ดีเดย์1มี.ค.นี้23ศาลนำร่องใช้กำไลEMสวมข้อเท้าผู้ต้องหา-จำเลยแทนหลักทรัพย์ประกัน


เพิ่มเพื่อน    

27 ก.พ.61- ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมลงนามบันทึกความตกลง (MOU) ความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและกรมคุมประพฤติ เพื่อนำมาใช้ในการสืบเสาะและพินิจจำเลย การสั่งให้ดำเนินการควบคุมความประพฤติ โดยจะเริ่มดำเนินการเชื่อมโยงไฟล์เอกสารระหว่างศาลยุติธรรม 235 แห่ง กับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. นี้เป็นต้นไป 

วันเดียวกันนี้ นายสราวุธยังได้แถลงข่าวการนำอุปกรณ์ EM หรือกำไลข้อเท้า มาใช้แทนการวางเงินประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยในการขอปล่อยชั่วคราว เพื่อใช้สืบเสาะพฤติกรรมผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีอาญา ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม และลดปริมาณผู้ต้องขัง หรือจำเลยโดยมีศูนย์ควบคุมตรวจสอบติดตามการปล่อยชั่วคราวตลอด 24 ชั่วโมง

    นายสราวุธ กล่าวว่า หากผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอ หรือพฤติการณ์ไม่ร้ายแรง ก็เป็นดุลยพินิจศาลว่าจะใช้กำไลข้อเท้าควบคุมหรือไม่ ที่ผ่านมาจากการประเมินพบว่า  มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยจะเริ่มใช้กำไลข้อเท้าจำนวน 5,000 เครื่อง กับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาในวันที่ 1 มี.ค.นี้ กับศาลนำร่อง 23 ศาลทั่วประเทศ อาทิ ศาลอาญา 600 เครื่อง ศาลจังหวัดมีนบุรี 600 เครื่อง ศาลอาญากรุงเทพใต้ 300 เครื่อง ศาลอาญาธนบุรี 300 เครื่อง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 50 เครื่อง

    ซึ่งกำไลข้อเท้าจะทำให้เจ้าพนักงานศาลรู้ว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขศาลหรือไม่ เช่น  ป้องกันการหลบหนี หรือจะก่อเหตุประทุษร้ายกับผู้เสียหายอีก การออกนอกพื้นที่ หรือการฝ่าฝืนเงื่อนไข ศาลจะพิจารณาออกหมายจับต่อไป  ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้การจัดการบริหารคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สะดวก รวดเร็ว ประหยัด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของประธานศาลฎีกา

    ด้านนายกำพล รุ่งรัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า กำไลข้อเท้า EM ซึ่งติดระบบนำทาง GPS ไว้มีน้ำหนักเบา 230 กรัม จะถูกสวมที่ข้อเท้าผู้ต้องหาหรือจำเลยตลอดเวลา เพื่อใช้กำหนดพื้นที่การเดินทาง ความเคลื่อนไหว และพื้นที่ต้องห้าม สอดส่องพฤติกรรมของผู้ใช้ หากมีการกระทำผิดเงื่อนไข เช่น ออกนอกพื้น มีการทำลายกำไลข้อเท้า ฯลฯ เครื่องจะแสดงสัญญาณไปที่ศูนย์ควบคุมฯ ให้เจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผลัดละ 8 คน 8 ชั่วโมง รายงานต่อผู้พิพากษาเวรแต่ละศาลเพื่อพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาหรือจำเลยทันที สำหรับกำไลข้อเท้า EM นี้ในปีแรก ทางศาลยุติธรรมจะเริ่มใช้จำนวน 5,000 เครื่อง ใช้งบประมาณ 80.8 ล้านบาทและจะเพิ่มเป็น 10,000 เครื่องให้แก่ศาลอื่นๆ ในปีที่ 2 โดยจะมีการประเมินผลการใช้งานแบบปีต่อปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"