ทันกัน รัฐบาลอิหร่านตอบโต้ที่รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษอเมริกันทั้งหมดในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ด้วยการเรียกร้องกลับให้สหรัฐปล่อยนักโทษอิหร่านในสหรัฐเช่นกัน

หญิงชาวอิหร่านสวมหน้ากากอนามัยเดินในกรุงเตหะราน

    ทั้งสหรัฐและอิหร่านกำลังเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยสถานการณ์ในอิหร่านนั้นเลวร้ายเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอิตาลี โดยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 11 มีนาคม อิหร่านมีคนสังเวยชีวิตแล้ว 354 ราย จากผู้ติดเชื้อ 9,000 ราย ก่อนหน้านี้รัฐบาลอิหร่านตัดสินใจปล่อยตัวนักโทษชั่วคราว 70,000 คน เพื่อจำกัดการแพร่เชื้อ ส่วนสหรัฐก็มีคนเสียชีวิตแล้ว 29 ราย และติดเชื้อมากกว่า 700 ราย

    เมื่อวันอังคาร รัฐบาลสหรัฐและองค์การสหประชาชาติเรียกร้องต่ออิหร่านให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งรวมถึงนักโทษที่ 2 สัญชาติและนักโทษต่างชาติหลายสิบคน ส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า สหรัฐจะถือว่ารัฐบาลอิหร่านต้องรับผิดชอบโดยตรงหากคนอเมริกันเสียชีวิตที่นั่น และสหรัฐจะตอบโต้ขั้นเด็ดขาด

    ปอมเปโอกล่าวว่า สหรัฐไม่สบายใจอย่างยิ่งกับรายงานที่ว่าไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดในคุกของอิหร่าน และว่าประเทศใดก็ตามที่เสนอความช่วยเหลือแก่อิหร่านก็ควรเรียกร้องให้อิหร่านตอบแทนด้านมนุษยธรรมด้วยการปล่อยตัวนักโทษ

    ต่อมาในวันพุธ กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านแถลงตอบโต้ว่า อิหร่านก็มีความห่วงกังวลสวัสดิภาพของชาวอิหร่านหลายสิบคนในคุกสหรัฐเช่นกัน ส่วนใหญ่ถูกคุมขังฐานละเมิดข้อมติคว่ำบาตร

    "สภาพของคุกในอเมริกาและสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่นั่นน่าห่วงกังวล เราพร้อมจะพาคนอิหร่านที่ถูกคุมขังในอเมริกากลับอิหร่าน" อับบาส มูซาวี โฆษกอิหร่านกล่าวระหว่างการแถลงข่าวทางออนไลน์ พร้อมกับย้อนด้วยว่า รัฐบาลอเมริกาฉวยโอกาสกล่าวหาอิหร่าน หรือจีน หรือประเทศอื่นๆ ว่าไร้ประสิทธิภาพเมื่อไวรัสแพร่ระบาด แต่ปัญหานี้ก็ส่งผลย้อนกลับไปยังอเมริกาเช่นกัน เหมือนที่อิหร่านเคยกล่าวไว้

    เขาบอกด้วยว่า สหรัฐอ้างอย่างถือดีว่าอาหารและเวชภัณฑ์ได้รับการยกเว้นจากการคว่ำบาตร แต่กลับปิดกั้นการทำธุรกรรม สหรัฐควรยกเลิกข้อจำกัดนี้หากสหรัฐเห็นใจชาวอิหร่านอย่างแท้จริง.