นครราชสีมา หรือที่เรียกว่า “โคราช” เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองใหญ่บนดินแดนที่ราบสูง อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกทางและการท่องเที่ยว ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะจุดเด่นในเรื่องอาหารถิ่น และอาหารย่าง ที่กำลังจะมีกิจกรรมใหญ่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งบรรดาขากินขาเที่ยวไม่ควรพลาด 

                นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา  ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชมรมเพื่อสุวัจน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอเชิญทุกท่านร่วมการจัดกิจกรรม “เทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 13 (THAILAND BBQ FESTIVAL@KORAT 2019” ในบรรยากาศสไตล์คาวบอย  ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2562 ลานกิจกรรมตลาดเซฟวัน (หน้าท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต) อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา 

งานที่จัดขึ้น มีวัตถุประสงค์หลักต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมาให้มีเงินสะพัดหมุนเวียน เพื่อส่งเสริมธุรกิจของสมาชิกหอการค้าฯ ผู้ประกอบการร้านค้า การเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค และร้านค้ารายย่อยให้มีความเข้มแข็ง ควบคู่การท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมสร้างเอกลักษณ์และจุดเด่นของงานเทศกาลอาหารย่างและอาหารโคราชให้เป็นที่รู้จัก  โดยมีเอกลักษณ์ภายใต้ Theme More Gastronomy ต่อยอดสู่ครัวโลกต่อไป 

สำหรับกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจหลากหลาย อาทิ การนำสุดยอดอาหารย่างและอาหารหลากชนิดจากทั่วประเทศมาจัดแสดง ภายในงานได้รวบรวมร้านอาหารปิ้งย่างกว่า 200 ร้าน มาออกร้านให้บรรดาสาวกอาหารปิ้งย่างได้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารถิ่น อาทิ ไก่ย่างท่าช้าง ไก่กะเต็ด โนนไทย หมูหัน บาร์บีคิว สเต๊ก หมี่โคราช ซีฟู้ดสดๆ จากทะเล และอาหารอื่นๆ ที่บรรดาร้านค้านำมาปรุงกันสดๆ ย่างให้รับประทานร้อนๆ สอดรับกับสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง

 โดยมีโต๊ะให้ผู้เข้าชมงานไว้บริการกว่า 900 โต๊ะ บรรยากาศภายในงานเป็นการตกแต่งสถานที่แบบสไตล์ตะวันตก ให้ผู้ที่มาชมงานได้นึกถึงยุคสมัยคาวบอย รวมถึงการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนคครราชสีมา

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวต่อว่า นอกจากมาร่วมกิจกรรมชิมอาหารย่างแล้ว ทุกท่านยังสามารถวางแผนท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของจังหวัดนครราชสีมาได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวแบบชุมชนหรือเส้นทางสายวัฒนธรรมต่างๆ ในตัวเมืองโคราช อาทิ เส้นทาง 9 วัด 3 ศาล เช่น วัดพระนารายณ์ วัดสระแก้ว วัดบึง วัดพายัพ วัดอิสาน วัดบูรพ์ วัดศาลาลอย ศาลหลักเมือง ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลพระนารายณ์ ชุมชนทำขนมจีนบ้านประโดก อำเภอเมือง ชุมชนผ้าไหมบ้านดู่และบ้านจะโปะ อำเภอปักธงชัย เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน เป็นต้น

ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์สำคัญอื่นๆ อาทิ "ไหว้ย่าโม" ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนี้ คนส่วนมากมักจะไปขอพรและบนบานศาลกล่าว แล้วจะแก้บนด้วยเพลงพื้นเมืองอย่างเพลงโคราช และเรื่องที่ต้องลองสักครั้ง คือการลอดซุ้มประตูชุมพล ซึ่งมีความเชื่อตกทอดกันมาว่า หากลอด 1 ครั้ง จะได้กลับมาในโคราช หากลอด 2 ครั้ง จะได้มาทำงานหรือมาอยู่ที่โคราช และหากใครลอด 3 ครั้งนั้น จะมีคู่ครองเป็นคนโคราช ผลเป็นยังไงไม่รู้ อยากท้าพิสูจน์ ต้องลองมาลอดซุ้มเอง

   ต่อด้วย "วัดบ้านไร่" ที่ยิ่งใหญ่อลังการ สวยงามตระการตา เกิดจากความเคารพศรัทธาที่พุทธศาสนิกชนมีต่อ "หลวงพ่อคูณ" จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ที่นักท่องเที่ยวยังคงแวะไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ

   โดยสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ ลวดลายสวยงาม, หอเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (อาคารปริสุทธปัญญา) เป็นอาคารประติมากรรมช้าง (Elephant Temple Thailand) สร้างไว้กลางน้ำ ชั้นดาดฟ้ามีรูปปั้นพระพุทธเจ้าปางลีลา และหลวงพ่อคูณ รอบอาคารเป็นภาพเขียนสีบนกระเบื้อง ภายในมีภาพเขียนปริศนาธรรม หอเทพวิทยาคมนี้ประกอบขึ้นด้วยโมเสกมากกว่า 20 ล้านชิ้น, พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ จัดแสดงเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ, พญานาค 7 เศียร อยู่กลางน้ำ 900,000 ชิ้น

สำหรับนักท่องเที่ยว สายธรรมชาติ  จังหวัดนครราชสีมาก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่สามารถแวะเวียนไปเที่ยวต่อกันได้ เช่น "เขาใหญ่" ซึ่งมีครบทั้งน้ำตก ป่าไม้ ภูเขา เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ รวมถึงสัตว์ป่า จากนั้นอาจจะเลยไปที่  "วังน้ำเขียว" สัมผัสบรรยากาศที่เย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์ และยังเป็นแหล่งรวมของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผักอินทรีย์ ผลไม้สดๆ จากไร่

"เขายายเที่ยง" ตั้งอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว ซึ่งบนเขายายเที่ยงจะมีร้านอาหารและรีสอร์ตให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชิลๆ เปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวใหม่ๆ จุดไฮไลต์คือ จุดชมวิวบนอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าลำตะคอง ชลภาวัฒนา โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว หรือในตอนเย็น อากาศด้านบนจะเย็นสบายมากๆ

ปิดท้าย “อำเภอครบุรี” อีกที่เที่ยวหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาดมาเที่ยว ด้วยกิจกรรมชมเขื่อน ล่องแพ เล่นน้ำตก รวมทั้งที่เที่ยวที่ใครๆ ไม่ค่อยรู้จัก ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวยังสงบ คนไม่พลุกพล่าน  อย่าง น้ำตกวังเต่า เขื่อนลำแชะ หาดจอมทอง และสะพานไม้ 100 ปี

"มาเที่ยวเมืองโคราชแล้วเรียกว่าคุ้ม เพราะได้ชิมอาหารย่าง อย่างหลากหลาย ท่ามกลางบรรยากาศสไตล์คาวบอย ในช่วงที่อากาศกำลังเย็นลง ควบคู่ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ได้ตามความต้องการ ที่นอกจากสร้างความสุขใจให้แก่ผู้มาเยือนแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีความคึกคักได้อีกด้วย” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวปิดท้าย 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โทร. 0-4429-6121-3, 08-8595-5634 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา 2102 - 2104  ถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา โทร. 0- 4421-3030, 0-4421-3666 โทรสาร 0-4421-3667  w ww.tourismthailand.org/nakhonratchasima E-Mail : t [email protected] FaceBook FanPage : ททท.สำนักงานนครราชสีมา

 

สรณะ รายงาน