ศักดิ์สยาม แจงเหตุครม.ยังไม่พิจารณากรณีขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM


เพิ่มเพื่อน    

 

25ธ.ค.62-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้นำเสนอข้อสรุปแนวทางการยุติข้อพิพาทระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL โดยได้มีการรายงานข้อมูลต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับทราบถึง การต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน แลกกับการยุติข้อพิพาททั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยไม่มีการลงทุนก่อสร้างปรับปรุงทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) แล้ว 

ทั้งนี้ นายวิษณุได้รับฟังข้อมูลแล้วไม่ได้มีข้อขัดข้องใดๆ โดยได้ให้ความเห็นว่า ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามมติครม. คือ ดำเนินการตามขั้นตอน ของคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และเจรจากับเอกชนให้ยุติ จากนั้นให้สรุปเรื่องนำเสนอครม.ในคราวเดียว

อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคม และกทพ. รวมถึงสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ได้ทำแผนปฏิบัติการ ในการดำเนินงาน โดยภายในวันที่ 25 ธ.ค. กระทรวงคมนาคมจะส่งเรื่องให้กทพ. เพื่อดำเนินการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ.ที่มีนายสุรงค์ บูลกุล เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าจะประชุมในวันที่ 26 ธ.ค. จากนั้นจะนำผลไปเจรจากับเอกชน ให้ได้ข้อยุติ และนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับฯ ตามมาตรา 43 

ทั้งนี้จะก็ส่งร่างร่างสัญญาที่จะแก้ไขให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา เพื่อดำเนินการแก้ไขสัญญาตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 68 ของ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ปี 2562และส่งความเห็นมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป 

สำหรับการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2(Double Deck) และก่อสร้างทางขึ้น-ลงเชื่อมเข้าศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และสถานีกลางบางซื่อ เพื่อแก้ปัญหาจราจร ซึ่งทางเอกชนเสนอลงทุนเพื่อแก้ปัญหาจราจรทางด่วนทั้งระบบนั้น จะต้องแลกกับการต่อสัญญาอีก 15 ปี ซึ่งเรื่องนี้ ถือเป็นคนละเรื่องกับข้อพิพาท 17 คดี ขณะที่การดำเนินการจะเป็นในระยะต่อไป เนื่องจากจะต้องมีการดำเนินการศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อน 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอครม.ถึงแนวทางการยุติข้อพิพาทแล้ว จะเสนอครม.เพื่อขอให้ กทพ. ดำเนินการศึกษาการแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบขนทางด่วน ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบ การก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2,ทางเชื่อมขึ้นลง รวมถึงโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ซึ่งมีความพร้อมในการลงทุนแล้ว ด้วยเงินจากกองทุน TFF โดยบอร์ด กทพ.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในเดือนม.ค. 2563 ซึ่งทางด่วน N 2 จะสามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรจากระบบทางด่วน จากฝั่งแจ้งวัฒนะไปทางเกษตร ได้ถึง 40% และเสนอครม.ในการดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาข้อพิพาทและคดีต่างๆ จะส่งเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"