วันที่ 15 ธ.ค.62 เวลา 11.00น. คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย เดินทางศึกษาดูงาน เรื่อง "การพัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย" ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2562 ณ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ และจังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดย นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง รองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ศึกษาดูงานและร่วมประชุมหารือกับผู้ประกอบการและตัวแทนภาตประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อรับฟังปัญหาและความคิดเห็นในการพัฒนาเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยมี นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต , รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเก็ตโฮ่ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต 

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง รองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย รับฟังแนวคิดความคิดเห็นและสภาพปัญหาในส่วนอันดามันที่มีอยู่และจะแก้ไขปัญหาอย่างไรและนำไปสู่การพัฒนาที่จะเชื่อมโยงไปสู่อ่าวไทยได้อย่างไร ผ่านทางเส้นทางรถไฟไปทางสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช หรือ จากกระบี่ไปทางอ่าวไทยจะเชื่อมโยงเส้นทางอย่างไร 
"การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อศึกษาหาเส้นทางที่จะทำให้นักท่องเที่ยวมีความสนใจ เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงอันดามันสู่อ่าวไทย ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 2.การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ -วัฒนธรรม และ 3.การท่องเที่ยวเชิงเกษตร จะมีหัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายรับผิดชอบ โดยเส้นทางการศึกษาจะมีการผสมผสานกัน" นายสัณหพจน์ กล่าวและว่าปัญหาต่างๆของภูเก็ตเป็นปัญหาระบบของประเทศ ต้องค่อยปรับค่อยแก้ในระดับรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ภายใน 7-8 เดือน นับจากนี้จะมีผลงานปรากฎ ส่วนปัญหาการบริหารจัดการน้ำของภูเก็ต ขอข้อมูลทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ตรวบรวมส่งให้ด้วย เนื่องจาก ตนอยู่ในคณะกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำ เพื่อนำข้อมูลภาคใต้ทั้งหมด เสนอ ต่อ ร.อ.ธรรมนัส พงษ์เผ่า รัฐมนตรีฯ ได้พิจารณาแก้ปัญหา

ด้าน รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีรายได้ท่องเที่ยวปีละกว่า4แสนล้านบาทติดอันดับ1ของเอเชีย อันดับ3ของโลก การเชื่อมโยงอันดามันสู่อ่าวไทยมีหลายมิติ ถ้าทำโครงการคลองไทยในหลายจังหวัดท่องเที่ยวรายได้ท่องเที่ยวจะเพิ่มได้หลายแสนล้านบาท

"มหาวิทยาลัยฯตั้งใจให้ภูเก็ตเป็นสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทอันดามัน โดย มหาวิทยาลัยฯจะสร้างระบบสารสนเทศอัจฉริยะ ในข้อมูลแบบเรียลไทม์ ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ต การท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม,การยกระดับความสามารถการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ,การสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยวชุมชน ,ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ พัฒนาศักยภาพมัคคุเทศก์อาชีพ ศูนย์ทดสอบภาษาต่างประเทศ การพัฒนาแรงงานข้ามชาติในภูเก็ต การส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและทักษะอาชีพ

ขณะนี้ มหาวิทยาลัยฯขับเคลื่อนโครงการจัดตั้งศูนย์สุขภาพนานาชาติ ต้องการก่อสร้างบนพื้นที่สวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และจะผลิตหลักสูตรแพทย์พยาบาลอินเตอร์ ดูแลผู้ป่วยชาวไทยและนานาชาติในศูนย์ฯดังกล่าว ได้เสนอขอที่ดินกับกรมป่าไม้รอคำตอบจากกรมป่าไม้ จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯ ช่วยผลักดันด้วย "รศ.ดร.พันธ์ กล่าว

ด้าน นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ต โชคดีที่มีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต ได้มีข้อมูลวิชาการต้องมีวิธีคิดในกระบวนการเดียวกัน ภูเก็ตต้องเติบโตและแข็งแรง อันดามันและอ่าวไทยต้องเติบโตด้วยกัน ต้องผลักดันให้ภูเก็ตเป็นต้นแบบเมืองดีที่สุดในเอเชียและในประเทศไทย

"ภูเก็ตมีปัญหาหลายเรื่องถ้าไม่ช่วยกันแก้ปัญหาตะทำให้ภูเก็ตเสียโอกาสในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ยอมรับว่า ปีนี้ ถดถอยกว่าปีก่อนๆ ยอดนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ลด แต่ภูเก็ตมีห้องพักเพิ่มขึ้นเป็นจังหวัดเสรี ห้ามนักลงทุนไม่ได้ โดยถูกรุกจากนักลงทุนต่างชาติชาวจีน และ ภูเก็ต ยังมีปัญหาประชากรแฝง ทำให้ การของบประมาณจากรัฐบาลจึงได้ไม่เต็มที่ ด้วยมีการให้ตามจำนวนประชากรจริงที่มีกว่า4แสนคน ขอให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเพื่อการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้มีศักยภาพมากขึ้น 

ภูเก็ต มีปัญหาการจราจรคับคั่ง การก่อสร้างถนนเพิ่มติดขัดกับEIA มาหลายปี เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาขยายถนน และ โครงการรถไฟรางเบา เหล่านี้ถ้าไม่ถูกผลักดันให้เป็นเมืองระดับโลกได้จริง ภูเก็ตจะริ่มป่วยเป็นโรค ถ้าทำได้ช้าจะเป็นเรือธงหลักของอันดามันไม่ได้ และ ขอให้มีท่าจอดเรือครุยส์ รองรับกลุ่มเรือสำราญ และ การวางแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวทางสนามบินเพื่อช่วยกระจายให้ครบทุกจังหวัด" นายธนูศักดิ์ กล่าว 

ด้าน นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อมูลกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน ระบุว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดหลักในกลุ่มจังหวัดอันดามัน รายได้การท่องเที่ยวทั้งกลุ่มจังหวัด ทั้งหมด 6แสน 4พันล้านบาท ยอดนักท่องเที่ยวไม่ลด ในปี 60-61 ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่ม 3% ภาพรวมปีนี้เพิ่มขึ้น แต่ จีนลด 9.4% 

ทางจังหวัดภูเก็ต โดย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ความสำคัญความปลอดภัย และการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากขึ้น การกระจายนักท่องเที่ยวไปสู่จังหวัดต่างๆในอันดามันมากขึ้น

ส่วนการเชื่อมโยงสู่อ่าวไทยในเส้นทางคมนาคมทางบกและทางน้ำจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว และ ทางจังหวัดขอบคุณคณะกรรมาธิการฯที่มารับฟังปัญหาต่างๆเพื่อนำสู่การแก้ปัญหาต่อไป