กพฐ.สั่งควบ6รร.ปิดตัว3โรง และมีอีกหลายแห่งเข้าข่ายเลิกดำเนินการ 


เพิ่มเพื่อน    

  

17ก.ค.62-บอร์ด กพฐ. เห็นชอบ ควบรวม สถานศึกษา 6 แห่ง และขอเลิกดำเนินงาน 4 แห่ง เหตุมีครูไม่ครบชั้นเรียน  ไม่มีเด็กเรียน  เผยยังมีโรงเรียนเข้าข่ายยกเลิกอีกหลายแห่ง  แต่ต้องรอความเห็นชอบของผู้ปกครอง

นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในที่ประชุม กพฐ. ได้มีการพิจารณาเห็นชอบการควบรวมสถานศึกษา จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.โรงเรียนบ้านบ่อสวก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) น่าน เขต 1 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 2.โรงเรียนบ้านม่วงเจริญราษฎร์ สพป.น่าน เขต 1 เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 1-ป.6 โดยทั้ง 2 โรงเรียนนี้จะไปรวมสถานศึกษากับโรงเรียนบ้านเชียงยืน ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2561 เนื่องจากทั้ง 2 โรงเรียน มีปัญหาครูไม่ครบชั้น และจำนวนนักเรียนลดน้อยลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวยังผ่านการพิจารณาจากผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาว่าจะให้รวมทั้ง 3 โรงเรียนรวมกัน 3.โรงเรียนบ้านห้วยปุก สพป.น่าน เขต 1 เปิดสอนระดับชั้น ป.1-6 จะไปรวมกับโรงเรียนบ้านห้วยละเบ้ายา ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2/2561 เนื่องจากครูไม่ครบชั้น และขาดแคลนครูกลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก 4.โรงเรียนบ้านห้วยมอญ สาขาใหม่ในฝัน สพป.น่าน เขต 1 เปิดสอนระดับชั้น ป.1-6 จะไปรวมกับโรงเรียนบ้านห้วยมอญ ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2/2561 เนื่องจากโรงเรียนดังกล่าวมีความพร้อมด้านอาคาร สถานที่และบุคลากร 5.โรงเรียนบ้านห้วยเฮือ สาขาห้วยระพี สพป.น่าน เขต 1 เปิดสอนระดับชั้น ป.1-6 จะไปรวมกับโรงเรียนบ้านห้วยเฮือ ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2562 เนื่องจากครูไม่ครบชั้น ขาดแคลนครู และ 6.โรงเรียนวัดบ้านโห้ง สพป.เชียงใหม่ เขต 1 จะไปรวมกับโรงเรียนวัดผาแหน ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1/2562 เนื่องจากจำนวนเด็กลดลง ครูไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบการเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 4 โรงเรียน เนื่องจากไม่มีนีกเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดทุ่งหลุก สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เปิดสอนระดับชั้น อ.2-ป.6 2.โรงเรียนต้นแหนหลวงประสิทธิ์วิทยา สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เปิดสอนระดับชั้น ป.1-3 3.โรงเรียนดอนชัยวิทยาคาร สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เปิดสอนระดับชั้น ป.4-6 และ 4.โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ สพป.เชียงใหม่ เขต 4 เปิดสอนระดับชั้น ป.1-6 โดยขอยกเลิกสถานศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป 

 

ทั้งนี้ในส่วนของการควบรวมสถานศึกษานั้น ที่ประชุมพบว่า บางโรงเรียนมีการแบ่งเด็กไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งและยังไม่ดำเนินการยกเลิกโรงเรียนเดิม ทั้งนี้หากโรงเรียนไหนที่มีจำนวนนักเรียนน้อยอยู่แล้วก็อาจจะหาแนวทางโน้มน้าวให้ผู้ปกครองยกเลิกโรงเรียนเดิมแล้วไปเรียนที่ใหม่ได้ ดังนั้นที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พยายามเฝ้าติดตามการบริหารจัดการของโรงเรียน เพื่อให้เด็กมีคุณภาพในการเรียนจริงๆ อีกทั้งการควบรวมโรงเรียน น่าจะทำให้เด็กได้รับการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพมากกว่า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"