โควิดไร้พรมแดน อนุทินช็อกผีน้อย


เพิ่มเพื่อน    

 สธ.แถลงไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยอดยังอยู่ที่ 43  ราย “ประยุทธ์” ออกข้อสั่งการรวดเดียว สั่งผุดศูนย์โควิดในทำเนียบฯ ให้ “สมคิด-อุตตม” หาช่องเยียวยา ส่วนเรื่องผีน้อยต้องหารือใหญ่ 4 มี.ค. “อนุทิน” รับช็อกไม่เคยรู้ ลั่นถ้าไม่ใช่คนไทยไม่ให้เข้าประเทศแล้ว ปลัดแรงงานเปิดตัวเลขคนงานไทยในเกาหลีใต้ทยอยกลับไทยมาตั้งแต่ปลายปีแล้ว ตัวเลขติดเชื้อทั่วโลกยังพุ่ง โดยเฉพาะนอกจีน “เกาหลีใต้” ทะลุ 5 พัน “อิหร่าน” ยอดดับพุ่งอยู่ที่ 66 ราย WHO ยังมองแง่ดีมีมากกว่า 130 ประเทศไม่ติดเชื้อ

เมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 43 ราย อาการหนัก 1 ราย ทำให้ไทยอยู่อันดับที่ 15 ของโลก ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-2 มี.ค. มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 3,519 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 95 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 3,394 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,099 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,420 ราย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าได้สั่งการและมีมาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) พร้อมกันนี้ยังมีประกาศของ สธ.ในมาตรการควบคุมโรคเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการในการปฏิบัติตัวของผู้ที่ต้องสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน เพราะหลายคนได้ไปร่วมในกิจกรรมต่างๆ ประจำวัน โอกาสมีความเสี่ยงพอสมควร ตรงนี้ต้องแก้ปัญหาให้ได้
“การชุมนุมกัน เอ๊ยไม่ใช่การชุมนุม การไปร่วมกิจกรรมคนเยอะๆ อะไรเลื่อนได้ก็เลื่อนเถอะ ขอความร่วมมือด้วยหากมีการจัดอยู่ สถานที่จัดงานต้องมีมาตรการของตัวเองในการดูแลสถานที่ดังกล่าว เว้นแต่สิ่งที่เราห้ามตอนนี้ ซึ่งประกาศที่ออกมาจะเห็นว่าใครบ้าง อะไรอย่างไร ปัญหาคือเรามีคนหลายกลุ่ม หลายฝ่าย หลายกิจกรรม ฉะนั้นต้องดูว่าจะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร แต่สิ่งสำคัญสุดคือสุขภาพประชาชนคนไทยเป็นหลักนะจ๊ะ” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของผู้ใช้แรงงานไทยที่ขอกลับจากเกาหลีใต้ (ผีน้อย) ว่า ผู้ที่จะกลับมาจากเกาหลีใต้นั้น ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะประชุมในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร และจะมีมาตรการอย่างไร หากต้องกักตัวทั้งหมด ปัญหาใหญ่คือจะควบคุมคนจำนวนมากได้อย่างไร เพราะไม่ใช่แค่ร้อยกว่าคน แต่มีจำนวนหลายพัน อาจถึงหมื่นคน ฉะนั้นต้องดูว่าจากต้นทางจะปล่อยออกมาเท่าไร ซึ่งเขามีมาตรการควบคุมอยู่แล้วส่วนหนึ่งด้วยการกักตัว 14 วัน เมื่อมาถึงเราก็ต้องกักตัวไว้อีก 14 วัน หรือจะเฉพาะบางส่วนที่ตรวจพบ ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม 
ตั้งศูนย์โควิดในทำเนียบฯ
“รู้ว่าประชาชนยังไม่ค่อยมั่นใจ และกลัว สังคมต้องเข้าใจด้วยว่าจะติดต่อกันได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นจะแก้ไม่ได้ แม้แต่วันหน้าก็แก้ไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เราจะหวังผลได้ 100% มากนัก เพราะโรคนี้ถือเป็นภัยอุบัติใหม่ โรคไวรัสใหม่ที่เกิดขึ้นมา วันนี้ความพร้อมของสาธารณสุข ไม่ว่าจะหมอ แพทย์ พยาบาล หรือยาที่ผลิตเอง ตอนนี้มีพร้อมแล้ว และยาที่ว่าต้องมีการทดลองใช้ต่อไปเหมือนกับประเทศจีนที่ผลิตยามา เราก็ได้สั่งซื้อมาเช่นกัน เป็นลักษณะใกล้เคียงของเราที่ผลิตอยู่ในขณะนี้” นายกฯ กล่าว
    ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวทีมงานนายกฯ ได้แจกเอกสาร 3 ฉบับ มีทั้งข้อสั่งการของนายกฯ ในเรื่องไวรัสโควิด-19 ระบุว่า มาตรการระยะเร่งด่วน ทั้งในเรื่องการป้องกันและบรรเทาผลกระทบ โดยในเรื่องการป้องกันก็มีการลงรายละเอียดของหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบ มีทั้งสิ้น 14 ข้อ อาทิ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ดำเนินการตามมาตรการของ สธ.อย่างเคร่งครัด, ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปศึกษา ดูงาน อบรมหลักสูตร หรือประชุม ในประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, ให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่เดินทางกลับมาจากหรือเดินทางผ่าน หรือมีเส้นทางแวะผ่านประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องสังเกตอาการ ปฏิบัติงานภายในที่พัก 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา
จัดให้มีศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขึ้น ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกส่วนราชการ, ให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันพิจารณาปริมาณความต้องการของสินค้าที่จำเป็นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, ให้ พณ.ดำเนินการป้องกันการกักตุน และควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่งผู้โดยสารและท่ารถ อย่างเคร่งครัด และให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ติดตามและดูแลคนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นต้น
ส่วนด้านการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้อง ได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง จัดทำมาตรการบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาโดยเร็ว ก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป รวมทั้งให้ข้อมูลและสื่อสารกับสาธารณชน เพื่อให้เกิดเอกภาพและสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชน ผ่านศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่จะจัดตั้งขึ้น ณ ทำเนียบรัฐบาล 
     นอกจากนี้ยังมีเอกสารประกาศ สธ. เรื่องมาตรการในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อใช้ดำเนินการกับผู้เดินทาง ซึ่งมาจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย ขณะเดียวกันยังมีเอกสารเรื่องคำแนะนำสำหรับการแยกเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย กรณีเดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข 
    พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ปฏิเสธตอบคำถามในเรื่องการเมือง โดยกล่าวย้ำว่า จะไม่มีการตอบคำถามเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการที่จะรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ผิดกฎหมายต้องการเดินทางกลับไทย ว่า กต.ระบุแล้วว่าให้กับมากักตัวอยู่ที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากเกาหลีใต้ไม่ได้ถูกปิดเมืองอย่างเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จึงให้มารักษาตัวและเฝ้าสังเกตอาการอยู่ภายในบ้านของตัวเอง อีกทั้งเราไม่มีกฎหมายที่จะเข้าไปควบคุม ซึ่งต้องแจ้งเขา เพราะเราไม่มีกฎหมายไปห้าม
สธ.รับช็อกเรื่องผีน้อย
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวในเรื่องนี้ว่า กำลังหามาตรการ เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ยอมรับว่าส่วนตัวเพิ่งรู้จักคำว่าผีน้อย รู้สึกช็อกเหมือนกันว่าทำไมมีเรื่องแบบนี้ด้วย เพราะแผนการเราไม่ได้เตรียมไว้เจอสถานการณ์แรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่ลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย แต่ก็ต้องดูแลทุกคนให้เต็มที่ โดยในช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค.ถึงวันที่ 4 มี.ค. กรมควบคุมโรคกำลังหามาตรการรองรับผีน้อยเหล่านี้อย่างไร ต้องทำให้ได้ ต้องควบคุมให้ได้ จะใช้ระบบบังคับกักตัว หรือให้ไปกักตัวภายใต้การควบคุมดูแลที่ใกล้ชิด ถือเป็นโจทย์ใหม่ที่ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ต้องทำ
      เมื่อถามว่า จะใช้มาตรการเดียวกับที่กักตัวคนที่เดินทางมาจากญี่ปุ่นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเข้มข้นกว่า อย่างที่อู่ฮั่นเรานำเครื่องบินไปรับ ทุกอย่างอยู่ภายใต้ระบบปิด แต่ครั้งนี้ระบบเปิดที่มากี่คนไม่รู้ ขอเวลานิดหนึ่ง แต่ต้องทำให้ได้ ไม่มีอะไรทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน อย่างไรต้องใช้วิธีการที่เข้มข้นที่สุด
    “ถ้าผีน้อยไม่ใช่คนไทย ป่านนี้ประกาศไม่ให้มาแล้ว เพราะเป็นคนไทยเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนเขา นี่จึงเป็นโจทย์ที่จะต้องทำการบ้านกัน” นายอนุทินกล่าว
รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า สำหรับศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลตั้งขึ้น จะแยกต่างหากจากศูนย์ของ สธ. โดย สธ.จะมาเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ของรัฐบาล ทั้งนี้ ในส่วนของศูนย์ของกระทรวงจะยังคงดูแลในเรื่องทางการแพทย์ การรักษาพยาบาล การบริการ และยังแถลงทุกวัน
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ยอมรับว่าคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้นั้น ส่วนที่เข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายมีประมาณ 30,000 คน แต่ส่วนที่เข้าเมืองผิดถูกกฎหมายยังไม่มีการรายงานตัวใดๆ จึงทำให้เราไม่มีทางข้อมูล และเมื่อคนไทยส่วนนี้ต้องการกลับมา ทำให้เราต้องหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดว่าจะมีใครบ้างที่ต้องการขอกลับ และจะเดินทางกลับเมื่อใด ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลเพื่อใช้ในการป้องกันไม่ให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาด 
“ได้สั่งให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เร่งรวบรวมรายชื่อคนส่วนนี้ส่งมาให้ทางกระทรวง อีกทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความใส่ใจ และกำลังร่วมมือกันดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยต้องไม่ให้เกิดผลสะท้อนที่เป็นลบ”
นพ.โอภาสกล่าวว่า แผนการรับมือแรงงานที่กลับมาจากเกาหลีใต้ เบื้องต้นต้องดู 1.ต้องดูตัวเลขที่แน่ชัดว่ามากี่ราย 2.จำแนกหากพบว่าเป็นไข้ ก็จะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังสอบสวนโรคต้องไปอยู่ รพ.ในห้องความดันเป็นลบ ซึ่งกระทรวงได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลไว้แล้ว 3.หากไม่มีไข้ก็จะกักตัวเองอยู่ที่บ้าน 14 วัน โดยมีกรมควบคุมโรคโทร.ติดตามทุกวัน แต่จะดูข้อมูลว่ามาจากเมืองไหน ต้องสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล
แรงงานเฉลยตัวเลข!
นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ยังมีความเข้าใจผิดเรื่องตัวเลขของแรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมายหรือผีน้อย ที่จ่อขอกลับไทย 5,000 คน เพราะเป็นตัวเลขสะสมตั้งแต่ที่เกาหลีใต้ได้ประกาศให้แรงงานผิดกฎหมายไปรายงานตัวแล้วจะไม่ได้รับโทษ หรือเป็นการนิรโทษกรรม ตั้งแต่ ธ.ค.2562 เป็นต้นมา ซึ่งบางส่วนเดินทางกลับไทยแล้ว แบ่งเป็น ช่วงวันที่ 11-15 ธ.ค.2562 จำนวน 247 ราย, วันที่ 16-22 ธ.ค. 2562 จำนวน 426 ราย, วันที่ 23-29 ธ.ค.จำนวน 495 ราย, วันที่ 30 ธ.ค.2562-5 ม.ค.2563 จำนวน 281 ราย, วันที่ 6-12 ม.ค. 2563 จำนวน 423 ราย, วันที่ 13-19 ม.ค.2563 จำนวน 491 ราย, วันที่ 20-26 ม.ค.2563 จำนวน 312 ราย, วันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ. 2563 จำนวน 300 ราย, วันที่ 3-9 ก.พ.2563 จำนวน 367 ราย, วันที่ 10-16 ก.พ. จำนวน 359 ราย, วันที่ 17-23 ก.พ. จำนวน 366 ราย และวันที่ 24 ก.พ.-1 มี.ค. จำนวน 660 ราย รวมเดินทางเข้าไทยสะสม 4,727 ราย ทั้งนี้ ยังมีผู้รายงานตัวระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. จำนวน 1,181 ราย ที่อยู่ระหว่างรอตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาประวัติ
"ไม่อยากให้เจาะจงว่าใครเป็นผีน้อย เป็นแรงงานผิดกฎหมาย เพราะไม่ว่าจะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย แรงงานที่ถูกกฎหมาย หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่มาจากเกาหลีใต้ ต้องเข้าสู่ระบบและมาตรฐานการควบคุมป้องกันโรคของ สธ.อย่างเข้มข้นอยู่แล้ว โดยทุกคนจะได้รับการตรวจคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคที่สนามบิน และขอให้เฝ้าระวังตนเองอย่างน้อย 14 วัน หากมีอาการไข้ ไอจาม น้ำมูก เจ็บคอ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว" นายสุทธิกล่าว
    ก่อนหน้านี้ นายอนุทินได้โพสต์รูปภาพและข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจอนุทิน ชาญวีรกูล ถึงการลงนามในประกาศ สธ.เรื่องท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งกำหนดให้ 9 ประเทศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า) ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน โดยนายอนุทินได้โพสต์อีกว่า ทุกคนที่เดินทางมาจาก 9 ประเทศ ซึ่งเป็นเขตติดโรคต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ล่าสุดนายอนุทินได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป และปิดเพจดังกล่าวไปแล้ว
    นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีผีน้อยว่า ดูเหมือนรัฐบาลกำลังจนปัญญาในการแก้ปัญหา จึงจะเสนอต่อที่ประชุมพรรคเพื่อเสนอไปยังรัฐบาลให้ออกเป็นพระราชกำหนดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งอาศัยเพียงที่ประชุม ครม.ก็ทำได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน  และหากรัฐบาลตัดสินใจออก พ.ร.ก.จริง เมื่อนำ พ.ร.ก.เข้าสภาในภายหลัง ฝ่ายค้านไม่ขัดข้องและยินดีร่วมมือ
    สำหรับสถานการณ์ข้อมูลสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกนั้น พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วใน 76 ประเทศและดินแดนทั่วโลก รวม 92,153 ราย เสียชีวิต 3,127 ราย แม้ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดอยู่ในจีน แต่สถานการณ์ในจีนกำลังมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายนอกจีนมีมากกว่าจีนเกือบ 9 เท่า ขณะเดียวกันจีนกลับพบผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 ราย ในจำนวนนี้ 8 รายเคยทำงานร้านอาหารในแคว้นลอมบาร์ดีของอิตาลี
    คำแถลงของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนเมื่อวันอังคารเผยว่า จีนแผ่นดินใหญ่ไม่นับรวมฮ่องกงและมาเก๊า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 80,151 ราย เสียชีวิต 2,943 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 125 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 31 ราย ภายนอกจีนมีผู้ติดเชื้อ 12,002 ราย เสียชีวิต 184 ราย
กิมจิยอดติดเชื้อเกิน 5 พัน
    เกาหลีใต้ยังคงเป็นประเทศที่สถานการณ์หนักที่สุดขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 500 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเป็น 5,186 คน เสียชีวิต 28 คน ประธานาธิบดีมุน แจอิน กล่าวว่า เกาหลีใต้ทั้งประเทศกำลังทำสงครามกับโควิด-19 และสั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลทุกแห่งเร่งทำงานแข่งกับเวลา รัฐบาลของเขาเตรียมจะอัดฉีดเงินมากกว่า 30 ล้านล้านวอน หรือราว 794,674 ล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขสถานการณ์ร้ายแรงที่เป็นผลพวงจากโรคระบาด
    อิหร่านเป็นประเทศที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดรองจากจีนอยู่ที่ 77 ราย จากผู้ติดเชื้อ 2,336 ราย ส่วนอิตาลีมีผู้ติดเชื้อแล้ว 2,036 คนนับถึงวันจันทร์ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 52 คน ขณะที่ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ราย รวมเป็น 276 ราย โดยไม่รวมผู้ติดเชื้อ 706 รายบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซสที่ทอดสมอนอกชายฝั่งญี่ปุ่น และมีผู้เสียชีวิตรวม 12 ราย 
    หลายประเทศรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายแรก อาทิ อันดอร์รา, ลัตเวีย, ซาอุดีอาระเบีย, เซเนกัล, ตูนิเซีย, จอร์แดน, โปรตุเกส และยูเครน ส่วนเซเนกัลพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันจันทร์และเป็นชาติที่ 2 ของภูมิภาคซับสะฮาราแห่งทวีปแอฟริกาที่มีคนติดเชื้อต่อจากไนจีเรีย 
    ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือฮู กล่าวที่นครเจนีวาเมื่อวันจันทร์ว่า หน้าต่างแห่งโอกาสในการควบคุมการแพร่ระบาดยังมีอยู่ และยังมีอีกมากกว่า 130 ประเทศที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้ในเกาหลีใต้, อิตาลี, อิหร่าน และญี่ปุ่น น่าห่วงกังวลมากที่สุด แต่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการเฝ้าตรวจอย่างใกล้ชิดในเกาหลีใต้กำลังได้ผล และน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้
    "เราเข้าสู่เขตแดนที่ไร้พรมแดนแล้ว" เขาเตือน และว่า เราเผชิญกับโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ไม่เคยพบมาก่อน โรคที่สามารถแพร่เชื้อในชุมชน แต่ก็ยังสามารถควบคุมได้ด้วยมาตรการที่ถูกต้อง 
    เมื่อวันจันทร์ สหรัฐยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มเป็น 6 รายแล้ว ทั้งหมดอยู่ในมลรัฐวอชิงตัน ส่วนผู้ติดเชื้อ 102 ราย รวมถึงผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ระดับสูงเตือนด้วยว่า การตรวจเพิ่มเติมมีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นอีก ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์อิล เมสซาเจโร ของอิตาลีรายงานเมื่อวันอังคารว่า ผลตรวจพระวรกายสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนา ยืนยันว่าพระองค์ไม่ติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กังวลกัน แต่รายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นการตรวจเมื่อใด และโฆษกสำนักวาติกันก็ยังไม่ให้ทัศนะตอบโต้รายงานข่าวดังกล่าว
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสตรัสระหว่างการประทานพรแด่ศาสนิกชน ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน ว่าพระองค์ประชวรเป็นไข้หวัด ซึ่งทำให้พระองค์ต้องงดการปลีกวิเวกประจำปีเป็นครั้งแรก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"