เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีปัญหาถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ส่งผลกระทบต่อการทำงานของครม.หรือไม่ ว่า ประเด็นนี้เป็นปัญหาที่ฝ่ายค้านมอง แต่ในฐานะอยู่ฝ่ายบริหารตนเองเห็นว่าประเด็นสำคัญที่สุดในวันนี้คือ การทำงานแก้ไขความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศไทย เช่น ปัญหาไฟป่าพรุ ในภาคใต้  ปัญหาภัยแล้งในภาคอีสาน จึงขอระดมสรรพกำลังเพื่อแก้ปัญหา เหล่านี้ก่อน ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้นเชื่อว่าฝ่ายกฎหมายของสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีและฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงหาวิธีดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการเพื่อความถูกต้อง 

เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านจี้ให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อรับผิดชอบ นายวราวุธ กล่าวว่า นี่คือ การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเมื่อมีสภาผู้แทนราษฎร ถูกต้องแล้วที่ฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ และขอชื่นชมว่าทำงานได้อย่างละเอียดมาก ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีปฏิกิริยา อย่างไรคงอยู่ที่ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย

เมื่อถามถึงกรณีที่ 7 พรรค ฝ่ายค้านเสนอแก้รัฐธรรมนูญโดยตั้งสสร. ขึ้น ทำให้เสร็จใน 240 วัน นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นมาด้วยการทำประชามติ คิดว่าก่อนที่จะตั้งสสร.ขึ้นมา เราควรจะทำประชามติก่อนดีกว่า ว่าเห็นควรจะให้มีการแก้ไขหรือไม่ แก้ตรงไหน แก้อย่างไร ถามประชาชนก่อนถ้าทุกคนเห็นตรงกันว่าให้แก้ก็ตามสสร.ขึ้นมา แต่ทำให้เสร็จภายใน 240 วันนั้นตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะด้วยกฎระเบียบและกติกาในปัจจุบันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องยาก พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ขัดขวาง ในการแก้แล้วธรรมนูญ เราอยากฟังเสียงประชาชนก่อน เราหนุนให้ทำประชามติก่อนแก้ อยากได้รับประชามติจากคนทั่วไปเทศก่อนว่าโอเคทุกคนเห็นตรงกัน แก้อย่างไร เอาไงเอากัน