‘เหยื่อโควิด19’กลับบ้านอีก1 อิตาลีปิดเมืองสกัดคน5หมื่น


เพิ่มเพื่อน    

  ข่าวดีเหยื่อโควิด-19  ในไทยหายอีก 1 ราย ขณะที่ผู้ป่วยสะสมยัง 35 รายเท่าเดิม ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่  ขณะที่ทางการหูเป่ย์เผยระยะฟักเชื้ออาจยาวนานถึง 27 วัน อิตาลีป่วนสั่งปิดโรงเรียน ร้านอาหาร และแหล่งชุมชน 10 เมือง มีคน 5 หมื่นคน เป็นเวลา  5 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19  รวดเดียว 16 คน 

         เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิชย์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  โดยนพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีข่าวดี วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 24 ปี รักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มไทยกลับบ้าน 138 คน ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านแล้ว 20 ราย เหลือนอนในโรงพยาบาล 15 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 35 รายเท่าเดิม ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่ใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด และรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย อาการคงที่ ยังอยู่ในห้องไอซียู ทีมแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
        นพ.ทวีศิลป์เผยว่า วันนี้ประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครบ 50 วัน ได้เริ่มคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2563 ในขณะนั้นยังไม่มีรายงานการระบาดจากคนสู่คน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคของไทย ซึ่งยังเข้มมาตรการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่เริ่มการคัดกรองทุกสนามบินที่มีเที่ยวบินตรงมาจากเมืองที่มีการระบาด ทำให้ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันนอกประเทศจีนรายแรกของโลก 
    โดยรัฐบาลได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการระดับประเทศ และคณะกรรมการอำนวยการโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบแผนบูรณาการความร่วมมือพหุภาคีเพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เตรียมความพร้อมรับมือหากเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการระบาดในวงกว้างในประเทศ แม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่ 2 ก็ตาม โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินงาน เข้มมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทาง ทั้งที่ท่าอากาศยาน ท่าเรือ ด่านพรมแดนทางบก รวมทั้งการเฝ้าระวังในประเทศ เน้นใน 8 จังหวัดท่องเที่ยว
งดแชร์ข้อมูลที่เป็นเท็จ
         ด้าน นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า ภาพรวมความเสี่ยงในประเทศขณะนี้ยังต่ำมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่ เพื่อให้ยืดระยะเวลาที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากออกไปให้นานที่สุด สิ่งสำคัญคือความร่วมมือและความเข้าใจของคนไทย จะต้องไม่ตื่นตระหนก ไม่เชื่อข่าวลวง งดแชร์ข้อมูลที่เป็นเท็จที่แชร์ต่อกันมา ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์ ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมนานหรือไม่ ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ โดยหากมีไข้ร่วมกับอาการไอ จาม มีน้ำมูก ต้องพักอยู่ที่บ้าน สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปพบแพทย์ ผู้ที่ไม่ป่วยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อยๆ หลังสัมผัสสิ่งของต่างๆ ไม่นำมือมาสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก สำหรับคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนทำงานใกล้ชิดนักท่องเที่ยว ให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเอง หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ไอ จาม มีน้ำมูก ให้รีบไปพบแพทย์
         สำหรับคำแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดอย่างต่อเนื่องตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ควรปฏิบัติตนดังนี้
        1.ก่อนการเดินทาง ขอให้หาข้อมูลสถานการณ์การระบาดของประเทศปลายทาง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค หรือองค์การอนามัยโลก หากไม่จำเป็นขอให้พิจารณาหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่องตามที่องค์การอนามัยโลกประกาศ แต่หากจำเป็นต้องไป ขอให้เตรียมความพร้อมเรื่องการป้องกันตนเอง เช่น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หน้ากากอนามัย และศึกษาคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ
        2.ระหว่างการเดินทาง ขอให้ระมัดระวังตนเองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนรวมกันอยู่จำนวนมากหรือที่สาธารณะ ขอให้หมั่นล้างมือ อย่าขยี้ตา แคะจมูก ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน หากเจ็บป่วยให้ประสานขอความช่วยเหลือกับสถานทูต
         3.เมื่อเดินทางกลับ ประเทศไทยไม่มีนโยบายการกักตัวผู้เดินทางที่สนามบิน แต่มีมาตรการการตรวจคัดกรองและการเฝ้าระวังต่อเนื่องจนครบ 14 วัน หากมีอาการป่วยระหว่างเข้าประเทศ จะถูกแยกตัวไว้เพื่อตรวจวินิจฉัยและส่งไปที่โรงพยาบาลที่กำหนด แต่หากไม่มีอาการป่วย จะได้รับบัตรคำเตือนสุขภาพพกติดตัวไว้ เมื่อกลับบ้านแล้วมีอาการสงสัยป่วย ขอให้สวมหน้ากากอนามัย วัดไข้ทุกวัน ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ขนส่งสาธารณะ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติการเดินทาง หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
       กรณีที่หลายหน่วยงานมีการออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานตนเดินทางไปประเทศที่พบการระบาดของโรคนั้น ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เป็นความห่วงใยแต่ละหน่วยงาน โดยกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าไม่ได้ห้ามเจ้าหน้าที่ในสังกัดเดินทางไปต่างประเทศ แต่ขอให้พิจารณาชะลอหรือเลื่อนการเดินทางในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงของบุคลากร
ป่วน!อิตาลีปิดเมือง
         ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สะอาดเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ผู้ป่วยและผู้ที่มีอาการ ไอ จาม ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สำหรับหน้ากากอนามัยประเภท N95 จะใช้ในเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาใกล้ชิดกับผู้ป่วย
    ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศ รัฐบาลมณฑลหูเป่ย์ของจีนเปิดเผยในเว็บไซต์ว่า ระยะฟักตัวของเชื้อโควิด-19 อาจนานถึง 27 วัน ซึ่งนานกว่าที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าอยู่ที่ 14 วัน ทางการหูเป่ย์เปิดเผยว่า ชายวัย 70 ปีรายหนึ่งในมณฑลหูเป่ย์ติดเชื้อโควิด-19 แต่เขาไม่ได้แสดงอาการป่วยใดๆ จนกระทั่งหลังเวลาผ่านไป 27 วัน
        ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวได้ติดต่อใกล้ชิดกับน้องสาวของเขาซึ่งติดเชื้อโควิด-19 แต่เขาไม่แสดงอาการป่วยใดๆ จนกระทั่งถึงวันที่ 20 ก.พ.ที่เขาเริ่มเป็นไข้ และได้รับการตรวจสอบในวันต่อมาพบว่า เขาติดเชื้อโควิด-19 ระยะเวลาฟักตัวของโรคที่นานขึ้นอาจทำให้ความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยากลำบากมากขึ้น
         คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า ณ วันศุกร์ที่ 21 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 109 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้นเป็น 2,345 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 397 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 76,288 ราย
        NHC ระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตรายใหม่จำนวน 109 ราย ณ วันศุกร์ที่ 21 ก.พ.นั้น มี 106 รายอยู่ในมณฑลหูเป่ย์, 1 รายอยู่ในมณฑลเหอเป่ย์, 1 รายอยู่ในเซี่ยงไฮ้ และ 1 รายอยู่ในเขตซินเจียง
    ทางการอิตาลีสั่งปิดโรงเรียน ร้านอาหาร และแหล่งชุมชน 10 เมือง เป็นเวลา 5 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จำนวน 16 คน ในจำนวนนี้เป็นแพทย์ 5 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชายชาวอิตาเลียนอายุ 78 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่แคว้นเวเนโต ทางเหนือของประเทศ
        โดยทางการได้สั่งให้ประชาชนราว 50,000 คน ในพื้นที่เสี่ยงให้อาศัยอยู่แต่ในบ้าน นอกจากนี้ยังยกเลิกกิจกรรมที่จะมีคนมาชุมนุมจำนวนมาก อาทิ ขบวนพาเหรด การแข่งกีฬา กิจกรรมทางศาสนา
         ด้านนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ผู้นำอิตาลี ยืนยันรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อสิ้นเดือนม.ค. และระบุว่ารัฐบาลยังคงใช้ความระมัดระวังสูงสุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"