาตรการช่วยเกษตรกรลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทซึ่งมีจำนวนกว่า 1.5 ล้านราย มีมูลหนี้กว่า 3.1 ล้านล้านบาท และเกษตรกรในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อลดต้นทุนปัจจัยการผลิต 2.67 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 9.09 แสนล้านบาท เช่น มาตรการขยายระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ 3 ปี การปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเป็นต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"