องค์กรลูกเสือแห่งอเมริกายื่นขอคุ้มครองภาวะล้มละลายตามบทบัญญัติ 11 ของกฎหมายล้มละลายแล้ว อ้างเพื่อปกป้องทรัพย์สินสำหรับใช้จ่ายชดเชยค่าเสียหายแก่เหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศที่ฟ้องร้อง

    เอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า องค์กรเก่าแก่อายุ 110 ปีแห่งนี้ถูกกล่าวหาว่าปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อนับหมื่นคนมาเนิ่นนาน และไม่ทุ่มเทมากพอเพื่อกำจัดพวกล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่ใช้องค์กรเยาวชนแห่งนี้เป็นแหล่งล่าเหยื่อที่เป็นผู้เยาว์ และช่วงหลายปีที่ผ่านมาองค์กรยังประสบปัญหาสมาชิกลดลง และผู้สนับสนุนด้านเงินทุนถอนตัวภายหลังการประกาศรับสมาชิกที่เป็นเกย์และผู้หญิง

    เมื่อวันอังคาร โรเจอร์ มอสบี ประธานบริหารองค์กรลูกเสือแห่งอเมริกา (บีเอสเอ) จากเมืองเออร์วิง รัฐเทกซัส แถลงว่า บีเอสเอมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหยื่อการล่วงละเมิดทุกคน และขอโทษด้วยใจจริงต่อทุกคนที่ได้รับความเสียหายระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ

    องค์กรซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2453 แห่งนี้เผชิญคำกล่าวหาหลายร้อยคดีนับแต่หลายมลรัฐ รวมถึงรัฐนิวยอร์ก ขจัดข้ออุปสรรคทางกฎหมายที่ห้ามผู้คนฟ้องร้องคำกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เกิดขึ้นในอดีต เอกสารขอล้มละลายที่ยื่นต่อศาลเดลาแวร์เมื่อวันอังคารกล่าวว่า บีเอสเอประเมินว่าคดีฟ้องร้องเหล่านี้จะนำไปสู่ความรับผิดทางกฎหมายหรือเงินชดเชยมากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์

    การยื่นขอคุ้มครองภาวะล้มละลายครั้งนี้จะทำให้องค์กรสามารถรวบรวมคดีฟ้องร้องทั้งหมดมาต่อสู้ในศาลเดียว และพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยคดี แทนการใช้เงินทุนขององค์กรในการต่อสู้คำฟ้องร้องแต่ละคดี ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายบางรายไม่ได้รับเงินชดเชย

    กลยุทธ์คล้ายกันนี้เคยถูกใช้ไกล่เกลี่ยคดีล่วงละเมิดทางเพศของโบสถ์คาทอลิกมากกว่า 20 แห่ง และองค์กรยิมนาสติกของสหรัฐอเมริกา

    รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า สภาลูกเสือแห่งชาติและสภาท้องถิ่นที่อยู่ในเครือรวมกันมีทรัพย์สินเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลของบีเอสเอกล่าวว่า พวกเขามีสมาชิกประมาณ 2.2 ล้านคน โดยมีอายุระหว่าง 5-21 ปี

    เจฟฟ์ แอนเดอร์สัน ทนายความของเหยื่อการล่วงละเมิด กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า มีสมาชิกมากกว่า 12,000 คนที่โดนล่วงละเมิดในองค์กรนี้นับแต่ปี 2487 และเอกสารของบีเอสเอมีรายชื่อผู้กระทำความผิดมากกว่า 7,800 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ.