“สรรพสามิต” จี้โลว์คอสอยากให้ลดภาษีน้ำมันต้องแลกกับการบูมท่องเที่ยวเป็นรูปธรรม


เพิ่มเพื่อน    


21 พ.ย.2562  นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารสายการบินโลว์คอสต์ รวม 7 แห่ง และผู้ประกอบการน้ำมัน 5 แห่ง มาหารือผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน (เจ็ตเอ 1) ที่ปรับขึ้นจาก 0.20 บาทต่อลิตร เป็น 4.70 บาทต่อลิตร ในปี 2560 โดยผู้ประกอบการชี้แจงว่า อยากให้ปรับลดภาษี เพราะได้รับผลกระทบอย่างมาก มีต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้น 20 เท่า  จึงได้สั่งให้ผู้ประกอบการไปทำแผนมาเสนอภายใน 2 สัปดาห์ว่าถ้ามีการปรับลดภาษีให้ จะมีแผนช่วยภาคการท่องเที่ยว เป็นประโยชน์ในเชิงสาธารณอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร

“ขอความกรุณาผู้ประกอบการโลว์คอสต์ ไปวิเคราะห์ข้อมูล เตรียมตัวเลขมาให้ชัดเจนถ้าต้องลดภาษี จะเกิดประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยว และต้องเป็นแนวทางที่จับต้องได้ เช่น จะเพิ่มเที่ยวบินไปยังจังหวัดเมืองรองเท่าไหร่ กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างไร ซึ่งจะต้องเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาหารือด้วยครั้งหน้า” นายพชร กล่าว

ทั้งนี้ ถ้าผู้ประกอบการโลว์คอสต์บอกได้ว่าลดภาษีแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวอย่างไร ต้องเป็นประโยชน์สาธารณ ไม่ใช่การเอื้อต่อเอกชน กรมฯ ก็สามารถลดภาษีได้ ซึ่งปัจจุบันกรมเก็บภาษีน้ำมันเครื่องบินที่ 3 พันล้านบาทต่อปี ไม่ได้เป็นวงเงินมากมาย แต่ก็ต้องมีข้อเสนอมายื่นหมูยื่นแมวด้วย ซึ่งหากข้อเสนอไม่เป็นรูปธรรม กรมฯ ก็ต้องปฏิเสธข้อเสนอขอลดภาษีน้ำมัน แม้ว่าผู้ประกอบการจะระบุว่า ปัจจุบันมีต้นทุนเชื้อเพลิง 30%  และเริ่มมีผลกระทบต้องลดเที่ยวบินในเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ จาก 15 ไฟลท์ต่อวันเหลือ 10 ไฟลท์ ต่อวันก็ตาม

นายพชร กล่าวอีกว่า ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสไมล์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่จากการหารือ ทางการบินไทย ชี้แจงว่า ต้นทุนภาษีสรรพสามิตน้ำมันแค่ 5% เท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบมาก และไม่ได้ให้บริการเที่ยวบินในประเทศมากนัก ส่วนไทยสไมล์ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่เสนอว่าถ้ามีการปรับลด ก็ควรต้องได้ประโยชน์กับทุกสายการบิน

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (บางกอกแอร์เวย์ส) เปิดเผยว่า การลดภาษีจะช่วยในเรื่องของการท่องเที่ยวมาก  โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจทีชะลอตัวในขณะนี้ ที่จำเป็นต้องสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในเมืองรอง ซึ่งแนวโน้มปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มาประเทศไทย แต่ไปประเทศใกล้เคียงเพิ่มขึ้น เพราะไม่ได้ต้องการมาเที่ยวซ้ำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดึงเมืองรองขึ้นมาให้มีการท่องเที่ยวใหม่ๆ และสายการบินก็จะเป็นตัวช่วยดึงนักท่องเที่ยว

            อย่างไรก็ดี ไม่สามารถบอกได้ว่าหากมีการลดภาษีน้ำมันแล้วจะมีการลดค่าโดยสารหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน เส้นทางในประเทศ โดยเฉลี่ยไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นเลย มีแต่จะลดลงด้วยซ้ำ ขณะที่การปรับลดภาษีควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่ได้ มากกว่าการเทียบการเดินทางในโหมดอื่นๆ ปัจจุบันสายการบินโลว์คอสต์ที่บินเมืองรอง ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องขาดทุนแน่นอน แต่ก็หวังว่าในอนาคตเส้นทางเมืองรองจะสร้างกำไรได้ การลดภาษีจึงเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"