ในหลวง ร.10 เสด็จขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 24 ต.ค. เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย


เพิ่มเพื่อน    

5 ก.ค.62 - เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 เป็นประธานในการแถลงข่าว “การเตรียมการจัดขบวนเรือพระราชพิธีในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช2562” ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือพื้นที่วังนันทอุทยาน

สำหรับผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วยพล.ร.อ.สมหมาย วงษ์จันทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ  พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนพระราชพิธี พล.ต.ท.สุทิน  ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.พรทิพย์  อุดมเวทยนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิเชียร เปมานุกรรักษ์ผู้แทนกรมเจ้าท่าและนางประนอม  คลังทอง รองอธิบดีกรมศิลปากร

พล.ร.อ.ลือชัย  กล่าวว่ารัฐบาลได้มอบภารกิจในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลายโดยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานอนุกรรมการและมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการเช่นกรมศิลปากรกรมเจ้าท่ากรุงเทพมหานครสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นต้นนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการในพระองค์เป็นที่ปรึกษาและอนุกรรมการคอยให้คําปรึกษาและข้อแนะนําการปฏิบัติต่างๆให้แก่คณะอนุกรรมการเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสง่างามและสมพระเกียรติโดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคได้จัดเตรียมเรือพระราชพิธีรวมทั้งสิ้นจํานวน52 ลําโดยมีเรือที่สําคัญเป็นเรือพระที่นั่งได้แก่เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์นอกจากนี้ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วยเช่นเรือรูปสัตว์เรือดั้งเรือแซงเป็นต้น 

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวต่อว่าในการนี้กองทัพเรือจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการซ่อมทําบูรณะเรือพระราชพิธีโดยแบ่งงานเป็น2 ส่วนคือส่วนการซ่อมตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือโดยกรมอู่ทหารเรือและส่วนการตกแต่งตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากรโดยสำนักช่างสิบหมู่กรมศิลปากรปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมบูรณะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเรือพระราชพิธีทั้ง52 ลำอยู่ในสภาพพร้อมที่เข้าร่วมพระราชพิธีฯในครั้งนี้ซึ่งในวันที่11 ก.ค.62 จะได้ดำเนินการประกอบพิธีบวงสรวงเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์จำนวน14 ลำที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธีและโรงเรือพระราชพิธีท่าวาสุกรีจากนั้นวันที่12 - 23 ก.ค.62 จะเชิญเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ลงน้ำและลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรีเพื่อเตรียมงานพระราชพิธีโดยใช้กำลังพลประจำเรือพระราชพิธีจำนวน2,200 นายส่วนใหญ่เป็นกำลังพลที่ไม่เคยเป็นกำลังพลประจำเรือพระราชพิธีมาก่อนและได้ฝึกซ้อมต่อเนื่องปัจจุบันได้รับการฝึกความคุ้นเคยกับเรือภายในหน่วยเสร็จสิ้นแล้วต่อไปเป็นการฝึกซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่8 ก.ค. เป็นต้นไป

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่ากำหนดการซ้อมกําหนดการซักซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาตามแผนการซ้อมจํานวน10 ครั้งแบ่งเป็นการซ้อมย่อยจํานวน8 ครั้งและซ้อมใหญ่จํานวน2 ครั้งเป็นการซ้อมเสมือนวันพระราชพิธีฯเพื่อให้มีความพร้อมที่ปฏิบัติงานในวันพระราชพิธีฯ  โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารควันที่ 24 ต.ค. ทั้งนี้เส้นทางเสด็จพระราชดําเนินที่ได้เตรียมไว้เป็นเส้นทางเดียวกับที่เคยใช้มาตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรคือเส้นทางจากท่าวาสุกรีถึงวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 

ผบ.ทร. กล่าวว่าด้านการจัดรูปขบวนเรือแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว3 สายดังนี้ริ้วสายกลางซึ่งเป็นเรือสายสำคัญประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง4 ลำมีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์นอกจากนี้มีเรืออีเหลืองเป็นเรือกลองนอกเรือแตงโมซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือเป็นเรือกลองในพร้อมด้วยเรือตำรวจนอกและเรือตำรวจในริ้วสายในขนาบข้างสายเรือพระที่นั่งมีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้าเรือเสือทยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์เป็นเรือพิฆาตเรือรูปสัตว์8 ลำและปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทองซึ่งเป็นเรือคู่ชักริ้วสายนอกประกอบด้วยเรือดั้งและเรือแซงสายละ14 ลำรวมทั้งสิ้น52 ลำสำหรับบทเห่เรือได้ประพันธ์ขึ้นใหม่จำนวน3 องก์โดยนาวาเอกทองย้อยแสงสินชัยศิลปินแห่งชาติส่วนนาวาเอกณัฏวัฒน์อร่ามเกลื้อเป็นผู้เห่เรือสำหรับเครื่องแต่งกายฝีพายตัดเย็บโดยสำนักพระราชวังยึดถือรูปแบบเดิมตามโบราณราชประเพณีในการนี้เป็นเครื่องแบบที่มีในคลังและตัดเย็บเพิ่มเติมให้กำลังพลด้วยสำหรับเครื่องแต่งกายฝีพายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จัดสร้างใหม่ทั้งหมด 

“ในการจัดริ้วขบวนพยุหยาทตราทางชลมารคครั้งนี้ได้ยึดรูปแบบตามโบราณราชประเพณีแต่จะปรับริ้วขบวนเรือเล็กน้อยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคถวายผ้าพระกฐินล่าสุดประทับเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณจึงใช้เรือดังกล่าวนำขบวนขณะที่พระราชพิธีครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ขบวนเรือจะมีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์นำขบวน“ พลเรือเอก ลือชัยกล่าว

ผบ.ทร. กล่าวต่อว่านับเป็นบุญของเหล่าทหารเรือที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้จัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคถวายพระเกียรติท่านในครั้งนี้และต้องขอบคุณรัฐบาลที่ได้มอบภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ให้แก่กองทัพเรือผมพูดแทนกำลังพลทุกนายของกองทัพเรือด้วยเลยว่าทุกคนมีความภาคภูมิใจจะทำให้ดีที่สุดให้ความเรียบร้อยสง่างามสมพระเกียรติเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพและเทิดทูนยิ่งของประชาชนที่สำคัญคือจะเหน็ดเหนื่อยยากกำลังพลทุกคนไม่เคยท้อแท้มีอย่างเดียวคือต้องทำเพื่อสถาบันที่รักยิ่งของเราที่ทุกคนเทิดไว้เหนือเกล้า สุดท้ายคืออยากเชิญชวนประชาชนอีกครั้งหนึ่งมาร่วมกันชื่นชมพระบารมีชื่นชมความสวยงามชื่นชมอารยธรรมอันเก่าแก่ของประเทศไทยตลอดสองหากฝั่งเจ้าพระยาตั้งแต่ท่าวาสุกรีถึงวัดอรุณฯรวมระยะทาง 4.2 กิโลเมตรขอย้ำว่าโบราณราชประเพณีเป็นหนึ่งเดียวในโลก 

ภายในงานแถลงข่าวกองทัพเรือได้นำกำลังพลประจำเรือพระราชพิธีสวมเครื่องแต่งกายกำลังพลประจำเรือต่างๆในขบวนเรือพระราชพิธีมาแสดงให้ชมอาทิเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, คู่ฝีพายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์,เรือรูปสัตว์,เรือพิฆาต,เรือแซงเป็นต้น ซึ่งการแต่งกายมีความงดงามและแตกต่างกันตามแบบโบราณราชประเพณี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"