โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หลัง สหรัฐอเมริกาใช้โดรนลอบสังหาร “นายพลกาเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ของอิหร่านกลางกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก หลังผ่านปีหนูมาแค่ 3 วัน และล่าสุด “อิหร่าน” ก็ได้ตอบโต้หรือแก้แค้นตามปฏิบัติการ “มาไทร์ สุไลมานี” แล้ว โดยยิงขีปนาวุธแบบ Fateh-313 และ Qiam 1 จำนวน 22 ลูก ใส่ฐานทัพสหรัฐในอิรักจำนวน 2 ฐาน คือ ฐานทัพเอนอัล-อาซาด ในจังหวัดอันบาร์ และฐานทัพในเมืองเออร์บิล ในเคอร์ดิสถาน ซึ่งความเสียหายนั้นฝ่ายมะกันยังไม่แสดงตัวเลขที่ชัดเจนออกมา แต่ฟากผู้โจมตีก็ระบุว่ามีทหารสหรัฐเสียชีวิตกว่า 80 ราย...๐

ในขณะที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งบริหารชาติด้วยทวิตเตอร์ ก็โพสต์ในเรื่องนี้โอ่ว่า “ภาพรวมถือว่ายังดีอยู่ เรามีการทหารที่ทรงพลังและครบครันมากที่สุดในโลก และในวันที่ 9 ม.ค. ตามเวลาที่สหรัฐจะมีการออกแถลงการณ์อีกครั้ง” ซึ่งทั่วโลกต่างก็จับตาว่า เรื่องราวจะโกโซบิ๊กมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่อย่างไร...๐

ที่น่าสนใจเข้าไปอีก เมื่อ สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส 737-800 ตกในอิหร่านหลังเพิ่งบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติอิหม่าม โคไมนี ในกรุงเตหะราน เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 176 รายเสริมเติมเข้าไป จึงไม่น่าแปลกที่ยามนี้จะมีการจับแพะชนแกะว่าอาจเกี่ยวเนื่องกันก็ได้ จึงทำให้หลายสายการบินได้ประกาศ งดบินผ่านน่านฟ้าอิรัก อิหร่าน และอ่าวเปอร์เซียกันแล้ว...๐

แม้โลกอาหรับจะร้อนฉ่า แต่ในอีกฟากฝั่งหนึ่งก็น่าสนใจและต้องเกาะขอบจอรอติดตามเมื่อ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางมายัง “กรุงดามัสกัส” ประเทศซีเรีย และเข้าพบบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่มาเยือนซีเรียหลังเกิดเหตุสงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ซึ่งจังหวะก้าวของ “ปูติน” ช่างน่าคิดและน่าสนใจในภาวะที่ปัญหาสหรัฐ-อิหร่านอยู่ในช่วงมาคุอย่างยิ่ง...๐

ปัญหาของ “สหรัฐ-อิหร่าน” แม้ดูห่างไกลในระยะทาง แต่ที่ไหนได้การให้สัมภาษณ์ของ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมว.กต.ที่ไม่รู้จงใจหรือหลุดจริงว่า พี่เบิ้มสหรัฐได้บอกน้องไทยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวล่วงหน้า 1 วันแล้ว!!! ซึ่งคำบอกดังกล่าวก็ทำให้เรียกเสียงชยันโตทันที แม้ล่าสุด “ดอน” และ “โฆษกบัวแก้ว” จะออกมาปัดว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน แต่บรรดาขาการเมืองที่มองโลกในแง่ร้ายก็มองว่าระดับอดีตทูตเก๋าเกมอย่าง “ดอน” จะบังเอิญหลุดเรื่องละเอียดอ่อนอย่างนี้ได้อย่างไร หรือเป็นการจงใจ โดย หลังอภิปรายงบประมาณจบก็จะแสดงความรับผิดชอบไขก๊อกจากเรื่องดังกล่าว เพื่อหลุดรายชื่อกฐินไม่ไว้วางใจกันแน่ งานนี้คงต้องติดตามกันต่อไป...๐

หันกลับมาที่พี่ไทยในเวทีประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระ 2 และ 3 ของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 พันล้านบาทบ้าง ซึ่ง ในปีหนูไฟนี้ เราจะได้เห็น “พิธีกรรม” ดังกล่าวถึง 2 รอบ เพราะหลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบปี 63 ไปแล้ว ก็จะมีร่าง พ.ร.บ.งบปี 64 จ่อเข้าติดตามมา เราจึงไม่ค่อยเห็นการปะฉะดะกันซักเท่าใดในการประชุมงวดนี้ เพราะ ต่างก็รู้ว่าอีกไม่นานก็จะมีกฐินไม่ไว้วางใจแล้ว หากออกงิ้วมากไปก็อาจทำให้ราคาคุยเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจจืดชืดไปก็ได้...๐

หายไปนานสำหรับ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกฯ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ก็กลับมาเป็นข่าวหน้า 1 อีกแล้วครับทั่น โดยงานนี้เล่นเอาวงการสีกากีและขาเมาธ์สนุกสนานในการวิเคราะห์วิจารณ์เหตุการณ์รัวกระสุน 8 นัดใส่รถยนต์ส่วนตัวที่ไม่มีใครอยู่ ซึ่งบิ๊กโจ๊กก็ฟันธงทันควันว่าเกี่ยวกับเรื่อง “ไบโอเมทริกซ์” แน่นวล พร้อมทั้งเรียกร้องไปยัง “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผบ.ตร.ต้องหาผู้บงการและรับผิดชอบเรื่องนี้โดยเร็ว ซึ่งก็ แปลกแต่จริงที่ช่วงนี้ “บิ๊กแป๊ะ” กลับเงียบหายกลายเป็น “ขอมดำดิน” ไปเสียนี่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นการส่งและบอกสัญญาณอะไรหรือไม่อย่างไร แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงจบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งแน่...๐

ทิ้งท้ายด้วยกระแสรักษ์โลกงดใช้ “ถุงพลาสติก” กันบ้าง เพราะ ดูเหมือนตั้งแต่เริ่มต้นปีชวดก็เกิดดรามารายวัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพี่ไทยเล่นหักด้ามพร้าด้วยเข่าในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ในความเป็นจริงปัญหาพลาสติกหรือขยะนั้น มันต้องเริ่มที่การส่งเสริมการแยกขยะ และการกำจัดขยะมาก่อนเรื่องดังกล่าว แต่ที่บรรดาห้างร้านและร้านสะดวกซื้อต่างพร้อมใจกันร่วมมือนั้น ก็เพราะมันลดต้นทุนกันน่ะสิจ๊ะ ซึ่งตัวเลขต้นทุนตรงนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ คำถามของขาเมาธ์เลยเกิดขึ้นว่า ตกลงหวังช่วยลดขยะ หรือ ช่วยลดต้นทุนให้เจ้าสัวกันแน่ เพราะนอกจากไม่ต้องให้ถุงแล้วยังสามารถขายถุงผ้าได้อีก เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งล่องกันเลยทีเดียว...๐ 

...ท.ศักดิ์