'ชัยวัฒน์'โล่งอก ศาลยกคำร้องถอนประกัน เจ้าตัวยันไม่เข้าพื้นที่


เพิ่มเพื่อน    

25 พ.ย. 62 - ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีต ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ปัจจุบันเป็น ผอ.ทสจ. ปัตตานี กับพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าอำพรางนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง เมื่อปี 2557 เดินทางมารายงานตัวครั้งที่ 1 หลังครบกำหนดฝากขังครั้งแรก 12 วัน และต่อมาในเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายชัยวัฒน์กับพวก ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อศาลที่นัดพร้อมสอบถามคู่ความทั้งสองฝ่าย กรณีดีเอสไอยื่นคำร้องขอถอนประกันนายชัยวัฒน์

โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมีความเห็นว่า ต้องการให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวของนายชัยวัฒน์และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รวม 4 คน โดยให้เหตุผลกรณีให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนของนายชัยวัฒน์ มีการกล่าวอ้างว่าการได้มาซึ่งพยานหลักฐานไม่เป็นความจริงและสร้างพยานหลักฐานเท็จ นอกจากนี้ยังให้สัมภาษณ์ว่าจะไปสาบานตนที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งอาจส่งผลให้พยานที่อยู่ในพื้นที่เกิดความสับสน และอาจทำให้พนักงานสอบสวนไม่ได้รับความร่วมมือกับคนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ขณะเดียวกันฝ่ายนายชัยวัฒน์กับพวก ได้ยื่นคัดค้านคำร้องของดีเอสไอต่อศาล โดยระบุว่าการให้สัมภาษณ์เป็นเพียงการอธิบาย แสดงความเห็นโดยสุจริต อีกทั้งตั้งแต่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงตำแหน่ง หน้าที่ ปัจจุบันของผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีอำนาจในการสั่งการดำเนินการใดๆ ในพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ นายชัยวัฒน์ยังแถลงลักษณะให้คำมั่นกับศาลว่า จะไม่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุและไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

ต่อมา 16.00 น. ศาลพิเคราะห์คำร้องพร้อมข้อเท็จจริงแล้ว มีความเห็นว่า ยังไม่พบพฤติการณ์ของนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ชั้นนี้ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะพิจารณาเพิกถอนประกันหรือการกำหนดเงื่อนไขประกันเพิ่มเติม ศาลจึงให้มีคำสั่งให้ยกคำร้องของดีเอสไอ

ภายหลังศาลยกคำร้องขอเพิกถอนคำร้องปล่อยชั่วคราว นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มได้เดินลงมาพบกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว พร้อมนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ

นายพรชัย กล่าวถึงกรณีที่แถลงในศาลว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่กระทบกับรูปคดี และยืนยันว่าจะไม่เข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พื้นที่เกิดเหตุว่า ตรงนี้เป็นแนวทางของคดีที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เราก็เคารพการสอบสวน ซึ่งขั้นตอนของคดีก็ยังมีการยื่นคำร้องฝากขัง หลังสรุปสำนวนคดีก็ต้องรอดูอัยการว่าจะมีความเห็นสั่งคดีอย่างไร ส่วนที่มีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ก็เป็นใช้สิทธิตามที่ได้แถลงต่อศาลไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่าสุดท้ายแล้วศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ นายพรชัย กล่าวว่า นายชัยวัฒน์คงจะไม่มีการให้สัมภาษณ์อีกแล้ว เพราะศาลท่านได้เมตตา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่จะไม่ให้สัมภาษณ์เช่นกัน ส่วนแนวทางสู้คดีก็คงต้องดูพยานหลักฐานของดีเอสไอว่ามีเพิ่มเติมอย่างไร ก็คงจะเห็นได้อีกที หากมีการสั่งฟ้องคดีหรือนัดตรวจพยานหลักฐาน ส่วนพยานหลักฐานเราก็เตรียมไว้เบื้องต้นตามที่ดีเอสไอแจ้งข้อหามา

ถามถึงการย้ายนายชัยวัฒน์ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ จ.ปัตตานี นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า อยู่ที่ไหนก็ได้ เป็นข้าราชการก็ต้องทำงานให้ดีที่สุด ขอให้ชาวปัตตานีได้เห็นทำงานก่อน ตนจะทำงานให้ดีที่สุด ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าของกระทรวงทรัพยากรฯ ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าจริงๆ แล้วเป็นข้าราชการ ผู้บริหารสั่งไปไหนด็ต้องไป อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าไม่ได้สั่งให้ไปทุจริต และตนจะไปรายงานตัวช่วงต้นเดือนหน้า ทั้งนี้ ศาลนัดรายงานตัวฝากครั้งอีกครั้งวันที่ 6 ธ.ค.นี้

เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้เกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของบิลลี่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ ก่อนกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน และขอตัวเดินทางกลับทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปล่อยชั่วคราวนายชัยวัฒน์กับพวกในชั้นฝากขังนั้น ก่อนหน้านี้ศาลได้กำหนดวงเงินการประกันตัวคนละ 800,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนของการดำเนินคดีกลุ่มนายชัยวัฒน์ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.- 5 ธ.ค.นี้ โดยศาลกำหนดนัดให้นายชัยวัฒน์กับพวกมารายงานตัวอีกครั้ง ภายหลังครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"