‘จ่านิว’เป็นเหยื่อการเมือง!


เพิ่มเพื่อน    

 "จ่านิว" ยังสาหัส แต่กลุ่มสนับสนุนไปกันใหญ่ รณรงค์บริจาคเงินช่วยเหลือคนละ 247.5 บาท โยงปี พ.ศ.เปลี่ยนแปลงการปกครอง "โอ๊ค" เอาด้วย ทำร้าย 10 เกิด 100  "บิ๊กป้อม" สั่งตำรวจติดตามคดีใกล้ชิด "ภูมิธรรม" ชี้เป็นสัญญาณความเลวร้าย จากกลุ่มที่รู้งาน และสามารถหลบหนีอย่างลอยนวล  จวกรัฐบาลไม่กระตือรือร้น "ชวน" เผย "ราเมศ" ก็เคยถูกตี ต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้

    ที่โรงพยาบาลนวมินทร์ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน คณะแพทย์ผู้ทำการรักษานายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เปิดเผยอาการล่าสุดว่า มีแผลฉีกขาด 2 แห่ง และมีเลือดคั่งในเบ้าตาขวา ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน จมูกบวมมีเลือดกำเดา ขณะที่ผลเอกซเรย์ สมองและกระดูกเบ้าตาพบว่า จมูกและกระดูกใบหน้าหัก กระดูกเบ้าตาข้างขวาแตก มีก้อนเลือดคั่งกดเส้นประสาท ซึ่งทางคณะแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเย็บแผลฉีกขาดที่ศีรษะและคิ้วขวา พร้อมเจาะระบายความดันในลูกตาข้างขวา และให้ออกซิเจน, น้ำเกลือ, ยาแก้อักเสบ แก้บาดทะยัก รวมถึงยาลดบวมของเส้นประสาทตา
    สำหรับความคืบหน้าของคดี มีการเผยแพร่คลิปขณะจ่านิวซึ่งใส่เสื้อสีขาวกำลังเดินออกจากปากซอย โดยถือของทั้งสองมือ ขณะที่คนร้ายที่ขี่มอเตอร์ไซค์สีขาวได้เข้าไปจอดรถใกล้ๆ ก่อนใช้ไม้หรืออาจจะเป็นเหล็กตีจ่านิวและหลบหนีไป
    ล่าสุด มีการรณรงค์ให้บริจาคเงินช่วยจ่านิว ผ่านบัญชีเงินฝากของแม่จ่านิว โดยระบุให้บริจาคคนละ  247.5 บาท นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่าโยงการเมืองมากเกินไป เพราะเป็นตัวเลข 2475 ปี พ.ศ.การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 
    พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แสดงความกังวลต่อการใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติติดตามความคืบหน้ากรณีนายสิรวิชญ์ โดยขอให้เร่งสืบสวนขยายผลนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม
    "พล.อ.ประวิตรได้ย้ำขอให้ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงร่วมกันคุ้มครองดูแลความปลอดภัยกับประชาชนในทุกกลุ่มบุคคลที่ใช้สิทธิและเสรีภาพแสดงออกความเห็นหรือจัดกิจกรรมใดๆ ภายใต้กรอบกฎหมายให้ใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมเรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ด้วยการเปิดใจกว้างแสดงความคิดเห็นและรับฟังกันอย่างสร้างสรรค์ ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ รวมทั้งปฏิเสธความรุนแรงและการใช้คำพูดที่ยั่วยุ สร้างความโกรธเกลียดกันทางสังคม" โฆษกกลาโหมกล่าว
    ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โทรศัพท์ถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดูแลให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย
    นายชวนระบุด้วยว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกับสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ คือนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยถูกทำร้ายจนต้องนำส่งโรงพยาบาล แต่ขณะนี้ยังหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้
เขาไม่ควรถูกทำร้าย
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า จ่านิว เขาไม่ควรถูกทำร้าย ไม่ว่าเขาจะเห็นตรงหรือเห็นต่างกับเรา สังคมนี้ก็ควรอดทน อดกลั้น เสรีภาพที่สำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตย คือเสรีภาพในการพูด ไม่ใช่อื่นใด ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย เราต้องท่องคำกล่าวที่ว่า "ข้าพเจ้ายอมเสียสละชีวิตให้ท่านได้พูดในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย" หากเรารับหลักการนี้ไม่ได้ อย่าเรียกตัวเองว่าเราเป็นคนในสังคมประชาธิปไตยเลย ผู้มีอำนาจส่งไม้ต่อให้ดี อย่าให้พลาด พลาดแล้วที่ชนะอาจกลายเป็นแพ้ได้
    นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม อดีตผู้สมัคร ส.ส.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นถึงกรณีนายสิรวิชญ์ว่า ไม่ว่าจะเห็นต่างทางการเมืองแค่ไหน ไม่ว่าจะไม่พอใจใครเป็นการส่วนตัวแค่ไหน ไม่ว่าระบบที่ประเทศเราเป็นอยู่จะเป็นประชาธิปไตยแค่ไหน ไม่มีกรณีไหนที่ทางออกคือ "การใช้ สนับสนุน หรือสะใจกับความรุนแรง"
    ด้านนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา อดีตผู้สมัคร  ส.ส.กทม. เขตบางแค และนายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสวนหลวง ประเวศ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึง? พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์? ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี เพื่อขอให้เร่งดำเนินการจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายที่รุมทำร้ายร่างกายจ่านิว
     นายกฤชนนท์กล่าวว่า เนื่องจากกรณีจ่านิวถูกทำร้ายนั้นเป็นที่สนใจของสังคมในวงกว้าง จึงมีความเป็นห่วงในอาการบาดเจ็บของจ่านิว และไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่โหดร้ายดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ มีบุคคลกลุ่มหนึ่งพยายามโยงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายรัฐบาล โดยอ้างว่าเพราะจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลมาตลอด ซึ่งพวกเราไม่อยากให้เกิดการสร้างวาทกรรมใส่ร้ายป้ายสีข้างเดียวแบบนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในสังคมระหว่างผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย และมองไม่เห็นว่ารัฐบาลจะได้ประโยชน์อะไรจากการที่จ่านิวถูกทำร้าย แต่ในทางกลับกัน มองเห็นว่าคนกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์จากการปลุกระดมมวลชน
    "ดังนั้นหากปล่อยให้เนิ่นนาน อาจจะเป็นช่องทางให้คนบางกลุ่มฉวยโอกาสสร้างวาทกรรมทำร้ายประเทศชาติ ดังที่ปรากฏตามหน้าสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงขอให้ตำรวจดำเนินการติดตามตัวจับกุมผู้กระทำความผิดโดยเร็วที่สุด เพื่อความเป็นธรรมแก่จ่านิว และความขัดแย้งทางความคิดของสังคมต่อกรณีนี้จะได้สิ้นสุดลง" นายกฤชนนท์กล่าว 
    นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Oak Panthongtae ระบุว่า ในโลกประชาธิปไตย วิธีการที่โหดร้ายป่าเถื่อน ไม่เคยชนะการเมืองภาคประชาชนเลยสักครั้ง ทำร้าย 1 เกิดใหม่ 10 ทำร้าย 10 เกิดใหม่ 100 จะมีกิจกรรมประชาธิปไตยเกิดขึ้นอีกมากมาย จนกว่ารากเหง้าเผด็จการฯ ที่เป็นต้นตอของความรุนแรง จะหมดสิ้นไป ขอให้จ่านิวหายเป็นปกติโดยเร็วนะครับ
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. กล่าวว่า ไม่เคยเห็นกับท่าทีของนายกฯ ที่จะเอาใจใส่และแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจังกับเรื่องนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้คนไทยทุกคนต้องร่วมกันประณาม ขณะเดียวกันเราก็ต้องการค้นหาเป้าหมายที่แท้จริงว่าคืออะไร เพราะเจตนาการทำร้ายจ่านิวเป็นการมุ่งหมายเอาชีวิต ที่ฮ่องกงไม่มีใครตีหัวใคร ยังออกมาเป็นล้าน การตีหัวจ่านิวเหมือนตีหัวคนทั้งชาติ บ้านเมืองหาขื่อแปไม่ได้อีกต่อไป วิธีการแบบนี้มีไม่กี่กลุ่ม ในแวดวงรู้ดีว่าใครเป็นใคร จึงยังจับไม่ได้ เหลือเพียงแต่นายกฯ จะกล้าหรือไม่ ถ้าจับไม่ได้เพียงเดือนแรกมาเป็นรัฐบาลก็คงรอดยาก
    นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เหตุการณ์การทำร้ายผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รุนแรงมากขึ้น กระทำอุกอาจกลางถนน โดยแสดงความพร้อมจากกลุ่มที่รู้งาน และสามารถหลบหนีอย่างลอยนวล โดยที่เราไม่ได้เห็นความกระตือรือร้นจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการเร่งรัดติดตามคนกลุ่มนี้มาลงโทษ
คนรักประชาธิปไตยถูกทำร้าย
    "ผมคิดว่าการที่กลุ่มคนรักประชาธิปไตยที่แสดงออกอย่างสันติอย่างจ่านิวถูกทำร้ายอีกครั้งอย่างอำมหิต ถือเป็นสัญญาณความเลวร้ายที่สังคมไทยไม่สามารถยอมรับ และไม่อาจให้ปล่อยผ่านได้ เราต้องช่วยกันดูแลและปกป้องมิให้การคุกคามประชาชนผู้เห็นต่างทุกรูปแบบมีที่ยืนอยู่ในสังคม"
    เลขาธิการพรรคเพื่อไทยชี้ว่า รัฐบาลต้องมีคำตอบในการติดตามหาผู้กระทำผิดในเรื่องนี้ให้กระจ่างชัดโดยเร็ว ความอุกอาจที่เงียบเฉยครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นคำถามของสังคมที่สงสัยถึงความรับผิดชอบของรัฐและผู้เกี่ยวข้อง การปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก บอกได้ว่ารัฐกำลังตั้งใจเพิกเฉย ไม่ใส่ใจต่อคนที่เห็นต่าง และกำลังทำให้ประเทศนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับทุกๆ คน รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้เรื่องอัปยศน่ารังเกียจเช่นนี้ เกิดขึ้นกับใครอีกต่อไป
    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เขตคลองสามวา กทม.พรรคเพื่อไทย พื้นที่ที่เกิดเหตุกับ ส.ส.กทม. อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายการุณ โหสกุล, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ โดยเริ่มตรวจสอบตั้งแต่บ้านของนายสิรวิชญ์ ที่อยู่ในซอยรามอินทรา 109/2 ซึ่งเป็นจุดที่นายสิริวิชญ์เดินออกมาถนนใหญ่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งห่างประมาณ 100 เมตร
          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ไม่น้อยกว่า 9 จุดถึง 18 ตัว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใช้การได้หรือไม่ ซึ่งขอเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครรีบส่งข้อมูลให้กับตำรวจในการตรวจหาผู้กระทำผิดในทันที ซึ่งตนหวังว่าคงจะไม่ใช่กล้องดัมมี่อีก ในช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ประสานงานสั่งการให้ตำรวจนครบาล 3 ที่รับผิดชอบพื้นที่เขตคลองสามวา มาตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยกำชับว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้
          นายจิรายุบอกว่า จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน และเกิดขึ้นกลางกรุงเทพมหานครในเวลากลางวันแสกๆ ซึ่งวันนี้กลับไม่มีคนในรัฐบาลออกมาให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด มีแต่ ส.ส.พรรครัฐบาลออกมาแสดงความสะใจและประชดประชันผ่านโลกโซเชียลฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง ไม่ว่าผู้ถูกทำร้ายจะเห็นต่างทางการเมือง แต่เขาเป็นคนไทยเหมือนกัน และถ้าหากเป็นลูกหลานของคนในพรรครัฐบาลท่านจะทำอย่างไร
         ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นในขณะนี้ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเงินเพื่อนำไปมอบให้กับคุณแม่ของนายสิริวิชญ์เป็นจำนวนกว่า 150,000 บาทและพี่น้องชาวคลองสามวาและมีนบุรีอีกกว่า 50,000 บาท โดยจะนำไปมอบที่โรงพยาบาล Mission ในเวลา 11.00 น.วันนี้
ตั้งกระทู้ถาม"บิ๊กตู่"
          นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในวันพุธที่จะถึงนี้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนจะยื่นกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องความปลอดภัยของประชาชน และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง ในฐานะที่ท่านเคยอ้างว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ     หากท่านไม่มาตอบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน ประเทศนี้คงอยู่ยากเต็มที
    พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รูปการณ์ความป่าเถื่อนเช่นนี้ได้เกิดขึ้นกับนักเคลื่อนไหวการเมืองรายอื่นๆ ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถหาเบาะแสของผู้กระทำผิดได้ แม้ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร แต่ขณะนี้ได้ถูกกระแสสังคมเชื่อไปแล้วว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มขบวนการสืบทอดอำนาจไปแล้ว เว้นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับตัวผู้กระทำผิดมาโชว์ได้
    "ขอคาดการณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ จะต้องเกิดการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นที่จะมีการเรียกร้องความยุติธรรมและนิติธรรมของสังคมไทยให้เกิดขึ้นจากภาคประชาชนผู้รักความยุติธรรม ก็ขอให้ขบวนการยุติธรรมทั้งหลายได้โปรดตระหนักถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงตรง สมคำปฏิญาณด้วยเถิด ก่อนที่สังคมไทยจะขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม และเมื่อนั้นสังคมไทยคงจะเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนจนยากต่อการเยียวยา พรรคการเมืองปีกประชาธิปไตยตระหนักเสมอว่า เมื่อเป็นโอกาสของเราเมื่อไหร่แล้วจะต้องมีการสังคายนากระบวนการยุติธรรมกันครั้งใหญ่อย่างแน่นอน" พล.ท.ภราดรกล่าว
     ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า ...สังคมที่ดีทั้งหลายย่อมไม่ปล่อยให้คนถูกทำร้ายเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป สังคมที่เป็นอารยะเป็นประชาธิปไตยจะต้องปกป้องคุ้มครองเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจ เพราะการคุ้มครองให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาลได้ จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจปกครองโดยฉ้อฉลและปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุล
        การที่ผู้ที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่มีความพยายามที่จะหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และไม่หาทางป้องกันใดๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อนของสังคม ที่มีแต่จะอยู่ใต้การปกครองที่ฉ้อฉลคดโกงเรื่อยไป
          การปล่อยปละละเลยหรือการจงใจให้ผู้เห็นต่างถูกทำร้ายอย่างที่เกิดขึ้น มีแต่จะผลักดันให้สังคมมีความขัดแย้งมากขึ้นไม่สิ้นสุด
เสนอตั้งองค์กรดูแลนักเคลื่อนไหว
    นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผมยึดมั่นในสันติวิธี คัดค้านการสร้างความแตกแยก แตกความสามัคคีและความรุนแรง กรณีการทำร้ายจ่านิวครั้งนี้ สะเทือนใจผู้คนจำนวนมาก เพราะเขาจะไปเรียนต่างประเทศอยู่แล้ว และที่สำคัญ ลุงตู่เดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำของโลกคือกลุ่มจี 20 ที่โอซากา ไม่ควรจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ และเกียรติภูมิความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองโดยรวม
    "ไม่เห็นหรือว่าทันทีที่มีข่าวนี้เกิดขึ้น องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศประสานเสียงกันก้องกระหึ่ม และกล่าวหารัฐบาล ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าใครทำ!!! ตั้งสติไตร่ตรองกันสักหน่อย ก็อาจจะเห็นอะไรมากขึ้น" นายไพศาลระบุ
    สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แถลงการณ์หยุดการใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่าง ระบุว่า สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีความกังวลว่า การกระทำอันไร้อารยวิสัยแห่งสังคมประชาธิปไตย ซึ่งสมควรยอมรับความหลากหลายและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างปัญญาชนพึงกระทำ ย่อมจะนำไปสู่การบ่อนทำลายซึ่งนิติธรรม ความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และคุณค่าที่สังคมประชาธิปไตยยึดถือ อันเป็นเหตุแห่งความเสื่อมถอยของบ้านเมือง ทั้งนี้ การกระทำสามานย์ข้างต้นยังถือเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลอีกด้วย ขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างที่สุด 
    นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เคยมีข่าวถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กว่า บางคนเสนอให้มีคนติดตามห่างๆ โดยใช้ผมเป็นเหยื่อล่อคนร้าย หากผมโดนทำร้ายคนเหล่านี้จะช่วย "ถ่ายภาพ" ผมตอนโดนทำร้าย (แต่จะไม่ช่วยผม) เรียกว่าให้ผมยอมตายเพื่อให้พวกเขาได้ภาพไปเผยแพร่ แทนที่จะห่วงความปลอดภัยของผม พวกเขาห่วงแต่จะได้ภาพตอนที่ผมถูกทำร้ายเท่านั้น
    การคุกคามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเปลี่ยนจากการอุ้ม-ยัดคดีเป็นการทำร้ายร่างกาย องค์กรเหล่านี้จึงไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขา ถึงเวลาที่เราควรจัดตั้งองค์กรใหม่เพื่อ "คุ้มครอง" นักเคลื่อนไหวทางการเมือง องค์กรนี้ควรมีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัย เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด-เหล็กดัดในบ้านของพวกเขา และการรับ-ส่งพวกเขาด้วยรถยนต์ที่ปลอดภัย
          บริการรถยนต์อาจใช้รูปแบบ Grab Taxi โดยการเช่าเป็นรายวัน-ระยะทาง เพียงแต่องค์กรเหล่านี้ติดต่อโดยตรงแทน หากรายใดมีความเสี่ยงมากอาจมีบอดี้การ์ดคุ้มครองเพิ่มเติม หลายคนอาจทักท้วงการคุ้มครองนักเคลื่อนไหวทางการเมืองใช้เงินมาก แต่ความเป็นจริงองค์กรทนายความ-ช่วยเหลือนักโทษก็ใช้เงินมากเช่นเดียวกัน ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ทำได้-ทำไม่ได้ แต่อยู่ที่อยากจะทำหรือไม่ หรือจะต้องมีการสังเวยชีวิตก่อนถึงจะยอมทำ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"