29 ต.ค 62 - นายสุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ​สถาบันทิศทางไทย โสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้

ปากคำประวัติศาสตร์ของหลวงปู่พุทธะอิสระ

การประชุมคณะสงฆ์​เรื่องการกลับมาครองจีวรของพุทธะอิสระในตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่​ 27​ ตุลาคม​ 2562 น่าจะถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ก็ว่าได้สำหรับนักประวัติศาสตร์ในอนาคต

ส่วนคนที่อยู่ร่วมสมัยกับพุทธะอิสระ​ ได้รู้จัก​ รับรู้​ ติดตามการต่อสู้เพื่อปราบมารศาสนาของพุทธะอิสระโดยเฉพาะลัทธิธรรมกายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา​ ... ที่ดำเนินควบคู่ไปกับการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจรัฐระหว่างชนชั้นนำสองฝ่ายในปลายสมัยรัชกาลที่ 9​ ที่ดึงประชาชนของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมต่อสู้บนท้องถนนด้วย​ จนเป็นที่มาของความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ในสังคมไทยที่ยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน

นี่คือคำให้การหรือปากคำประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของพุทธะอิสระที่เข้าไปเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับการปกป้องพระศาสนาจากการครอบงำของลัทธิธรรมกายตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนที่มอบหมายให้พุทธะอิสระไปดำเนินการ

นี่แทบเป็น "ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลย" ก็ว่าได้สำหรับการที่นักบวชคนหนึ่งที่ไม่มีอำนาจทางการเมืองใดๆอยู่ในมือเลยจะไปล้มยักษ์ธรรมกายที่มีอิทธิพลอย่างฝังรากลึกเข้าไปในอาณาจักรสงฆ์ถึงระดับศูนย์กลางอำนาจจนแทบเบ็ดเสร็จแล้ว​ได้อย่างไร​ ... แต่พุทธะอิสระก็ทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ​ แม้ตัวพุทธะอิสระจะต้องสูญเสียอะไรหลายอย่างไปมากมาย​ทั้งสุขภาพ​ อิสรภาพ​ คำเยาะเย้ยถากถาง​ ถูกคนไม่รู้ก่นด่าจากทั่วสารทิศ

พวกนกกระจิบมีหรือที่จะเข้าใจจิตปณิธานของพญานกอินทรี

พวกปลาซิวที่ระริกระรี้​อยู่บนเกลียวคลื่น​มีหรือจะเข้าถึง​ "ใจของน้ำ" ที่อยู่ใต้ทะเลลึกหนึ่งร้อยเชียะ

วิถีของมหาบุรุษคือการอาสาแบกรับความทุกข์ร้อนของแผ่นดินและวิกฤตของพระศาสนาโดยไม่ตัดพ้อ

ลูกผู้ชายที่แท้จริงไม่สร้างความปวดร้าวให้แก่คนอื่นแต่ยินยอมแบกรับความเจ็บปวดทั้งปวงไว้กับตนเอง

ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าในอีกห้าสิบปีหรือร้อยปีข้างหน้า​ "ตำนานของพุทธะอิสระ" จะเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมาเหมือน​"ตำนานครูบาศรีวิชัย"