โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐที่เป็นตัวเต็งของพรรคเดโมแครตที่จะท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งปีหน้า เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนรายงานที่ว่าทรัมป์แอบคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดียูเครน เพื่อขอให้สอบสวนตัวเขาและลูกชาย ระบุทรัมป์ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ

    คำกล่าวหาของไบเดนและการตอบโต้ของทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเริ่มต้นมาจากรายงานของวอชิงตันโพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ว่า มีคำร้องทุกข์กล่าวโทษว่าประธานาธิบดีทรัมป์ติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาบางอย่างไว้

    รายงานข่าวกล่าวด้วยว่า คณะกรรมาธิการการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้หน่วยงานด้านข่าวกรองเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว แต่โจเซฟ แม็กไกวร์ รักษาการผู้อำนวยการความมั่นคงแห่งชาติ ไม่อนุมัติหลังจากปรึกษากับกระทรวงยุติธรรมและทำเนียบขาวแล้ว

    โพสต์และสื่ออเมริกันหลายสำนักกล่าวว่า ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเซเลนสกีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมปีนี้ เพื่อกดดันให้ผู้นำยูเครนซึ่งเป็นอดีตดาราตลกที่เพิ่งชนะเลือกตั้งได้ไม่นาน สอบสวนความเป็นไปได้ว่ามีการคอร์รัปชันโยงใยถึงไบเดนและฮันเตอร์ ลูกชายของไบเดนที่ทำงานให้บริษัทแก๊สธรรมชาติของยูเครน หรือไม่ ในช่วงที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีสมัยของบารัค โอบามา

    ระหว่างการหาเสียงที่ไอโอวาเมื่อวันเสาร์ ไบเดนเรียกร้องให้สอบสวนเรื่องนี้และกล่าวโจมตีทรัมป์อย่างโกรธเกรี้ยวว่า ทรัมป์ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการคุยโทรศัพท์กับผู้นำต่างชาติที่กำลังมุ่งหวังความช่วยเหลือจากสหรัฐ แล้วสอบถามเกี่ยวกับตัวเขา

    ตามรายงานของวอลสตรีทเจอร์นัลและสื่ออีกหลายแห่งเมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ขอซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ผู้นำยูเครนสอบสวนคำกล่าวหาที่ไม่มีข้อพิสูจน์ ว่าไบเดนเคยขู่จะระงับความช่วยเหลือของสหรัฐที่ให้ต่อยูเครน เว้นแต่ยูเครนจะปลดอัยการที่สอบสวนบริษัทแก๊สที่ลูกชายของไบเดนทำงานอยู่

    ด้านทรัมป์ทวีตตอบโต้ว่า ตัวเขาไม่ได้ทำสิ่งใดผิด การสนทนากับเซเลนสกีเป็นเรื่องปกติและไม่เห็นเป็นไร.