ผู้นำอิหร่านประณามต่างชาติเพิ่มกำลังพลในภูมิภาค


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่านประณามการวางกำลังทหารของต่างชาติในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียว่าเป็นตัวสร้างปัญหาและทำให้ภูมิภาคนี้ไม่ปลอดภัย เตรียมเสนอแผนสันติภาพต่อยูเอ็น ขณะนายทหารโวอิหร่านจะตามไล่ล่าผู้รุกรานหากกล้าโจมตี หลังจากสหรัฐประกาศส่งทหารมาประจำการที่ซาอุดีอาระเบียเพิ่มเติม

ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี (กลาง) กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามเนื่องในสัปดาห์แห่งวันครบรอบการเปิดสงครามอิรัก-อิหร่าน ปี 2523-2531 ที่กรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2562 / Iranian Presidency / AFP

    เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวสุนทรพจน์ถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ของอิหร่านจากพิธีสวนสนามประจำปีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562 ว่ากองกำลังต่างชาติสามารถสร้างปัญหาและทำให้ประชาชนชาวอิหร่านและภูมิภาคนี้ไม่ปลอดภัย ในอดีตที่ผ่านมาการวางกำลังทหารของต่างชาติในภูมิภาคอ่าวคือหายนะ ชาติมหาอำนาจอื่นจึงไม่ควรเข้ามาในภูมิภาคนี้อีก

    "ถ้าพวกเขาจริงใจ พวกเขาก็ไม่ควรทำให้ภูมิภาคของเราเป็นแหล่งแข่งขันอาวุธ" โรฮานีกล่าว และว่า การคงอยู่ของทหารต่างชาติมักสร้างความเจ็บปวดและความทุกข์แก่ภูมิภาคนี้ ยิ่งต่างชาติอยู่ไกลจากภูมิภาคนี้และประเทศในภูมิภาคนี้มากเท่าใด ความปลอดภัยของภูมิภาคเราก็จะมากขึ้นเท่านั้น

    โรฮานีกล่าวด้วยว่า รัฐบาลอิหร่านจะนำเสนอแผนสันติภาพต่อสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติภายในไม่กี่วันข้างหน้า แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด เพียงบอกว่าสันติภาพในช่องแคบฮอร์มุซจะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือกันของหลายประเทศ

    คาดว่าผู้นำอิหร่านจะเดินทางไปนิวยอร์กวันจันทร์นี้ ล่วงหน้าการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในวันอังคาร โดยโมฮัมหมัด จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร เดินทางไปถึงนิวยอร์กก่อนแล้วเมื่อสุดสัปดาห์

    ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐและชาติพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาคนี้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นภายหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันและบ่อน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 14 กันยายน สหรัฐและซาอุดีอาระเบียไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของกบฏฮูตีในเยเมนที่อิหร่านหนุนหลัง ว่าพวกเขาใช้โดรนหลายลำในการโจมตี โดยสหรัฐอ้างหลักฐานยืนยันว่าเป็นฝีมือของอิหร่าน ส่วนซาอุดีอาระเบียกำลังรอผลการสอบสวนแม้จะกล่าวเป็นนัยว่าน่าจะเป็นฝีมือของอิหร่าน

    การโจมตีที่ก่อให้เกิดระเบิดหลายระลอกและไฟไหม้ กระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งทะยาน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปรยถึงการใช้กำลังทางทหารตอบโต้ โดยทวีตว่าสหรัฐได้ "บรรจุกระสุนและล็อกเป้าแล้ว" แต่ต่อมาทรัมป์ผ่อนคลายท่าทีและส่งสัญญาณว่าเขาไม่มีแผนจะตอบโต้ทางทหาร

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ประกาศเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม โดยพุ่งเป้าที่ธนาคารกลางของอิหร่าน ซึ่งเดิมถูกคว่ำบาตรอยู่แล้ว, กองทุนพัฒนาแห่งชาติอิหร่าน ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และบริษัท 1 แห่งที่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ใช้ปกปิดการทำธุรกรรมสำหรับการจัดซื้อของกองทัพอิหร่าน

    วันเดียวกันนั้น มาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ยังได้ประกาศว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้อนุมัติแผนส่งทหารอเมริกันไปเสริมกำลังในซาอุดีอาระเบียเพิ่มเติม ตามคำร้องขอของซาอุดีอาระเบีย แต่เขาย้ำว่า กำลังพลอเมริกันจะปฏิบัติหน้าที่ในเชิงป้องกัน และเน้นด้านการป้องกันภัยทางอากาศและมิสไซล์

    เมื่อวันเสาร์ พลตรีฮุสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน กล่าวผ่านโทรทัศน์อิหร่าน เตือนผู้รุกรานให้ระวังว่า อิหร่านจะตามไล่ล่าและทำลายล้างผู้รุกราน หากคิดโจมตีอิหร่าน ถึงแม้จะเป็นการโจมตีอย่างจำกัดก็ตาม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"