เพิ่งออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โพสต์ประกาศเลิกปั้นนักแสดงแล้ว สำหรับ พชร์ อานนท์ โดยส่วนหนึ่งคาดว่าเจ้าตัวเกิดความเบื่อหน่าย เพราะตอนนี้กำลังมีปัญหากับ นิก-คุณาทิป ปิ่นประดับ เด็กในสังกัด จนถึงขั้นต้องฟ้องศาล ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ภาพข้อความว่า

          “เล่าเรื่องชีวิตผู้สร้าง (คน) ให้ฟัง เกิดมาเป็นผู้สร้าง (คน) ใครว่าสบาย ตอนเอาเด็กเข้ามาทํางานงานใหม่ๆ จะให้เล่นบทอะไรเอาหมด พอหนังได้ตังค์ บอกหนังดังเพราะมัน หนังได้ตังค์เพราะมัน ไม่ใช่ เพราะผกก.หรอกเหรอที่ส่งบทให้เล่นแถมยังบอกว่าผกก.ดังได้เพราะมัน เศร้ามาก ถามจริงถ้าเราไม่เอามันมาเล่นคนจะรู้จักมันไหม

          พอเราปั้นพระเอกใหม่ขึ้นมาอีกคนนึง เราจ่ายค่าตัวเท่ากัน เด็กคนเดิมโทรมาด่าว่าเราว่าทําไมจ่ายค่าตัวเท่ากัน กูดังกว่ามันตั้งเยอะคนก็ดูหนังเพราะกู แต่เวลาทํางานเท่ากันก็เลยจ่ายเท่ากันเพราะเหนื่อยเท่ากัน กูงงมาก ทนมาตลอด นี่คือสาเหตุนึ่งที่เลิกปั้นเด็ก เข็ดไปจนตาย มีเรื่องห่วยๆอีกเยอะ วันหลังคิดออกจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะ”

          นอกจากนี้ยังได้ระบุข้อความว่า “ต้องขอโทษคุณพ่อคุณแม่น้องๆบางคนด้วยนะครับที่ส่งลูกส่งเต้าสมัครเป็นนักแสดงกันเข้ามากันเยอะมาก และนี่คือสาเหตุนึงที่เราเลิกปั้นดารา เบื่อเหนื่อยเซ็งมาก อย่าโกรธเรานะ เจอแต่เรื่องเอี้ยๆ เลยไม่ปั้นไม่ส่งเสริมดีกว่า แต่ถ้าเราอยากได้คนมาร่วมงานแสดงเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบทางนี้นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับเจอคนเอี้ยๆเข็ดเลยขอบอก ต้องขอโทษน้องๆที่อยากเป็นดาราอีกครั้งด้วยนะครับ รักนะจุ๊บๆ”

          และหลังจากนั้นไม่นาน พชร์ อานนท์ ก็ได้โพสต์เอกสารซึ่งเป็นคำสั่งศาลในอินสตาแกรมส่วนตัว โดยในเอกสารดังกล่าว มีใจความว่า

          "คดีอ. 2237/62 ศาลอาญา นายอานนท์-นายคุณาธิป

          -นัดฟังคำสั่งวันนี้ทนายโจทก์มาศาล

          -คำสั่งโดยสรุป

                    ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของและกรรมการบริษัทฟิลม์กูรู จำกัด จำเลยเป็นนักแสดงในสังกัดของโจทก์ และเล่นภาพยนตร์เรื่องสงกรานต์ฯ โจทก์จ่ายค่าจ้างครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยอ้างว่ายังไม่ได้ชำระค่าประชาสัมพันธ์ของภาพยนตร์ดังกล่าว

                    จำเลยลงข้อความทวงถามค่าประชาสัมพันธ์ของภาพยนตร์และแชร์ข้อมูลจากเฟซบุ๊กชื่อษิทราฯ ตามข้อ 2. 1, 2. 4, 2. 5 แม้จะยังไม่ยุติว่าโจทก์ค้างค่าประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ดังกล่าวหรือไม่ แต่การที่จำเลยโพสต์และแชร์ข้อความตามฟ้องข้อ 2. 1, 2. 4, 2. 5 ในลักษณะที่ๆไม่เป็นคำเตือนแก่โจทก์ให้ชำระหนี้ อันจำเลยมีสิทธิกระทำตามกฎหมายได้

                    ที่จำเลยนำภาพและข้อความในเฟซบุ๊กของโจทก์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แอพพลิเคชั่นอินสตาแกรม โดยพิมพ์ข้อความบรรยายภาพว่า นี่ก็อีกหนึ่งพฤติกรรมสร้างเรื่องเก่ง ... . ทำให้บุคคลทั่วไปที่อ่านและพบเห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีแต่งเรื่องไม่จริงขึ้นมา

                    ที่จำเลยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าโจทก์ค้างชำระค่าประชาสัมพันธ์เรื่องสงกรานต์ฯกับจำเลยจากนั้นผู้สื่อข่าวได้นำคำสัมภาษณ์ของจำเลยไปลงในเพจ บันเทิงคมชัดลึก ตามฟ้องข้อ 2. 3 นั้น จำเลยย่อมเล็งเห็นว่าผู้สื่อข่าวต้องนำข้อความที่จำเลยแถลงข่าวไปเสนอ เมื่อเพจบันเทิงคมชัดลึกนำข้อความไปเสนอทางสื่อสังคมออนไลน์ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ไม่ซื่อตรง คดโกง

                    การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ครบองค์ประกอบความผิดตาม ปอ. มาตรา 326, มาตรา 328 จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา

                    หมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การวันที่ 24/2/63 09. 00 น.”

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม

nickkunatip