เด็กวันนี้...กับปัญหาในอนาคตเบื้องหน้า


เพิ่มเพื่อน    

 

                                             (1)

                เพิ่งฉลองวัน ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ไปแวบๆ...ช่วงสัปดาห์หน้า หรือเสาร์หน้า วันที่ 11 มกราคม 2563 ก็ถึงจังหวะเวลาที่จะได้ ฉลองวันเด็ก กันอีกซะแร้นน์น์น์ และย่อมถือเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ที่บรรดา ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ทั้งหลาย จะถือเป็นวาระและโอกาส ในอันที่จะส่งความปรารถนาดี ไม่ว่าในรูปของ คำขวัญ หรือคำชี้แนะ ชี้นำใดๆ ก็แล้วแต่ ไปถึงบรรดาพวกเด็กๆ ทั้งหลาย กันในแต่ละปี...

                                                         (2)

        ส่วนบรรดาเด็กๆ...จะรับฟังด้วยหูซ้าย แล้วเก็บไว้ในสมอง ในจิตวิญญาณความรู้สึก หรือจะปล่อยให้ทะลุร่วงผล็อยๆ ออกไปทางหูขวา อันนั้น...ก็แล้วแต่เด็กใคร-เด็กมัน จะว่ากันไปตามสภาพ แต่โดยเนื้อหา สาระ ของบรรดาคำขวัญ หรือคำชี้แนะ ชี้นำทั้งหลาย ของบรรดาพวก ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ในแต่ละรายนั้น อาจถือเป็น ภาพสะท้อน ให้เห็นถึงภาวะความเป็นไปของพวกเด็กๆ ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ หรือแต่ละยุค แต่ละสมัย ได้พอสมควรเหมือนกัน อย่างเช่นในปีนี้ ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ไม่ว่าระดับ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก หรือระดับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ต่างทรงพร้อมใจที่จะหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า คุณธรรม ในหมู่พวกเด็ก อย่างเป็นจริง เป็นจัง และเป็นเรื่อง เป็นราว พอสมควร...

                                                        (3)

                อาจด้วยเหตุเพราะในเรื่องของความเก่ง ความรู้ ความฉลาด ความมีสุขภาพแข็งแกร่ง แข็งแรง หรือกระทั่งความสวยๆ งามๆ ฯลฯ สำหรับเด็กๆ ในยุคนี้ สมัยนี้นั้น แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึงกันมากมายซักเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่เพียงพ่อๆ-แม่ๆ ยุคนี้ สมัยนี้ ท่านออกจะประคับประคอง ทนุถนอมกล่อมเกลี้ยง เด็กๆ ของท่านในแต่ละราย ชนิดยิ่งกว่าไข่ในหินมาโดยตลอด ไม่ว่าสุขภาพร่างกาย สุขภาพปาก สุขภาพฟัน ฯลฯ ต่างได้รับการปกป้อง คุ้มกัน มาตั้งแต่ตีนยังไม่เท่าฝาหอย อีกทั้งบรรดาแหล่งข้อมูล ความรู้ ที่มันแพร่กระจายชนิดท่วมโลก ล้นโลก ยังทำให้บรรดาเด็กๆ ทั้งหลาย สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องหันไปพึ่งทิศาปาโมกข์ใดๆ แบบแต่ก่อน แค่กดปุ่มโน่น ปุ่มนี่ ไม่ว่าในมือถือส่วนตัว หรือในคอมพิวเตอร์ ก็สามารถ รู้ อะไรต่อมิอะไรได้แทบจะหมดทั้งโลก โดยอาศัย ศาสตราจารย์กูเกิล รายเดียวเท่านั้นเอง...

                                                       (4)

                ความเก่ง ความฉลาด หรือความรู้ จึงเป็นอะไรที่แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เช่นเดียวกับความมีสุขภาพแข็งแรง ไปจนถึงความสวยความหล่อ ที่สามารถผ่าตัด แต่งเติม กันได้ตั้งแต่ตีนยังใหญ่กว่าฝาหอยแค่ไม่กี่มาก-น้อย แต่ก็มีอยู่บางสิ่ง บางอย่าง ที่ไม่ว่าผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในสังคมไหนๆ ประเทศไหนๆ ต่างมีความรู้สึกไม่น่าจะต่างไปจากผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในสังคมไทย ประเทศไทย ของเรานี่แหละ นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า คุณธรรม นั่นเอง อันเป็นสิ่งที่ไม่อาจกดปุ่มโน่น ปุ่มนี่ แล้วมันจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ และอาจเป็นสิ่งที่บรรดาพ่อๆ-แม่ๆ ทั้งหลาย ท่านอาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง คล้ายๆ ประเภท พ่อ-แม่รังแกฉัน อะไรทำนองนั้น...

                                                      (5)           

                ด้วยเหตุนี้...สมเด็จพระสังฆราชฯ ท่านเลยต้องทรงออกมาเน้นย้ำเอาไว้อีกครั้ง ดังข้อความที่ว่า...ความรู้ที่เกิดจากบุคคลผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริตนั้น ย่อมไม่อาจเรียกว่า...ปัญญา หรือประเภท ความรู้ท่วมหัว-เอาตัวไม่รอด ประมาณนั้น โดยท่านให้เหตุผลรองรับไว้ว่า...เพราะปัญญาก็คือความรอบรู้และความเข้าใจในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่ว รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ เป็นโทษ ดังนั้นท่านเลยทรงชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้ว่า...สำหรับบุคคลหรือเด็กๆ ซึ่งปรารถนาจะเป็นผู้มีปัญญาสอดส่องได้อย่างทั่วถึง เพื่อสามารถแก้ปัญหา ตลอดจนพัฒนาตนให้ประสบความสุขและความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องมี...สุจริตธรรม...เป็นที่ตั้งเสียก่อน มีคุณธรรมพื้นฐานรองรับ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ความเป็นผู้มีปัญญา...

                                                (6)

                และโดยกรรมวิธีที่จะทำให้เกิด สุจริตธรรม เอาไว้รองรับความเป็นผู้มี ปัญญา นั้น...ท่านก็ทรงชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้แบบไม่ต้องเสียเวลาไปถาม อาจารย์กูเกิล หรือ อากู๋กูเกิล แต่อย่างใด คือเพียงแต่ให้บรรดาเด็กๆ ทั้งหลาย หันไปยึดมั่น หรือหันไปหมั่นรักษา ศีล 5 อันเป็นสิ่งที่ต่างก็รู้ๆ กันมาโดยตลอด โดยท่านทรงรับประกันการันตีเอาไว้เลยว่า...ถ้าสามารถรักษาศีล 5 ไว้โดยไม่บกพร่อง ย่อมถือเป็นเครื่องประกันได้ว่า...ชีวิตนี้จะไม่มีวันตกต่ำ จะเติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมไทย ให้เจริญรุ่งเรืองสถาพรได้อย่างแน่แท้...

                                                        (7)

                เช่นเดียวกับ...สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ทรงพระราชทาน คำขวัญวันเด็ก ปีนี้ ไว้ด้วยข้อความสั้นๆ ที่สรุปเอาไว้ว่า ความรู้...และคุณธรรม เป็นรากฐานสำคัญของความดี ความเจริญ ทุกอย่าง เด็กทุกคนจึงต้องหมั่นศึกษา อบรม ให้ถึงพร้อมด้วยความรู้และคุณธรรม เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ผู้สามารถสร้างสรรค์ความดี ความเจริญ ให้แก่ตนและส่วนรวม ส่วนบรรดาคำชี้แนะ ชี้นำเหล่านี้ จะเข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวาหรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ฉากสถานการณ์ที่กำลังกลายเป็น ปัญหา สำหรับประเทศไทย สังคมไทย ในอนาคตอันใกล้นี้ ก็น่าจะเป็นฉากสถานการณ์อันเนื่องมาจากบรรดาเด็กๆ ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ที่ทั้งเก่ง ทั้งฉลาด ทั้งรอบรู้ แถมยังอาจทั้งสวย ทั้งหล่อ อีกต่างหาก แต่ดันขาดอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการยึดมั่นอยู่ใน ศีล 5 หรือการเป็นผู้มี คุณธรรม นั่นเอง!!!

                            ----------------------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"