ปักหมุดชมดอกไม้ ดูสายหมอกอีสาน


เพิ่มเพื่อน    

ฤดูหนาวนี้ในหลายภูมิภาคตอนบนของเมืองไทย คงเป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขึ้นยอดดอย พิชิตภู หรือชมทะเลหมอกสัมผัสไอเย็นตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งดอกไม้เบ่งบานสะพรั่งและพรรณไม้สีสันสวยงาม  โดยเฉพาะในภาคอีสาน

ทั้งนี้ จากข้อมูลเว็บไซต์  www. เที่ยวอีสาน.com สนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รวบรวม 10 พิกัดท่องเที่ยวเป็นทางเลือกให้สำหรับคนชื่นชอบธรรมชาติและถ่ายรูปไปซึมซับบรรยากาศความหนาวเย็น ด้วยการเดินทางที่ไม่ยาก

เริ่มต้นที่ “ภูห้วยอีสัน” เป็นจุดชมวิวลำน้ำโขงบนเนินเขาเล็กๆ ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอีกแห่งหนึ่งของ จ.หนองคาย เมื่อนั่งรถอีแต๋นที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงจุดชมวิวสูงสุด จะมองเห็นทั้งบ้านเรือนใน อ.สังคม จ.หนองคาย ลำน้ำโขง และเกาะแก่ง ที่คั่นระหว่างชายแดนไทย-ลาว พร้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ความงดงามอยู่ที่เวลาพระอาทิตย์เริ่มสาดกระทบสายหมอกและลำน้ำโขง บรรยากาศทุ่งหญ้ารอบตัวจะทาไปด้วยสีส้มอุ่นๆ ราวกับอยู่ในความฝัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม

“จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ” อ.สังคม จ.หนองคาย เป็นจุดชมวิวสกายวอล์กทรงเกือกม้ายาว 16 เมตร ที่สามารถเดินออกไปชมวิวพาโนรามาน่าตื่นตาของแม่น้ำโขงกว้างใหญ่ไกลถึงฝั่ง สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน แถมในช่วงน้ำลดยังสามารถมองเห็นสันทรายเป็นคลื่นคล้ายเกล็ดพญานาคจากระยะไกลด้วย

ส่วนใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอกจะต้องมาเช้าหน่อย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่หมอกจะลอยตัวคลุมเหนือพื้นด้านล่างจนมิด กลายเป็นวิวสุดอลังการราวกับยืนอยู่เหนือปุยเมฆก็ไม่ปาน ชมวิวแล้วก็อย่าลืมเดินขึ้นบันไดนาคไปสักการะพระประธานบนพระอุโบสถของวัด พร้อมกับทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล

“อุทยานแห่งชาติภูเรือ”  ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย จุดชมวิวที่รู้จักกันดีคือ ผาโหล่นน้อย ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม และหากเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตร จะพบกับ ยอดภูเรือ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,365 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั้งแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นระหว่างพรมแดนไทย-ลาว นอกจากจะได้ชมแสงสาดกระทบยอดเขาอย่างงดงามแล้ว บนนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติชมดอกไม้ป่าช่วงหน้าหนาว และบริการลานกางเต็นท์อีกด้วย

“ภูทอก” จุดชมวิวที่สามารถมาได้ทั้งวัน ทั้งมาชมทะเลหมอกยามเช้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่หากใครมีโอกาสมาเยือน อ.เชียงคาน จ.เลย ก็ไม่ควรพลาดที่จะขึ้นมารอแสงแรกส่องลงบนผืนหมอกหนานุ่ม ในขณะที่ยามเย็น วิวพระอาทิตย์ตกจากบนนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งนอกจากความงดงามตามธรรมชาติแล้ว ยังจะได้เห็นทั้งทิวทัศน์มุมสูงของตัวเมืองเชียงคาน ฝั่งตรงข้ามคือเมืองสานะคาม สปป.ลาว มีลำน้ำโขงคั่นกลาง เรื่อยไปจนถึงแก่งคุดคู้ ที่ตรงสุดโค้งน้ำด้วย

“ภูลมโล” ใครที่ชมวิวดอกนางพญาเสือโคร่งทางเหนือจนเบื่อแล้ว ขอให้มาเปลี่ยนบรรยากาศชมซากุระเมืองไทยทางฝั่งอีสานดูบ้าง โดยเฉพาะที่ภูลมโล ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ฝั่งจ.เลย ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขาติดกันหลายลูก และมีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นตามธรรมชาติอยู่ทั่วไป เมื่อถึงช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี เนินเขาจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างอลังการจากดอกไม้ที่เบ่งบานพร้อมกัน เรียกว่ามองจากมุมสูงก็จะได้วิวขุนเขาแซมด้วยสีชมพูเต็มไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแสงยามเช้าตรู่ หรือจะลงไปเดินหามุมเซลฟีใต้ต้นซากุระเอง ก็มีมากมายจนไม่ต้องแย่งวิวกับใครแน่นอน

“ภูป่าเปาะ” เป็นจุดชมวิวที่สามารถมาได้ทั้งวัน โดยไฮไลต์อยู่ที่วิว ภูหอหรือเรียกเก๋ๆ ว่า ฟูจิเมืองเลยซึ่งถือเป็นวิวที่ใครต่างก็ตั้งใจนั่งรถอีแต๊กชาวบ้านขึ้นมาชมกัน ลักษณะเป็นภูเขายอดตัดราบ มองไกลๆ คล้ายชามคว่ำดูแปลกตา จนมีคนเชื่อมโยงว่าเหมือนภูเขาไฟฟูจิที่ญี่ปุ่นเพียงแต่ไม่มีหิมะปกคลุมเท่านั้นเอง บนยอดภูป่าเปาะมีจุดชมวิวเตรียมไว้ให้ถึง 4 จุด โดยจุดชมวิวที่อยู่สูงสุดจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบตัว 360 องศา เรียกว่าจะมารอพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมสายหมอก หรือจะมาชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกก็ได้ ทิวทัศน์ที่เห็นก็สวยงามแตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี

“อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” สำหรับนักเดินทางขาลุย ยอดภูกระดึง คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเช็กอินซักครั้งในชีวิต เพราะความท้าทายของระยะเดินเท้าขึ้นเขากว่า 9 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในการไต่ระดับขึ้นไปจนถึงยอดภู แต่ความสวยงามของป่าสนและธารน้ำตกบนนั้นก็ตอบแทนหยาดเหงื่อของนักเดินทางอย่างคุ้มค่า โดยจุดชมวิวที่กลายเป็นภาพจำของภูกระดึงนั่นคือ ผาหล่มสัก ที่มีชะง่อนหินยื่นออกไปกับกิ่งสน มุมถ่ายภาพสุดฮิตที่ใครก็ต้องมาต่อคิวรอเวลาพระอาทิตย์ลับฟ้า นอกจากนี้ก็ยังมีผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งแทบทุกคนที่ขึ้นมาบนภูกระดึงจะต้องตื่นมารับอรุณด้วยกัน

“ทะเลบัวแดง” หากใครได้มาเยือนทะเลบัวแดง บึงหนองหาน อ.กุมภวาปี อุดรธานี สักครั้งแล้วรับรองว่าจะต้องหลงรัก เทศกาลชมทะเลบัวแดงมีขึ้นตลอดฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ โดยจุดล่องเรือชมบัวแดงกระจายอยู่หลายแห่งรอบบึง แต่ท่าเรือซึ่งมีขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมที่สุดอยู่ที่บ้านเดียม ตำบลเชียงแหว แต่ละวันจะมีชาวบ้านมาให้บริการเรือนำเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ

ข้ามไปอีสานใต้ “ผามออีแดง” เป็นจุดชมวิวที่อยู่ติดชิดชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา และยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารฝั่งไทย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เรียกว่าเป็นบริเวณที่เคยรุ่งเรืองด้วยอารยธรรมขอม จากบรรดาสถูปและปราสาทหลายแห่งที่กระจายอยู่ในบริเวณนี้ รวมไปถึงปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวผามออีแดงนี้เช่นกัน นอกจากนี้ใต้หน้าผายังมีทางเดินให้ลงไปชมภาพสลักนูนต่ำอายุกว่า 1,000 ปีด้วย ส่วนใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอก ต้องรีบมาแต่เช้า จะมีโอกาสได้เห็นหมอกลอยล่องเหนือผืนป่าเขียวขจี และโอบล้อมเทือกเขาฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน

ปิดท้าย “จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม” ทุกหนึ่งปีจะเนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีทั้งทุ่งดอกไม้นานาพรรณ จัดแสดงงานสถาปัตยกรรม แสดงศิลปะพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวอีสาน ซึ่งแต่ละปีธีมงานจะเปลี่ยนไปเรื่อย อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถสรรหาผลิตผลคุณภาพจากจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม โดยเฉพาะพืชผักต่างๆ และผ้าไหมไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก

    เชื่อว่าสถานที่ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ จะทำให้ทุกท่านได้ซึมซับบรรรยากาศในฤดูหนาวอย่างเต็มอิ่ม และเก็บประสบการณ์สุดประทับใจกลับออกไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ  www. เที่ยวอีสาน.com

                สรณะ รายงาน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"