แฉปมเด้ง 'นอภ.ธาตุพนม' สาวลึกคนสนิทเอี่ยวฉ้อโกงรถบรรทุกข้ามชาติ


เพิ่มเพื่อน    

31 ก.ค.62 - ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม นายสุพจน์ ผิวดำ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วย พ.อ.ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการ บก.ควบคุม กองทัพภาคที่ 2 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ศอ.ปส.ชอน.) พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม นายณัฏฐ์กัญจ์กร เกตุสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ด่านศุลกากรนครพนม นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงร่วมประชุมหารือวางแนวทางการแก้ไขปัญหาตามนโยบายของ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เกี่ยวกับมาตรการดูแลบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม ซึ่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ด้านหลังสำนักงานเทศบาลตำบลธาตุพนม

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งค้าแรงงานเถื่อน ลักลอบนำเข้าส่งออก สิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด และป้องกันการฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มผู้อิทธิพล ในการเปิดตลาดนัดไทย-ลาว ทุกวันจันทร์กับวันพฤหัสบดี โดยได้วางแนวทางร่วมกับทุกภาคส่วนในการจัดระเบียบให้มีการเข้าออก ขนย้ายสิ่งของ บริเวณจุดเดียว และมีตรวจสอบการเข้า-ออกผู้ใช้บริการทุกราย

สำหรับปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอธิบดีกรมการปกครองได้มีคำสั่งย้ายด่วน นายชัยวัฒน์ ชัยเวทย์พิสิฐ นายอำเภอธาตุพนม ให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยให้มีผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 หลังจากเพิ่งย้ายจากนายอำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มาดำรงตำแหน่งเดิมเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาการปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวชาวลาว รวมถึงปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นบุคคลใกล้ชิดนายอำเภอธาตุพนม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดูแลผลประโยชน์ของตลาดจุดผ่อนปรนดังกล่าว

จนกระทั่ง พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.เพชรวิชัย จันทะคาม อายุ 56 ปี รอง สว.สส. สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการยาเสพติด อ.ธาตุพนม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มีผลตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ในตลาดจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม

ด้าน พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม เปิดเผยว่าปัญหาดังกล่าวเกี่ยวกับการจัดระเบียบตลาดจุดผ่อนปรนชายแดนไทยลาวมีความหละหลวม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขปัญหา โดยบูรณาการกับ ตม. ที่มีหน้าที่ดูแลในการเดินทางเข้า-ออก ที่ต้องมีการวางมาตรการเข้มงวดในการจัดทำเอกสารต่างๆ เพื่อให้ตรงกันทั้งขาเข้าขาออก เพื่อป้องกันการหลบหนี และฉวยโอกาสกระทำผิดของขบวนการค้าแรงงานเถื่อน หรือเครือข่ายค้ามนุษย์

โดยก่อนที่จะมีการรื้อระเบียบเก่าทิ้ง สืบเนื่องจากวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา มีแรงงานชาวลาว รวม 7 คน แยกเป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน อายุระหว่าง 13-18 ปี ได้หลบหนีเข้าเมือง โดยอาศัยช่องทางตลาดจุดผ่อนปรน โดยมีหลักฐานเป็นบัตรผ่านแดนของจุดผ่อนปรนอยู่ในกระเป๋าแรงงานต่างด้าว จากนั้นมีคนไทยพาหลบหนีออกจากพื้นที่ต้องห้าม และเดินลัดเลาะไปตามคันนานำไปกักขังไว้ในห้องน้ำของบ้านพักขบวนการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม ตั้งแต่เช้าจนค่ำโดยเด็กชาวลาวไม่ได้กินข้าว ด้วยความหิวจึงพังประตูห้องน้ำ พากันหลบหนีออกมา เดินไปขอข้าวชาวบ้านกิน จากนั้นชาวบ้านจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่าเป็นเหยื่อของขบวนการค้าแรงงานเถื่อน เครือข่ายค้ามนุษย์ จึงนำตัวไปสอบสวน

พบว่ามีเครือข่ายค้ามนุษย์ทั้งชาวไทยและชาวลาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเชื่อมโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งทนเป็นขบวนการ มีการเรียกรับผลประโยชน์ โดยใช้ช่องว่างในการเปิดให้ชาวลาวเข้ามาค้าขายบริเวณด่านจุดผ่อนปรน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการตรวจสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ขอพูดในรายละเอียด เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานของหน่วยงานเกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่าเป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ที่เคยมีประวัติถูกจับกุมมาก่อน โดยทางผู้ว่าฯนครพนม ได้กำชับหากตรวจสอบพบบุคคลใดหรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีข้าราชการตำรวจนายหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ และผลประโยชน์ต่างๆในจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม มีภรรยาน้อยหลายคน โดยจะให้ทำหน้าที่เดินเก็บค่าคุ้มครองในจุดผ่อนปรน ทั้งที่ในความเป็นจริงทางอำเภอไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย แต่คนกลุ่มนี้จะให้ลูกน้องไปดักเก็บเงินคนลาวที่ท่าน้ำรายละ 20 บาท รายไหนมีสินค้ามาขายมากจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น และยังไม่นับรวมการนำสินค้าผิดกฎหมายลักลอบนำเข้ามา รวมทั้งยาเสพติด

มีภรรยาน้อยรายหนึ่งของข้าราชการนายนี้ มีส่วนพัวพันกับขบวนการฉ้อโกงรถบรรทุกหัวลาก โดยทำทีเข้าไปเช่ารถบรรทุกจากผู้ประกอบการขนส่งในหลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดนครพนม โดยมีเงินมัดจำจำนวน 4 แสนบาท เมื่อผู้ให้เช่าปล่อยรถให้ไป คนกลุ่มนี้จะนำรถวิ่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อดัดแปลงสภาพรถใหม่ แล้วนำกลับมาขายในเต็นท์รถมือสอง และตั้งราคาขายในราคาสูงเกือบ 3 ล้านบาท ล่าสุดเสี่ยเจ้าของรถลงทุนไล่ล่าจนเจอรถของตนจอดอยู่ในเต็นท์รถมือสอง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับภรรยาน้อยของข้าราชการรายนี้ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล ขณะเดียวกันภรรยาน้อยอีกคน ก็คุยโวในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในจุดผ่อนปรนว่า สามีตัวเองเส้นใหญ่ ไปพักผ่อนไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"