ฝ่ายค้านยังคงใจจดใจจ่ออยู่กับประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกรงว่าเรื่องนี้จะส่งผลเสียต่อประเทศ ต่อระบอบประชาธิปไตย ดังที่ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน แสดงความเห็นล่าสุดว่า "ไม่อยากให้นายกฯ มองว่าสภาเป็นคนละฝ่ายที่มุ่งทำลาย และสร้างความเสียหายให้นายกฯ จึงอยากให้ร่วมกันมาหาทางออก เพราะข้อที่มีการท้วงติงว่าการถวายสัตย์ฯ ไม่สมบูรณ์จะทำให้เกิดความอึมครึม และเป็นปัญหาต่อการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งปัญหาต่อเนื่องว่าการบริหารงานของรัฐบาลชอบหรือไม่" ...๐

                แท้จริงแล้วพรรคฝ่ายค้านเป็นห่วงว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลจะมีปัญหา หรือต้องการนำประเด็นนี้เป็นประเด็นการเมืองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้งอำนาจกันแน่ การเอาเป็นเอาตายของฝ่ายค้านทั้งๆ ที่ปัญหานี้มีความพยายามจากรัฐบาลที่จะจบเรื่องด้วยการขอพระราชทานพระราชดำรัส ซึ่งเป็นการบอกกล่าวกลายๆ ว่า ทุกฝ่ายก้าวข้ามประเด็นถวายสัตย์ฯ ไปแล้ว เหลือแต่ฝ่ายค้านเท่านั้นที่ยังกระเหี้ยนกระหือรืออยู่ ฉะนั้นคำพูดของ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ที่บอกว่า "นายกฯ ไม่ควรวิตกจริตจนเกินไป อยากให้นายกฯ มาร่วมกันแก้ปัญหาให้เรื่องนี้จบ ประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปเสียที” ไม่ต่างจากกับดับที่วางไว้เพื่อนำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปถล่มในสภา และหวังลึกๆ ว่า อาจเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจก็เป็นได้ ...๐

                เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้เห็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำงานเชิงรุก "พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์" กรรมการ ป.ป.ช. พูดถึงการเฝ้าระวังตรวจสอบโครงการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ได้สั่งการให้แต่ละสำนักเฝ้าระวังของสำนักงาน ป.ป.ช. เริ่มดำเนินการค้นหาข้อมูลโครงการต่างๆ ของรัฐบาลแล้ว ภายหลังคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังจากนั้นจะจัดลำดับความเร่งด่วนของความเสี่ยงแต่ละโครงการว่า โครงการไหนใหญ่ โครงการไหนมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริต หากพบว่าในช่วงตั้งต้นของโครงการที่มีความเสี่ยง จะเฝ้าระวังตรวจสอบว่ามีการทำอะไรช่วงไหน ขอรายละเอียดโครงการมาพิจารณา นอกจากนี้จะแจ้งเตือนรัฐบาลว่าให้เฝ้าระวัง มีการวางแผนป้องกันความเสี่ยงหรือยัง นี่คือการป้องกันไว้ก่อน ...๐

                หากทำได้ทุกโครงการประเทศจะได้ประโยชน์ นับเป็นการตรวจสอบการคอร์รัปชันที่มีความก้าวหน้ามาก และน่าจะได้ผลมาก หาก ป.ป.ช.จริงจังโดยไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม ต่างจากในอดีต ป.ป.ช.ทำงานเชิงรับเสียส่วนใหญ่ และพบว่าเกิดการคอร์รัปชันมากมาย สร้างความเสียหายเป็นแสนๆ ล้าน เช่น โครงการรับจำนำข้าว การมาแก้ไขทีหลังได้ประโยชน์น้อยเต็มที ...๐

                สำนักข่าวอิศราเปิดโปง ‘ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค’ ผู้กำกับหนังปากจัด เป็นกรรมการ 3 บริษัท เลิกดำเนินการไปแล้ว 2 บริษัท คือ บริษัท มหาการภาพยนตร์ จำกัด และบริษัท มหาการพิคเจอร์ส จำกัด ยังเปิดดำเนินการคือ บริษัท ฟิล์มรีพับบลิค จำกัด เคยมีรายได้ 20 ล้าน วันนี้เหลือ 4 ล. แต่ที่น่าสนใจคือ ทางด้านการเมือง ‘ต้อม-ยุทธเลิศ’ มีความชัดเจนกับอนาคตใหม่ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เป็นผู้กำกับคลิบหาเสียง “ตามติดชีวิต 3 แกนนำ 24 มีนา กาอนาคตใหม่” สนับสนุน futurista ประกาศจุดยืนเคียงข้าง “ธนาธร” หลายครั้ง เคยโพสต์ภาพตัวอักษรว่า ‘ลุงโกง’ ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวในช่วงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จึงไม่แปลกที่ต้อมจะวางตัวเป็นฟ้าของพ่อ ด่ากราดทุกคนที่เตะต้องพ่อ ไม่เว้นกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ ...๐

                บีบีซีไทยนำเสนอเรื่องราวจากการไปสังเกตการณ์ที่โรงภาพยนตร์ ที่เป็นจุดนัดหมายทำกิจกรรม "ไม่ยืนในโรงภาพยนตร์" ช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อวันสาร์ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น ได้มีผู้ชมภาพยนตร์ประมาณ 5 คน ที่นั่งกระจัดกระจายกันไม่ลุกขึ้นยืน พนักงานจึงเดินเข้าไปขอความร่วมมือให้ยืนขึ้นเพื่อแสดงความเคารพ โดยส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่มีชาย 1 คนที่ยังคงนั่งอยู่จนเพลงจบ ทำให้ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปยืนข้างๆ หลังภาพยนตร์จบลง ชายที่ไม่ยืนช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมีได้เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตามไปพูดคุยตักเตือนอยู่พักหนึ่งก่อนได้รับอนุญาตให้กลับ ...๐

                นี่คือกิจกรรรมคู่ขนานกับพรรคการเมืองในสภา ที่พยายามประโคมว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องถูกวิจารณ์ได้ ต้องแก้ ม.112 ศาลคือ 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตย ประชาชนต้องวิจารณ์ได้ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ จะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนี้ และจะถึงวันที่จะต้องมีคนต้องรับผิดชอบ "ธนาธร-ปิยบุตร" พึงระวังไว้ให้ดี ...๐

 

รูป 1.ภูมิธรรม เวชยชัย

     2.พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ 

   3.ยุทธเลิศ สิปปภาค