ราชสกุล'เทพหัสดิน​ฯ'ขอขมาเหยื่อ'คดีแพรวา'วอนอย่าเหมารวม-มอบ5แสนช่วยตั้งกองทุนบังคับคดี


เพิ่มเพื่อน    

18 ก.ค.62 - ที่ร้านอาหารเพลิน ถ.วิภาวดี​รังสิต​ ตัวแทนราชสกุล "เทพหัสดิน ณ​ อยุธยา" แถลงข่าวชี้แจงกรณีคดีแพรวาอุบัติเหตุ 9 ศพ กับประเด็นการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ​ และข้อพาดพิงต่างๆ ต่อราชสกุลเทพหัสดินฯ นำโดยนายณัฐพล ทองคำ ทนายความประจำราชสกุล และนายสุชัย เทพหัสดิน ณ​ อยุธยา ตัวแทนราชสกุล

โดยนายณัฐพล กล่าวว่า ทางราชสกุลขออภัยอย่างสูง ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในราชสกุลถามครอบครัวแพรวาเรื่องคดีไปถึงไหนอย่างไร ชดใช้อย่างไร ครอบครัวแจ้งว่าดำเนินการอยู่ จัดการได้ ที่ผ่านมาบอกครอบครัวให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่เคยสนับสนุนให้หลีกเลี่ยง จนเมื่อวันที่ 15 ก.ค. มีข่าวผู้เสียหายไม่ได้รับชดใช้ ทางผู้ใหญ่ร้อนใจ ไม่ได้นิ่งนอนใจ นัดประชุมกันวันที่ 17 ก.ค. จนได้ข้อสรุปคือ 1.คดีเป็นเรื่องส่วนตัว ทางราชสกุลใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้อง 2.ราชสกุลเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น จึงมีมติรวบรวมเงินได้ 5 แสนบาท ตั้งกองทุนมอบให้ผู้เสียหายใช้จ่ายในการติดตามบังคับคดี โดยไม่เกี่ยวกับเงินที่ศาลให้ชดใช้ตามคำพิพากษา ขอให้ผู้เสียหายติดต่อมาที่ตน เป็นน้ำใจจากราชสกุล 3.ขอเรียกร้องให้แพรวาออกมาขอโทษในสิ่งที่ผิดพลาดด้วยความจริงใจ เพื่อให้สังคมเกิดความสบายใจ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก

นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของราชสกุลให้ข่าวว่าขอให้วิจารณ์เรื่องส่วนตัว อย่าเหมารวมราชสกุลนั้น มาจากความไม่สบายใจ เช่นการโพสต์ข้อความในโซเชียลทำนองว่าฉิบหายทั้งโคตร เลวทั้งโคตร สะเทือนทุกคน ยืนยันว่าทุกคนไม่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาทุกคนเงียบ เพราะไม่อยากขัดแย้ง ขอให้ครอบครัวรับผิดชอบ แต่วันนี้ถ้าไม่บอกกล่าวอาจเกินเลย ทำให้ราชสกุลเสื่อมเสีย การถูกเหมารวมไม่น่าจะเกิดขึ้น และที่บางสื่อพาดหัวขู่ฟ้องคนวิจารณ์แพรวาก็ไม่เป็นความจริง ขอให้แยกแยะ ขอบคุณผู้เสียหายที่แสดงความรู้สึกให้เราได้รู้ เราก็ผลักดันให้ครอบครัวชดใช้ หากโพสต์ใดเข้าใจผิดรุนแรง ขอความกรุณาลบได้ก็ลบ ไม่ได้ขอให้ชื่นชม แต่ขอให้เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวซักถามถึงกรณีที่มารดาของแพรวาจะใช้โฉนดที่ดินชดใช้ นายณัฐพล ชี้แจงว่าถ้าผู้เสียหายนำชื่อไปใส่ก็เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ หลังจากนี้ขอให้โจทก์กับผู้เสียหายหารือหาทางออกกัน ตามกฎหมายการชำระหนี้อยู่ที่ผู้เสียหายตกลงกันว่าจะเหมาะสมแบบไหน และขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับมารดาของแพรวา ในการประชุมและแถลงก็ไม่มีครอบครัวแพรวามาประชุมด้วย

เมื่อซักถามถึงกรณีที่ทนายความครอบครัวแพรวาอ้างราชสกุลในการสู้คดีและใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม นายณัฐพล ยืนยันไม่ได้เป็นทนายความครอบครัวแพรวา โดยในขั้นตอนของการทุเลาบังคับคดี ทนายความคนใดจะยกเหตุใดมาใช้เป็นส่วนที่คนนั้นกล่าวอ้าง ผู้พิพากษาจะให้หรือไม่ถือเป็นดุลยพินิจ และศาลก็ได้ใช้ดุลยพินิจแล้ว ที่ออกมาแถลงไม่ได้ติดใจเรื่องดังกล่าว แต่ออกมาเพราะไม่อยากเห็นความแตกแยก ผู้ใหญ่ไม่ปกป้องคนทำผิด

ด้านนายสุชัย กล่าวสั้นๆ ว่า ขอเรียนให้ทราบว่าเราหลายท่านไม่ค่อยมีเงิน พูดแบบไม่อาย บางท่านเป็นข้าราชการ ค้าขายเล็กน้อย ไม่ได้ร่ำรวย เรายืนข้างผู้เสียหาย และควรจะชดใช้ให้ตามที่ศาลตัดสิน ส่วนครอบครัวแพรวาก็ไม่ได้สนิท เคยเจอกันครั้งหนึ่งหลังเกิดเหตุ แพรวาก็ขอโทษทางราชสกุล

ทั้งนี้ ทางราชสกุลเทพหัสดินฯ ได้ออกแถลงการณ์สรุปได้ว่า ทางราชสกุลเทพหัสดินฯ ไม่เคยนิ่งนอนใจ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขออภัยจากใจ และขอขมาทุกคนที่เกี่ยวของกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น ตลอดมาไม่เคยลืมอุบัติเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนั้น และได้ผลักดันให้ทางครอบครัวของแพรวา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ ปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดไม่ได้หนีไปไหน และติดตามข่าวมาตลอด  จนทราบว่า น.ส.รวินภิรมย์ ถูกตัดสินให้รับโทษในคดีอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่เคยคิดหลบหนี เมื่อสอบถามไปทางครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์หลายครั้ง ได้รับคำตอบว่าคดีสิ้นสุดแล้วทุกครั้ง ทางราชสกุลจึงวางใจ และไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์ เนื่องจากสมาชิกของราชกุลเทพหัสดินฯ มีการลงทะเบียนไว้ร่วม 200 ครอบครัว แต่ละครอบครัวก็ได้แยกย้ายกันดำรงชีวิตตามลักษณะครอบครัวเดี่ยวในปัจจุบัน 

จนหลายวันที่ผ่านมา ทางราชสกุลได้รับทราบพร้อมกับประชาชนว่าหลังจากคดีสิ้นสุด ครอบครัว

ผู้ประสบเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์ ซึ่งขอขอบพระคุณนายวรัญญู เกตชู หนึ่งในผู้ประสบเหตุ และพี่ๆสื่อมวลชนหลายสำนักที่เป็นสื่อกลาง กระบอกเสียงส่งข่าวให้พวกเราได้รับทราบข้อเท็จจริง เมื่อได้ทราบข่าวแล้วพวกเราก็เรียกประชุมทันที และได้ข้อสรุปหลายประการ 

ซึ่งในขณะนั้น ทางโลกโซเชียล​ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์​กันอย่างรุนแรงถึงราชสกุลเทพหัสดิน​ฯ โดยไม่ทราบถึงความตั้งใจจริงของเราที่เรียกประชุมทันทีที่ทราบข่าว บางท่านใช้คำพูดรุนแรงไม่สุภาพ พาดพิงถึงบรรพบุรุษผู้ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ทางผู้ใหญ่ในราชสกุลจึงให้ข่าวกับทางสื่อหนึ่งว่าพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ทราบข่าวแล้ว และกำลังเร่งดำเนินการกับเรื่องนี้ ขอวอนให้หยุดพาดพิงถึง

บรรพบุรุษและราชสกุล เนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุ่มเสียง​ต่อการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยกแตกร้าวในสังคม ท่านเป็นออกมาตักเตือนการใช้วาจาในการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ในฐานะผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเพียงเท่านั้นจริงๆ 

ตัวบุคคลที่กระทำผิดที่ใช้นามสกุลเดียวกันนี้ ยินยอมรับโทษตามคำตัดสินในคดีอาญา ส่วนคดีแพ่งที่เพิ่งสิ้นสุดไปนั้นก็ยังไม่จบสิ้นกระบวนการทั้งหมด และทางผู้ประสบเหตุไม่ต้องกังวลเรื่องหมดอายุความ ย้ำว่าทางราชสกุลรับทราบและมีข้อสรุป ท่านผู้ประสบภัยต้องได้รับการชดใช้อย่างแน่นอน 

วันนี้ ทางราชสกุลออกแถลงการณ์​ เพื่อแนะนำ และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขอขมาต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุ โดยขอมอบกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไว้สำรองใช้จ่ายในการติดตามบังคับคดีสืบทรัพย์ตามกฎหมายหลังจากนี้ต่อไป และในนามราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ขอเรียกร้องให้ครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์ น้อมรับปฏิบัติ

ตามคำพิพากษา อีกทั้งเร่งดำเนินการให้ทุกอย่างเรียบร้อยไปด้วยดี ภายใต้คุณธรรมและจริยธรรมอันดี และเมื่อคดีต่างๆ สิ้นสุดลงไปแล้ว ขอวอนต่อสังคมให้โอกาสต่อ น.ส.รวินภิรมย์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงเยาวชนและไม่ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นจริงๆ ได้มีโอกาสแสดงความรับผิดชอบ นอกจากไม่หลบหนีไปไหนและน้อมรับโทษทุกประการแล้ว ก็ขอให้ได้แสดงความรับผิดชอบจัดหาทรัพย์มาเยียวยาต่อผู้ประสบเหตุอย่างครบถ้วน 

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายณัฐพล ทนายความได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายวรัญญู เกตุชู หนึ่งในผู้เสียหาย เพื่อพูดคุยเรื่องเงิน 5 แสนบาท ที่ทางราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา จะมอบให้ ซึ่งทางผู้เสียหายจะนำประเด็นนี้ไปหารือกับทนายความของผู้เสียหายต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"