ซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค งดงามตระการตาขบวนเรือพระราชพิธี 52 ลำแน่นสองฝั่งเจ้าพระยา


เพิ่มเพื่อน    

17 ต.ค.62 -  เมื่อเวลา 15.57 น. กองทัพเรือ โดยคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธีได้จัดการฝึกซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช2562 (เบื้องปลาย)โดยเป็นการฝึกซ้อมใหญ่เสมือนจริงครั้งที่1 มีกำลังพลฝีพาย 2,200 นาย เข้าร่วมฝึกซ้อม ในเครื่องแต่งกายฝีพายเรือพระราชพิธีโบราณประดับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 เข็มที่ระลึกในโอกาสต่างๆ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งและป้ายชื่อเหมือนวันจริงเป็นครั้งแรก รวมถึงฝึกซ้อมบนเรือพระราชพิธี 52 ลำที่ประดับตกแต่งเหมือนวันจริง โดยเฉพาะเรือพระที่นั่ง 4 ลำที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้ติดตั้งเครื่องสูงประกอบด้วยฉัตร พระวิสูตร เหมือนวันจริง ก่อนจะมีการฝึกซ้อมใหญ่ อีกครั้งในวันที่ 21 ตุลาคม นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เป็นจุดรวมพลเจ้าหน้าที่ประจำเรือพระราชพิธีภายในยังมีเจ้าหน้าที่จากภาคส่วนต่างๆมาร่วมฝึกซ้อมด้วยตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ที่กระจายกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานครที่ส่งเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดมาดูแล การประปานครหลวงจัดบริการน้ำดื่มฟรี รวมถึงกรมแพทย์ทหารเรือและโรงพยาบาลต่างๆที่ส่งแพทย์และพยาพยาบาลมาประจำจุด รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมเรื่องจุดคัดกรองใต้สะพานพระราม8 (ฝั่งธนบุรี) ในการเข้าพื้นที่ของประชาชน สำหรับจุดนี้รองรับประชาชนได้4,000 คน อย่างไรก็ตาม พบว่า หน่วยงานและบ้านเรือนริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาร่วมประดับตราสัญลักษณ์พร้อมธงชาติและธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 โดยพร้อมเพรียง ตลอดจนมีประชาชนจำนวนมากทั้งจากกรุงเทพฯและต่างจังหวัดสวมเสื้อสีเหลืองมาจับจองพื้นที่ริมแม่น้ำเพื่อรอชมความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารคทั้ง 52 ลำตั้งแต่เวลา 12.00 น. โดยไม่ย่อท้อต่อสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

สำหรับการซ้อมใหญ่ครั้งที่1 ครั้งนี้กำลังฝีพาย 2,200 นายแต่งกายเหมือนจริงเรือพระราชพิธีทั้งหมดประดับตกแต่งตามโบราณราชประเพณีและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพระราชพิธีครั้งนี้ได้ร่วมซักซ้อมใหญ่ โดยจะเป็นการถวายการรับเสด็จฯ พร้อมในเวลา 15.30 น. วันนี้กระแสน้ำลงคาดว่าจะใช้ตาราง 7 ในการฝึกซ้อม ใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที และส่งเสด็จฯที่ท่าราชวรดิฐ จากนั้นตามแผนจะซ้อมใหญ่ครั้งที่2 วันที่21 ต.ค. การซ้อมใหญ่ใช้บทเห่เรือทั้งหมด3 องก์ด้วยกันประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี(บทใหม่) บทชมเมือง และบทชมวัง ซึ่งประพันธ์ขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย 

สำหรับข้อบกพร่องจากการซ้อมใหญ่ครั้งที่1 ทางทร.จะนำไปประชุมวันที่18 ต.ค.ผลสรุปจากการประชุมจะนำมาเป็นข้อกำหนดและรายละเอียดในวันซ้อมใหญ่ครั้งที่2 เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุดสำหรับการฝึกซ้อมได้มีการบอกกล่าวแม่ย่านาง สำหรับในวันจริงจะมีพิธีบวงสรวง พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร.เป็นประธานในพิธีเพื่อบอกกล่าวแม่ย่านางเพื่อจะเชิญเรือร่วมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 

นอกจากนี้ การฝึกซ้อมใหญ่ครั้งที่1 ได้นำผลจากการฝึกซ้อมย่อย10 ครั้งที่ผ่านมามาประกอบแต่ส่ิงที่ปรับแก้คือฉัตรพระวิสูตรและบัลลังก์กัญญาเพราะการซ้อมที่ผ่านมายังไม่ได้ติดตั้งบัลลังก์กัญญาแต่ครั้งนี้ติดตั้งครบทุกลำซึ่งงานประดับเครื่องสูงเรือพระราชพิธีได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยส่ิงที่เปลี่ยนไปจากการซักซ้อมที่ผ่านมา ก็คือการจัดเตรียมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่มีการอัญเชิญบังลังก์กัญญายกขึ้นและทอดบุษบกในขบวนเรือพระราชพิธีครั้งนี้จะมีการทอดบุษบก2 องค์ อีกองค์เป็นเรืออนันตนาคราชทอดบุษบกเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนี้ ยังมีการปรับที่เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เดิมเป็นเรือพระที่นั่งรับรองราชวงศ์ ครั้งนี้ปรับเป็นเรือพลับพลาเปลื้องเครื่องเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนฉลองพระองค์ 

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวทางในจัดขบวนเรือพระราชพิธีโดยรื้อฟื้นราชประเพณีและมีการชำระประวัติศาสตร์โดยกองทัพเรือรับสนองพระบรมราชโองการดำเนินการร่วมกับกรมศิลปากรและกองการในพระองค์โดยยึเถือปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามแผนงานกองทัพเรือดำเนินการฝึกในทุกๆด้านทุกรูปแบบและทุกสถานการณ์เพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิบัติในวันจริงสำหรับขบวนเรือพระราชพิธีครั้งนี้มี52 ลำใช้กำลังพลฝีพาย 2,200 นายส่วนกำลังพลข้าราชบริพารและส่วนต่างๆที่เข้าร่วมรวมแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 2,377 คนสำหรับเครื่องแต่งกายกำลังพลฝีพายมีทั้งเครื่องแต่งกายใหม่และบางส่วนเป็นเครื่องแต่งกายเดิมในการเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราสถลมารค สำหรับการเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารควันที่ 24 ต.ค.นี้ยังเป็นไปตามหมายกำหนดการโดย ทร.จะถวายงานให้สำเร็จลุล่วงและสมพระเกียรติ

ส่วนบรรยากาศที่บริเวณสวนสันติชัยปราการหน่วยงานต่างๆอาทิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนเจ้าหน้าที่แพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขและภาคเอกชนจัดทีมแพทย์ราว300 คนเพื่อดูแลประชาชนจุดนี้ในวันจริงรองรับประชาชน1,500 คนที่จะเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและพระบรมวงศานุวงศ์ประทับบนพระที่นั่งสวนสันติชัยปราการ 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากทีมการแพทย์โซน2 รับหน้าที่ดูแลประชาชนบริเวณนี้ให้คำแนะนำว่าผู้ที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีสำคัญนี้ขอให้เตรียมน้ำดื่มอุปกรณ์ป้องกันความร้อนมาด้วยแต่เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีลมพัดจึงทำให้อากาศปลอดโปร่ง

ช่วงเช้าวันเดียวกันที่อู่ทหารเรือธนบุรีกรมอู่ทหารเรือ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังติดตั้งเครื่องสูงประกอบเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ เป็นการถวายพระราชอิสริยยศเครื่องราชูปโภคตามโบราณราชประเพณีประกอบด้วยฉัตรและธงสามชาย เพื่อเตรียมการฝึกซ้อมเสมือนจริงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช2562 

สำหรับการประดับตกแต่งเรือพระราชพิธีทั้ง52 ลำโดยเฉพาะเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำเจ้าหน้าที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการจนแล้วเสร็จเมื่อวานที่ผ่านมา ประกอบด้วยการติดตั้งอุบะและพวงมาลัยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์  คล้องลำคอพู่ห้อยที่หัวที่ทำจากขนจามรีสีขาวปลายพู่เป็นแก้วผลึกกลาง ลำติดตั้งบุษบกเช่นเดียวกับการเสด็จพระราชดำเนินทางสถลมารคเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชติดตั้งบุษบกสำหรับอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญและอาภรณ์ภัณฑ์ ส่วนเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณติดตั้งบัลลังก์กัญญาและอาภรณ์ภัณฑ์อย่างสง่างาม สมพระเกียรตินอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งคฤห์และอาวุธประจำเรือรูปสัตว์และอาภรณ์ภัณฑ์ของเรือพระราชพิธีทั้งหมดตามแบบโบราณราชประเพณี

การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่1 ในแผ่นดินรัชกาลที่10 เป็นการจัดขบวนพยุหยาตรมชลมารคใหญ่รูปกระบวนเรือ5 ริ้ว3 สายใช้เรือพระราชพิธีในขบวนเรือจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง4 ลำ, เรือรูปสัตว์10 ลำและเรืออื่นๆประเภทเรือดั้งเรือแซงเรือตำรวจจำนวน38 ลำขบวนเรือมีความยาวจากหัวขบวนถึงท้ายขบวนประมาณ1,200 เมตรกว้าง90 เมตรเส้นทางเสด็จฯจากท่าวาสุกรีถึงท่าราชวรดิฐระยะทาง3.4 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ60 นาที 

นางละเอียด สุขสบาย อายุ 60 ปีเดินทางมาจาก อ.เมืองจ.โคราช พร้อมครอบครัวเพื่อชมการซ้อมใหญ่ครั้งแรกกล่าวว่า ตั้งใจมาชมขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในวันนี้ออกเดินทางจากโคราชแต่เช้ามาปักหลักรอใต้สะพานพระราม 8 เพราะเป็นอีกจุดที่ชมขบวนเรือสวยที่สุด เมื่อขบวนเรือผ่านรู้สึกขนลุกเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ชมยิ่งใหญ่งดงาม มาก สมดังตั้งใจ ในวันจริงก็จะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯในหลวงเพื่อชื่นชมพระบารมี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"