'พีระพันธุ์' เปิดภารกิจกุนซือนายกฯบิ๊กตู่-พร้อมนั่งประธานกมธ.ศึกษาแนวทางแก้รธน.


เพิ่มเพื่อน    

19 ธ.ค.62 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางสักการะศาลพระภูมิ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ตำแหน่งของตนถือเป็นที่ปรึกษานายกฯทั่วไป ไม่ได้มีการมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านไหนเป็นการเฉพาะ แต่จากการหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ธ.ค. จะรับผิดชอบงานในด้านกฎหมายและการดูแลเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ส่วนห้องทำงานของตนบนตึกบัญชาการ ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีชื่อเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และมีแนวโน้มนั่งเป็นประธานกมธ.นั้น มีความชัดเจนแล้วหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบและจากการที่ได้พูดคุยกับนายกฯ ก็ไม่ได้หารือถึงเรื่องดังกล่าว มีเพียงการพูดคุยเรื่องงานภายในทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตนได้เห็นชื่อตัวเองอยู่เหมือนกันและไม่ทราบว่ามีที่มาอย่างไร จนนาทีนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลย

เมื่อถามว่าชื่อนายพีระพันธุ์ ที่ปรากฎมาในสัดส่วนของครม. หากในที่ประชุมกมธ.มีมติเลือกให้เป็นประธานกมธ.ก็พร้อมทำหน้าที่ทันทีใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ถ้าได้รับเลือกก็ทำได้อยู่แล้ว มันไม่ต่างกับกรรมาธิการอื่นๆ เหมือนกันหมด เราอยู่ในสภาฯมานานแล้ว ทำหน้าที่ประธานมาก็หลายคณะแล้ว”

เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายเรื่องงานในด้านกฎหมายในรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการมอบหมายให้ดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ การที่ตนได้หารือกับนายกฯในวันนี้ อาจจะต้องมีการศึกษาต่อไปว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ ต้องปรับปรุงอะไรบ้างหรือต้องเพิ่มกฎหมายอะไรหรือไม่ รวมถึงกฎระเบียบทางราชการที่ยังมีช่องโหว่อยู่

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็มีคนติดต่อให้มาช่วยงาน ซึ่งไม่ใช่คนในแวดวงการเมือง และไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขในการที่จะต้องเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่ง เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการทาบทามให้เป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ปฏิเสธทันทีว่าไม่มี ไม่มีจริงๆ ขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้ไปสังกัดที่ไหน มีเพียงการติดต่อมาให้ช่วยรัฐบาล เพราะมีคนเห็นว่าตนยังไม่ได้ทำอะไร อยู่เฉยๆ ในเมื่อว่างๆ ก็มาทำตรงนี้ก่อน

เมื่อถามว่า ในเรื่องกฎหมายและการป้องกันการทุจริตนั้น คิดว่ามีประเด็นใดสำคัญที่ต้องลงไปดู นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็พยายามแก้ไข ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปัญญารชุน ได้ออกกฎหมายเรื่องการร่วมกิจการงานของรัฐ เพื่อดูแลโครงการใหญ่ ต่อมาได้ออกกฎหมายป้องกันการฮั้ว แต่ทุกวันนี้มันออกไปในเชิงเรื่องของสัญญา และใช้ช่องโหว่ของสัญญาที่มีการเซ็น จนกลายเป็นว่ารัฐผิดสัญญาตลอด เพราะฉะนั้นคิดว่าควรจะต้องมีอะไรมากำกับดูแลการทำสัญญาโครงการของหน่วยงานของรัฐ เพื่อไม่ให้มีช่องโหว่กันอีก ถ้าไม่ควบคุมส่วนนี้เดี๋ยวก็จะมีคดีอีก ซึ่งก่อนหน้านี้มันเริ่มมาจากหลักพันล้าน จนกลายเป็นหมื่นล้านแสนล้าน แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร คงจะต้องศึกษาและเสนอนายกฯต่อไป รวมถึงคดีที่รัฐถูกฟ้อง ตลอดจนกฎระเบียบราชการที่ไม่ใช่กฎหมาย เป็นระเบียบปฏิบัติทั่วไป หากมีช่องโหว่ก็ต้องปรับปรุงเช่นเดียวกัน

“วันนี้คุยกับนายกฯ ในเรื่องแบบนี้เท่านั้นเอง ยังไม่เจาะจงว่าเป็นโครงการไหน เพราะผมเพิ่งมา ท่านก็ให้ผมลองศึกษาดู แล้วมาหารือกันว่าจะต้องเสนอกฎหมายใหม่หรือไม่ หรือต้องแก้กฎหมายอะไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามทุจริต แต่ผมไม่ได้มาดูกฎหมายของรัฐบาล ผมเป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็แล้วแต่นายกฯจะมอบหมายและที่ได้คุยกับท่านเมื่อเช้า อย่างน้อยผมคิดว่าประเด็นเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองโดยรวม เพราะทุกวันนี้มันหนักขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบที่เปิดช่องให้เกิดการทุจริตแบบนี้ได้ง่ายๆ และหาคนรับผิดชอบไม่ได้ คนที่เกี่ยวข้องก็รู้ว่าสุดท้ายไม่ต้องรับผิดชอบ ก็สบายกันใหญ่ เราต้องหาทางแก้ไข” นายพีระพันธุ์ กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"