บันทึกหน้า4...ปรารถนา


เพิ่มเพื่อน    

            ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net เข้าสู่เทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับ "ปีจอ" มนุษย์เงินเดือนที่มาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนากันแล้ว ถนนมิตรภาพเส้นทางสู่ภาคอีสาน การจราจรหนาแน่นกันตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในช่วงหยุดยาวกำลังขะมักเขม้นกันเต็มที่ โดยวันที่ 29 ธ.ค. เป็นวันที่ 2 ของ 7 วันอันตราย ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 กำหนดไว้ ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2561

            มาตรการต่างๆ ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม ปีนี้เน้นหนักหน่อยไปที่ด่านชุมชนและถนนสายรอง ที่ส่วนกลางร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หวังจะลดตัวเลขการสูญเสีย เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมักจะมีการกระทำผิดกฎจราจรบ่อย ส่วนเรื่องการนั่งท้ายกระบะ เจ้าหน้าที่ยังผ่อนปรนให้เพราะเข้าใจว่าเป็นวิถีชีวิตของคนไทย เมื่อกฎหมายอนุโลมให้ ประชาชนเองก็ต้องเคร่งครัดเรื่องวินัยจราจร ไม่นั่งขอบกระบะ ไม่ดื่มสุราบนรถ เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด ...๐

            "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดบ้าน "สี่เสาเทเวศร์" ให้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำผู้บัญชาการเหล่าทัพและคณะรัฐมนตรี เข้าอวยพรปีใหม่ปีนี้ บรรยากาศคึกคัก โดยเฉพาะ "บิ๊กตู่" ที่เป็นอีกครั้งที่ใช้โอกาสระบายความทุกข์ความเครียดให้ "ป๋าเปรม" ฟังอีกแล้ว ตั้งแต่เรื่องพี่น้อง 3 ป. โดนโจมตีหนัก ไปจนถึงการทำงาน แต่บอกว่าจะยิ้มสู้

            ขณะที่ "ป๋าเปรม" ให้สติไม่ยาวมาก แค่บอกให้รักษาสัญญาที่จะคืนความสุขให้คนในชาติ พร้อมแนะนำ "ตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเราสามารถแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีที่มีต่อประชาชนชาวไทย กองหนุนก็จะมาเอง" ง่ายๆ ตรงตัว คือ ทำให้โดนใจประชาชน แต่หันมองตอนนี้ หลายเรื่องสุ่มเสี่ยงจะเสียมวลชนเหลือเกิน ตั้งแต่กรณีนาฬิกาหรูของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่โผล่ออกมาเรือนที่ 11 แล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังรอว่า จะชี้แจงอย่างไร

            และไม่ใช่แค่คำชี้แจงของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เท่านั้น แต่รวมถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การนำของ "บิ๊กกุ้ย" พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่ถูกคนเพ่งเล็งว่า อาจจะเป็นเครื่องมือในการฟอกขาวให้ ดังนั้น ถ้าผลมันออกมาไม่สมเหตุสมผลอาจยิ่งไปกันใหญ่ เพราะจะทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรปราบโกงเอง

            เหมือนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากระทุ้งให้ระวังซ้ำรอยยุค ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น่ะแหละ ไม่ใช่แค่เรื่องการใช้อำนาจเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปแทรกแซง หรือส่งคนเข้าไปในองค์กรอิสระ ซึ่งตอนนี้ทั้ง ป.ป.ช. และว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกมองว่าเป็นคนของท็อปบูตหมดแล้ว ...๐

            ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เองก็รู้ว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 53/2560 ที่ให้พรรคการเมืองดำเนินการเรื่องระบบสมาชิกพรรค โอกาสที่จะชนะเป็นเรื่องน้อยนิด แต่เป็นไฟต์บังคับที่ต้องทำเพื่อเป็นการตอบโต้ และชำแหละให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของ คสช. ว่าต้องการอะไรกันแน่

            หันไปดูอาการของมือกฎหมาย คสช. ทั้ง "เนติบริกร" วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ได้แสดงความยี่หระอะไรเลยกับท่าทีของสองพรรคใหญ่ เพราะมั่นใจถึงระบบป้องกันที่ทำกันเอาไว้แน่นหนาในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งให้ความคุ้มครองคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่มันก็ย้อนแย้งกันดีสิ้นดี เพราะในคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับล่าสุด เปิดช่องให้สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ถ้ามีปัญหา แต่ในรัฐธรรมนูญก็คุ้มครองการใช้มาตรา 44 เอาไว้ สรุปเขียนช่องเอาไว้ให้สวยหรูอย่างนั่นแล เหมือนมีสิทธิ์ แต่ใช้สิทธิ์ไปก็เท่านั้น ...๐

ใช้รูป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ

พรเพชร วิชิตชลชัย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"