ไทยโพสต์ ‘อิสรภาพแห่งความคิด’ www.thaipost.net ถือเป็นอีกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ หลังบุคคลสำคัญระดับโลกอย่าง “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” เสด็จเยือนถึงประเทศไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี ของผู้นำศาสนจักรโรมันคาทอลิก หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เคยเสด็จเยือนไทยมาแล้วเมื่อปี 1984

                สำหรับการเสด็จเยือนประเทศไทยครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก เนื่องจากบุคลิกของสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์นี้ ที่ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใด จะสร้างความประทับใจและเป็นที่จดจำอยู่เสมอ โดยภารกิจในวันพฤหัสฯ นี้ ในช่วงสาย “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งเป็นผู้ปกครองบัญชาการคณะสงฆ์ของไทย

                เวลา 11.15 น. จะเสด็จโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ เยี่ยมอวยพรบรรดาผู้ป่วย ผู้สูงวัย และบุคคลพิการ และในเวลา 16.55 น. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นการส่วนพระองค์ ...0

                หากนับวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส.ของ “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. กับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าได้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส.แล้ว คือ 23 พ.ค. เท่ากับว่า เจ้าของฉายา “ไพร่หมื่นล้าน” เป็น ส.ส.เพียง 15 วัน หรือกลายเป็น “ผู้แทนรายปักษ์” เหมือนนิตยสารของตัวเองที่เคยทำไปในบัดดล

                ถ้าดูจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีถือหุ้นสื่อ บริษัท วี–ลัค มีเดีย จำกัด “ธนาธร” พ้นเพียงสมาชิกภาพ ส.ส. ไม่ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ดังนั้น ยังเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า และลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ เพียงแต่ว่า เรื่องของ “ธนาธร” กับ “พรรคอนาคตใหม่” ยังไม่ได้จบแค่นี้ หากดูคำวินิจฉัยดีๆ น่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกอีกเพียบ โดยเฉพาะประเด็นการสร้างพยานเท็จ ซึ่งเป็นคดีอาญา

                นอกจากนี้ยังมีประเด็นเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ 191 ล้านบาท ที่ กกต.เริ่มเทกแอคชั่นให้ส่งพยานหลักฐาน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า น่าจะเป็น “เผาจริง” เพราะแม้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จะไม่ได้เขียนห้ามเรื่องการกู้เงินเอาไว้ในหัวข้อรายได้พรรคการเมือง แต่กูรูกฎหมายบางคนชี้ว่า กฎหมายพรรคการเมืองไม่เหมือนกฎหมายอื่นๆ แต่เป็นกฎหมายเฉพาะ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ทำได้เฉพาะที่เขียน” เท่านั้น อย่าได้แหลมเป็นอื่น ขณะที่คดีนี้โทษหนักถึงขั้น “ยุบพรรค” เลยเชียว เอาง่ายๆ ประเด็นนายธนาธรกับพรรคสีส้ม จะเป็นยิ่งกว่าซีรีส์ ...0

                นอกจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ไม่ยี่หระกับข้อครหาว่า เซ็นแต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช.ล่วงหน้ามิชอบ ตลกร้ายกว่า ยังกล่าวหาว่าคนอื่นทำงานมาน้อย ไม่รู้เรื่อง

                ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พูดมามันก็ไม่ผิดเสียทีเดียว แต่การเซ็นล่วงหน้านั้น เขาอะลุ่มอล่วยกันแค่ในบางเรื่อง  เรื่องคอขาดบาดตาย หรือเสี่ยงที่ผิดกฎหมาย ไม่ค่อยมีใครกล้าทำกัน อย่างกรณีแต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. ลำพังเอาคนที่เคยถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร อย่าง “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข มาเป็นที่ปรึกษา กมธ.ที่ทำหน้าที่ปราบโกง ก็ทำลายความน่าเชื่อถือ และถูกวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรแล้ว แต่กระบวนการมาไม่ถูกต้อง ระวังเก้าอี้จะสั่นด้วยน้ำมือตัวเอง

                ขนาดในอดีต คดีเด้งนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติไปนั่งตบยุงนั้น เหตุผลหนึ่งที่ศาลปกครองสูงสุดยกขึ้นมาเป็นเหตุผลในการวินิจฉัยว่าโยกย้ายมิชอบคือ การทำหนังสือขอรับโอนนายถวิลในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ มีกระบวนการที่เร่งรีบ รวบรัด ก่อนจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกันในวันอังคารทันที แม้เป็นคนละกรณี คนละบริบท แต่ขั้นตอนทางราชการ ไม่ใช่จะทำเล่นๆ ได้ …0

ฌ.เฌอ