7พรรคฝ่ายแค้นสุมหัวผุดแคมเปญทวงคืนอำนาจ!ขำกันกลิ้งเมื่อได้ยินชื่อ'ส.ส.มงคลกิตติ์'


เพิ่มเพื่อน    

9 ส.ค.62 -  เวลา 12.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมร่วมกันของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดนมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข  คณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย

นายปิยบุตร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ หลักการสำคัญ จะให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนจะมีกี่คนนั้น จะลงพื้นที่ไปทำงานร่วมกับนักวิชาการ สื่อ ภาคประชาสังคม เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะออกมาใหม่เป็นร่างที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน โดยให้ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ จากนั้นจะไปให้ประชาชนร่วมลงประชามติ 

นอกจากนี้จะตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้ง 7 พรรคเพื่อมาดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขณะเดียวกันแต่ละพรรคสามารถรณรงค์ในส่วนที่ตนเองถนัดได้ สำหรับการรณรงค์จะรณรงค์ภายใต้แคมเปญ “ทวงคืนอำนาจ การจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชน” วันนี้สังคมเริ่มเห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญ2560 จะนำไปสู่ทางตัน จะต้องทำรัฐธรรมนูญที่สุดท้ายแล้วเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่เป็นเพียงเฉพาะรัฐธรรมนูญของ 7 พรรคการเมือง 

ขณะที่ นายวัฒนากล่าวว่า 7 พรรคการเมืองให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องของนิติบัญญัติไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถทำงานแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนได้ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะดำเนินการแก้ไขในระบบรัฐสภา โดยจะไม่มีเรื่องของความขัดแย้งหรือความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น 

เมื่อถามว่าจะร่วมมือกับรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะเริ่มต้นอย่างจริงจัง น่าจะทำอะไรเป็นรูปเป็นร่างแล้ว นโยบายเร่งด่วนข้อที่ 12 ของรัฐบาล น่าจะไม่ได้เป็นความเป็นต้องการของนายกฯ เอง แต่เป็นการโดนบีบและกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งหากทางรัฐบาลเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้และเดินหน้าจริงเมื่อไหร่ก็นับเป็นเรื่องดีเพราะสุดท้ายแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 
....
ถามว่า ฝ่ายค้านโหวตในสภาชนะฝ่ายรัฐบาล เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เมื่อวันที่8ส.ค.อยู่ในสภา เมื่อตัวเลขขึ้นจอ พวกเราก็ฮือฮากันใหญ่ แต่ยังไม่ทราบว่คะแนนมาจากไหน คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคะแนนก่อน หากเป็นไปตามกระแสว่าพรรคเล็กจะออกจากการร่วมรัฐบาลจริง จะทำให้คะแนนคู่คี่ สูสี ผลออกมาแบบนี้ไม่ใช่การชิงไหวชิงพริบกัน แต่เรื่องนี้เป็นดอกผลของรัฐธรรมนูญ2560 ที่ออกแบบมา เสียงของรัฐบาลจะปริ่มน้ำแบบนี้อยู่ตลอดเวลา จึงขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีให้ท่านได้เห็นถึงพิษภัยของรัฐธรรมนูญ 2560 จะต้องนั่งลุ้นทุกวัน นั่งลุ้นทุกเดือน

เมื่อถามว่า จะไปชวนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศีวิไลย์ มาร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีการกลับไปกลับมาหรือไม่ โดยคำถามดังกล่าวสร้างเสียงหัวเราะให้กับคณะผู้แถลงข่าวก่อนที่นายภูมิธรรมจะกล่าวว่า ในระบบรัฐสภา หวังความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง ประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและปัญหาของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง อะไรที่ร่วมมือกันแล้วทำให้ประเทศชาติดีขึ้น เราก็ควรจะร่วมมือกัน อยากเห็นผลสัมฤทธิ์ของการแก้ปัญหามากกว่าเราเราไปดึงเล่นเกมการเมืองกัน รัฐรรมนูญฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอยู่ เราจึงควรร่วมมือกันทำให้เกิดเป็นฉันทามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญแล้วทำให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไขเราร่วมจะร่วมมือกับทุกฝ่าย 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า 7 พรรคฝ่ายคร้านร่วมมือกันได้ เพราะมีความจริงใจต่อกัน พวกเราไม่คุยกันเรื่องผลประโยชน์ว่าใครจะได้หรือใครจะเป็นอะไร ดังนั้นใครจะมาร่วมกับเราก็ได้ถ้ามีอุดมการณ์เดียวกัน ตรงนี้ไม่ใช่มาต่อรองเรื่องผลประโยชน์หรือตำแหน่ง.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"