ส.ส.เพื่อแม้วแฉแหลก ยาเสพติด ยัน ล็อสเปกบริษัทซื้อยางพาราทำถนน


เพิ่มเพื่อน    

27 ก.ค.62 - ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เวลา 20.55 น. วานนี้  นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายเปรียบเทียบปัญหาเศรษฐกิจว่า ประเทศไทยกำลังป่วย ซึ่งเดือนต.ค.นี้ รัฐบาลจะขอเงินไปซื้อยาในการของบประมาณ ถ้ารักษาอาการหาย ชาวบ้านก็ให้ท่านเป็นหมอต่อไป แต่ถ้ารักษาไม่หาย ก็ต้องไล่ท่านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนจะจับอาการป่วยซึ่งมีทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง นายคนไทยคนนี้ การเมืองแย่ เศรษฐกิจทรุด สังคมเลยเสื่อม ดูแล้วรัฐบาลคงรักษาให้หายได้ลำบาก เกิดจากไม่ยอมเอ็กซเรย์อาการของคนป่วยที่แท้จริงก่อนจะรักษา ไม่ยอมรับความจริงว่า ชาวบ้านลำบากเศรษฐกิจตกต่ำ บวกกับความสามารถที่บริหารมา 5 ปี ถ้าใช้ชุดความคิดเดิมดูแล้วคงลำบาก 

นายสุทิน กล่าวว่าฝีมือของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ดูแล้วดูดี เน้นเรื่องการลงทุนอีอีซี เหมือนว่าการลงทุนอีอีซีเป็นเสมือนความหวังที่จะใช้ชุบชีวิตคนไทย แต่วันนี้ชาวสวนยาง แม่ค้าจะตายแล้ว ล้มเหลวรวยกระจุกจนกระจาย ไม่กระจายรายได้ นำมาสู่ความเหลื่อมล้ำ เปรียบเทียบการบริหารเศรษฐกิจกับรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลอภิสิทธิ์ รัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว เศรษฐกิจรัฐบาลนี้ตกต่ำที่สุด มุ่งให้ความสำคัญกับการขยายตัวเลขเศรษฐกิจ แต่ปากท้องชาวบ้านคนละเรื่อง ชาวนาหนี้สินล้นตัวท่วมหัว บอกท่องเที่ยวดีแต่ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กลับซบเซา คืออันเดียวกับการแก้ปัญหายากจนและความเหลื่อมล้ำ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากขึ้น

ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ารัฐบาลทำงบขาดดุลมา 5 ปีแล้วจะรับประกันได้หรือไม่ว่า จะไม่ทำงบขาดดุลอีก หนี้ประเทศเพิ่มขึ้น สองล้านๆที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แค่นี้ชาวบ้านก็โงหัวไม่ขึ้นแล้ว ที่บอกว่า ชาวบ้านกู้มากขึ้น แต่ถามว่าท่านทำอะไรอยู่ คนรวย รวยขึ้น คนจนจนลง ราคาสินค้าเกษตรตกทุกตัว ราคาข้าวสูงขึ้นจริง แต่เพราะไม่มีข้าวขาย เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ให้ทำนาปรัง เพราะไม่มีน้ำ  แล้วประชาชนจะอยู่อย่างไร ความจนมากขึ้น รัฐบาลกดทับเราด้วยภาษีอย่างเลือดเย็น ขึ้นภาษีไม่น้อยกว่า 5 รายการ แถมยังรับภาษีทางอ้อม เพราะของแพงขึ้นทุกวัน ถามนายกฯว่าจะเอาอย่างไรกับภาษีเหล่านี้ 

นอกจากนี้ยังมีภาษีแอบแฝง เช่น กรมธนารักษ์ ที่ยกราคาประเมินราคาที่ดินขึ้นทุกปี แค่คิดจะโอนที่ดินให้ลูกหลานยังทำไม่ได้ เพราะราคาแพงเท่ากับซื้อใหม่ อย่างกรณียางพาราที่สนับสนับให้นำยางไปทำถนน แต่การยางแห่งประเทศทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและท้องถิ่นให้ซื้อยางกับ 3 บริษัทเท่านั้น เป็นการล็อกสเปก แต่ปรากฏว่า 3 บริษัทอยู่บ้านเดียวกัน  สุดท้ายงบประมาณ 1.6 หมื่นล้านก็ตกอยู่กับ 3 บริษัทเท่านั้น จึงขอให้ไปจัดการจะเจอกันอีกทีตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

“ความยากจนทำให้เกิดปัญหาแย่งชิงวิ่งราว จี้ปล้น รวมถึงปัญหายาเสพติด เพราะราคาถูก อีกไม่เกิน 10 ปีกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. ส.ส. ไปจนถึงรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ก็อาจจะติดยากันหมด  หรืออาจจะมีอยู่แล้วที่เป็นขี้ยา หรือพ่อค้ายาก็ไม่รู้ วันนี้หน่วยงานที่รู้ดีที่สุด คือ สีเขียว เพราะลองไปดูในค่ายทหาร ลูกหลานในค่ายทหารก็ติดกันหมด ความแตกแยกในสังคมที่เป็นสงครามสีเสื้อจนเป็นข้ออ้างให้ท่านเข้ายึดอำนาจ ก็มีมูลเหตุจากความเหลื่อมล้ำจนทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจขึ้น การเมืองไทยเป็นปมด้อย เพราะมีรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร นายกฯไปเจรจาในเวทีโลกก็เป็นปมด้อยทำให้บ้านเมืองมีปมด้อยไปด้วย 5ปีที่ผ่านมา อียู 28 ประเทศไม่เจรจาค้าขายกับเรา เลือกตั้งเสร็จแล้วก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าเลือกตั้งเสร็จได้นายกฯสื่อนอกก็ยังไม่เชื่อถือ ทั่วโลกรู้ว่า เลือกตั้งเป็นอย่างไร ชอบธรรมหรือไม่ อยู่ได้นานแค่ไหน มีที่ไหนมีรัฐบาล 19 พรรคมากที่สุดด้วยซ้ำ ซึ่งที่ผ่านก็บริหารงานซึ่งไร้หลักนิติรัฐนิติธรรม” นายสุทิน     

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องกัญชาอยากให้รัฐบาลน้ำเสนอข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุดว่า มีใครตายเท่าไหร่ มีโทษอย่างไร และอย่าอุปทานว่าน้ำมันกัญชาเป็นสิ่งดี เพราะกัญชาไม่ใช่โอสถต้องระวังผลข้างเคียง เพราะกัญชาเป็นยาเสพติด ทำให้เด็กติดยาได้ เพราะสังคมไทยยังไม่มีภูมิคุ้มกันอย่างชาติตะวันตก และอย่าให้ทุกคนตกเป็นแมงเม่า และสุดท้ายไม่อยากให้กัญชาอยู่ในเมืองของใครตกอยู่ในมือคนๆเดียว ซึ่งส่วนตัวตนเห็นด้วย.
 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"