เปิดตัว 'ฟีเจอร์แจ้งเหตุออนไลน์' ช่วยผู้ประสบความรุนแรงในครอบครัว-ถูกล่วงละเมิดทางเพศ


เพิ่มเพื่อน    

9 ธ.ค.63 - ที่ห้อง ICONLUXE LOUNGE ชั้น 1 ICONSIAM พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. (CCIB) ร่วมกับนายเกส ปีเตอร์ ราเดอ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย และภาคีเครือข่าย (สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ดีแทค และ ChangeFusion) เปิดตัว เพจ “มายซิสบอท MySis Bot โดยการพัฒนาระบบ AI Chatbot ผ่าน facebook เพื่อช่วยเหลือผู้หญิง เด็ก และเพศทางเลือกที่ประสบความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ให้สามารถพูดคุย สอบถามปัญหาและแจ้งเหตุออนไลน์ผ่านเพจมายซิสบอท ได้ตลอด 24 ชม. ภายในงาน MySisXOrangeTheWorld

โดย พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวประชาชน เพราะสามารถเกิดขึ้นจากที่ใดก็ได้ไร้พรหมแดน จึงเป็นความท้าทายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี เพื่อที่จะป้องกันและสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ในยุคที่เรียกว่าดิจิตอลดิสรัปชั่นคือเปลี่ยนผ่านจากสังคมยุคอะนาล๊อค ไปสู่ยุคดิจิตอลอย่างเฉียบพลัน

โครงการมายซิสเป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเปราะบาง ได้แก่ สตรีและเด็ก โดยใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร ให้แก่ผู้ที่ประสบเหตุความรุนแรงในครอบครัว ความผิดเกี่ยวกับเพศและภัยออนไลน์ที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน โดยใช้เอไอให้คำปรึกษาแทนเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงในเบื้องต้น และสอดรับกับการปรับตัว ในยุค new normal หรือยุควิถีใหม่ที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทาง ไปขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในโรงพัก แต่สามารถขอคำแนะนำจากแชทบอทได้ก่อน และเมื่อผู้ใช้ได้รับคำปรึกษาในเบื้องต้นแล้ว ถ้ามีรายละเอียดมากขึ้น และหากประสงค์จะขอรับคำปรึกษา นอกเหนือจากการโทร  สายด่วน ก็จะมีช่องทางขอรับความช่วยเหลือ เพื่อให้มีการประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำการช่วยเหลือต่อไป

มายซิสแชทบอท จึงเป็นเสมือนแพลตฟอร์ม ในการเชื่อมการทำงานระหว่างหน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรมเข้าด้วยกัน เช่น หน่วยงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อัยการ สหวิชาชีพที่มีหน้าที่ในการคุ้มครองเด็กและสตรี เพื่อให้การทำงานเป็นระบบ ไม่ซ้ำซ้อน ด้วยแนวคิดในการนำนวัตกรรมทางดิจิตอลมาใช้ จึงเป็นโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และเป็นโมเดลในการประสานการทำงาน ของทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนให้เกิดความยุติธรรม โดยหลักการทำงาน ที่ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง

การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้ความรู้ และคำแนะนำแก่ผู้หญิงและเด็ก ที่ประสบเหตุไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาทั้งหมด การที่จะให้เทคโนโลยี เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่ออำนวยความสะดวก ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงนั้น สิ่งสำคัญคือ การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน การสร้างภาคีเครือข่าย และทำงานร่วมกัน จะทำให้การพัฒนาระบบ การคุ้มครองผู้หญิงและเด็ก เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและยุติธรรมกับทุกฝ่าย ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ริเริ่มผลักดันให้เกิดโครงการนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"