วันแม่...กับ “ทางสายกลาง”


เพิ่มเพื่อน    

   

                                                       (1)

                วันพรุ่งนี้...จันทร์ที่ 12 สิงหาคม ถือเป็น วันแม่แห่งชาติ อย่างเป็นทางการ โดยถ้าจะให้เหมาะกับบรรยากาศ คงต้องขออัญเชิญ คำขวัญวันแม่ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เคยทรงประทานเอาไว้ตั้งแต่เมื่อปีพุทธศักราช 2559 มาฉายซ้ำ หรือมาตอกย้ำกันอีกรอบ...

                                                         (2)        

                คือคำขวัญที่ว่าไว้ว่า สอนให้ลูกทั้งหลายเดินสายกลาง-ทำทุกอย่างพอดีมีเหตุผล-ประกอบด้วยคุณธรรมนำทางตน-ย่อมได้คนดีพอต่อบ้านเมือง ด้วยเหตุเพราะช่วงหลังๆ นี้ อะไรต่อมิอะไรในบ้านเราดูจะหนักไปทาง สุดโต่ง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในหมู่บรรดาพวก สุดติ่ง ทั้งหลาย โดยไม่ว่าจะเป็นติ่งใคร หรือติ่งฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหนก็แล้วแต่ มักต้อง ติ่งๆ แบบโต่งๆ หาประเภทออกไปทางกลางๆ พอดีๆ มีทั้งเหตุและผล ไม่ค่อยจะได้ คือถ้ารักถ้าเชียร์ ก็เชียร์กันแบบโลมลิ้นลงเชลแล็ก ชนิดมันแผล็บ มันวาวเป็นเงางาม แต่ถ้าลองโกรธลองเกลียดขึ้นมาแล้วล่ะก็ หนีไม่พ้นต้องไล่กัด ไล่งับ แค้นจัด-กัดดะ-ฝังเขี้ยวจมน่อง ชนิดน่าหวาดหวั่น ขวัญสยองเอามากๆ...

                                                        (3)

                บรรยากาศที่ออกไปทางกลางๆ มันเลยแทบไม่เหลือติดประเทศ ติดบ้าน ติดเมือง หรือทำให้สังคมทั้งสังคม กลายเป็นสังคมที่ค่อนไปทาง ไม่ค่อยจะพอดี หรือ ไม่ค่อยมีเหตุมีผล มากมายซักเท่าไหร่ และด้วยความไม่ค่อยจะพอดี หรือความไม่มีเหตุมีผลนั่นเอง ที่ทำให้คุณธรรมบางชนิด ซึ่งออกจะมีความสำคัญเอามากๆ สำหรับบ้านเมืองในช่วงนี้และช่วงอนาคตอันใกล้ นั่นก็คือ ความอดทน อดกลั้น หรือ ขันติธรรม อันเป็นพื้นฐานขั้นต้นในการรองรับสิ่งที่เรียกว่า สามัคคีธรรม มันเลยห่อเหี่ยว หดหาย ตามไปด้วย ทั้งๆ ที่ถือเป็น เกราะป้องกัน หรือ เครือข่ายป้องกันทางสังคม ที่สำคัญที่สุด ในการรับมือกับความเป็นไปของโลก ซึ่งกำลังปั่นป่วน รวนเร และวิปริต ผิดเพี้ยน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                                     (4)

                โดยอันที่จริงแล้ว...สิ่งที่เรียกว่า ทางสายกลาง ต้องถือเป็นสิ่งที่เหมาะสม ถูกต้อง และมีความสำคัญในทุกกาล สถานที่ และโอกาส ไม่ใช่แต่เฉพาะสถานการณ์ใด สถานการณ์หนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าย้อนหลังไปถึงอดีตเมื่อกว่าสองพันปีที่แล้ว สิ่งที่เรียกๆ กันว่า ทางสายกลาง นี่แหละ ถือเป็นสิ่งที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านนำมาใช้เป็นคำขวัญ หรือนำมาเสนอแนะต่อบรรดาสาวก รุ่นแรกๆ ผู้ได้รับการเรียกขานว่า ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ในภายหลัง หรืออย่างที่สาวกรุ่นหลังๆ อย่าง สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ของบ้านเรา ท่านได้ทรงนำมาฉายซ้ำ อธิบายซ้ำ ในช่วงวัน อาสาฬหบูชา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา...

                                                       (5)

                อันปรากฏอยู่ในช่วงหนึ่งของการประทานพรเนื่องในวันดังกล่าว โดยมีใจความประมาณว่า สิ่งที่เรียกว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร หรือสูตรที่พระพุทธเจ้าท่านทรงได้เทศนา หรือ ปฐมเทศนา ให้กับพระสาวก ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน หลังจากทรง ตรัสรู้ เป็นที่เรียบร้อย ก็คือ ทางสายกลาง นั่นเอง หรือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร...มีเนื้อหาแสดงการปฏิเสธส่วนที่สุดโต่งสองทาง คือการประกอบตัวให้พัวพันด้วยกามสุขทั้งหลายทางหนึ่ง และการฝึกตนให้ได้รับความทุกข์ทรมานอีกทางหนึ่ง โดยให้พร้อมกำหนดแนวทางดำเนินชีวิตไปในทางสายกลาง...

                                                      (6)

                สิ่งที่เรียกว่า ทางสายกลาง จึงอาจถือเป็นแก่นสาระ หรือแก่นแกน ของ ศาสนาพุทธ เอาเลยก็ว่าได้ หรือเป็นสิ่งมีความสำคัญในทุกกาล-โอกาส ทุกๆ สถานการณ์ โดยเป็นสิ่งที่ต้องอาศัย สติ เป็นพื้นฐาน มันถึงจะเกิดความมีเหตุมีผล หรือเกิด ปัญญา ตามมา จนมองเห็นถึงคุณค่า คุณประโยชน์ ของคุณธรรมในแต่ละชนิด ก่อนที่จะนำมาประกอบรวมเป็น ธรรมะ ในท้ายที่สุดชนิดไม่ว่าศาสนาใดๆ ก็แล้วแต่ ต่างก็ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยของ ทางสายกลาง เอาไว้เสมอๆ หรือการแสดงอาการปฏิเสธ ความสุดโต่ง ในแต่ละด้านไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                     (7)

                การให้ความสำคัญกับ ทางสายกลาง หรือการฟื้นบรรยากาศแบบกลางๆ ให้หวนคืนกลับมา ด้วยการปฏิเสธความ สุดโต่ง ของพวก สุดติ่ง ในแต่ละด้าน แต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย หรือแต่ละรายบุคคลก็แล้วแต่ ก็จึงไม่ต่างอะไรไปจากการฟื้นสติ ฟื้นปัญญา ฟื้นความมีเหตุมีผล รวมไปถึงฟื้นคุณธรรมในแต่ละชนิด ให้หวนคืนกลับมาสู่สังคมทั้งสังคมนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงต้องขอประทานพระอนุญาต อัญเชิญเอา คำขวัญวันแม่ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กลับมาย้ำคิด ย้ำเตือน เอาไว้อีกครั้ง...ด้วยประการฉะนี้ แล...

                                    -----------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"