ไวรัสลามกินพื้นที่1ใน3ของโลก


เพิ่มเพื่อน    

  โควิด-19 ระบาดถึง 1 ใน 3 ของโลกแล้ว คร่าชีวิตทะลุ 5,000 คน จีนใกล้ยุติ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ถึง 10 คน ขณะซีกโลกตะวันตกสถานการณ์วิกฤติ สหรัฐผวาอาจติดเชื้อถึง 150 ล้านคน หลายชาติยุโรปออกมาตรการจำกัดเดินทาง-ประกาศภาวะเฝ้าระวัง 

    ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดเพิ่มเป็น 123 ประเทศและดินแดนแล้วตามข้อมูลในเว็บไซต์ขององค์การสหประชาชาติ (ดับเบิลยูเอชโอ) เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563 ส่วนการรวบรวมจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกของสำนักเอเอฟพีและรอยเตอร์เผยว่า ยอดรวมเพิ่มเป็นมากกว่า 135,000 ราย เสียชีวิตเกิน 5,000 รายแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในซีกโลกตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ 
    สถานการณ์ในจีนซึ่งเป็นต้นตอที่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม มีวี่แววว่าใกล้ยุติลงแล้ว คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนรายงานเมื่อวันศุกร์ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 8 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายเป็นผู้ที่มาจากต่างแดน อีกรายอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ยอดรวมผู้ติดเชื้อในจีน 80,813 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย รวมเป็น 3,176 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ซึ่งพบการแพร่ระบาดรุนแรงไม่กี่สัปดาห์ก่อนก็สถานการณ์กระเตื้องขึ้นอย่างมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 110 รายเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้ยอดรวมเพิ่ม 7,979 ราย แต่ผู้ที่หายแล้วมี 177 ราย มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เกาหลีใต้มีคนเสียชีวิตเพิ่ม 1 รายด้วยเมื่อวันพฤหัสบดี ยอดรวมเพิ่มเป็น 67 ศพ
    ประเทศอื่นๆ สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ข้อมูลจากอิตาลีนับถึงเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,016 รายแล้ว จากผู้ติดเชื้อ 15,113 ราย ส่วนอิหร่านเสียชีวิตเพิ่มเป็น 514 ราย ติดเชื้อ 11,364 ราย นอกจากนี้มีประเทศใหม่ๆ ที่ยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรก ได้แก่ กานา, กาบอง, เอธิโอเปีย, เคนยา และคาซัคสถาน ส่วนอินเดียซึ่งเพิ่งระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยวตั้งแต่วันศุกร์ รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศ เช่นเดียวกับนอร์เวย์และยูเครน
    ในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ถึงวันพฤหัสบดี จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มเป็นมากกว่า 1,600 คนแล้ว เสียชีวิต 41 คน แต่มีความวิตกว่ามีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ยังไม่ผ่านการตรวจหรือไม่มีการรายงาน
    เมื่อวันพฤหัสบดี ราชิดา ทลาอิบ ส.ส.หญิงพรรคเดโมแครต อ้างคำกล่าวของนายแพทย์ไบรอัน โมนาแฮน ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่ให้การต่อวุฒิสภาในสัปดาห์นี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีชาวอเมริกันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 70-150 ล้านคน หรือมากสุดคือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากร 327 ล้านคนของสหรัฐ 
    ต่อมาในวันศุกร์ เอเอฟพีรายงานคำกล่าวของเอมี แอคตัน อธิบดีกรมสาธารณสุขรัฐโอไฮโอ ที่แถลงข่าวร่วมกับผู้ว่าการรัฐ ไมค์ เดอไวน์ ว่ารัฐโอไฮโออาจมีผู้ที่กำลังมีเชื้อไวรัสนี้อย่างน้อย 1% ของประชากร 11.7 ล้านคนในรัฐนี้ หรือเท่ากับมีมากกว่า 100,000 คนที่ติดเชื้อ ข้อมูลที่ยืนยันแล้วโอไฮโอมีผู้ติดเชื้อ 5 ราย และกำลังสอบสวนโรค 52 ราย แต่ก็เหมือนกับรัฐอื่นๆ ของสหรัฐที่การตรวจหาเชื้อยังอยู่ในวงจำกัด
    ขณะนี้มีอย่างน้อย 6 มลรัฐในสหรัฐมีคำสั่งให้ปิดโรงเรียนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อควบคุมการระบาด ได้แก่ โอไฮโอ, มิชิแกน, ออริกอน, แมริแลนด์, เคนทัคกี และนิวเม็กซิโก
    ด้านรัฐบาลอังกฤษก็เปิดเผยการคาดการณ์เช่นกันว่า มีความเป็นไปได้มากที่ประชากรในสหราชอาณาจักรจะติดไวรัสนี้ 5,000-10,000 คน จากยอดปัจจุบันที่ยืนยันแล้ว 590 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของอังกฤษนั้นรวมถึงนักฟุตบอลของสโมสรเชลซีและผู้จัดการสโมสรอาร์เซนอล ขณะที่หลายสโมสรประกาศกักกันโรคผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อ และทำให้พรีเมียร์ลีคตัดสินใจพักการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษออกไปถึงวันที่ 4 เมษายน 
    สเปน ซึ่งเป็นประเทศยุโรปที่สถานการณ์รุนแรงรองจากอิตาลี เมื่อวันศุกร์รัฐบาลรายงานว่าผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,209 ราย เสียชีวิต 120 ราย ก่อนหน้านี้ สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของสเปนแถลงว่า เมืองในแคว้นกาตาลุญญาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน 4 เมือง ได้แก่ อีกวาลาดา, โอเดนา, ซันตามาร์การิดา เด มงต์บุย และวีลลาโนวา เดล กามี ถูกปิดเพื่อกักกันโรคโดยจะไม่อนุญาตให้ประชากรราว 66,000 รายออกจากพื้นที่นี้ ส่วนที่กรุงมาดริด รอยเตอร์รายงานอ้างสื่อสเปนว่า ร้านอาหาร, บาร์, ร้านค้าในภูมิภาคมาดริดจะปิดบริการตั้งแต่วันเสาร์ ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยา
    มีรายงานของสื่อโทรทัศน์สเปนด้วยว่า รัฐบาลเตรียมประกาศ "ภาวะเฝ้าระวัง" ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินระดับแรกจาก 3 ระดับ เป็นเวลา 15 วันเริ่มแต่วันศุกร์ เพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้มาตรการกว้างๆ ในการควบคุมโรคได้ เช่นจำกัดบริเวณประชาชนหรือสั่งให้อพยพ
    "ภาวะเฝ้าระวัง" นี้ถูกประกาศใช้ก่อนแล้วในโปรตุเกสเมื่อวันศุกร์ เพื่อให้รัฐบาลสามารถระดมการสนับสนุนจากตำรวจ, ทหาร และป้องกันภัยพลเรือนได้ นายกฯ อันโตนีโอ คอสตา กล่าวไว้ด้วยว่า โรงเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็ก และมหาวิทยาลัยทุกแห่งจะถูกปิดตั้งแต่วันจันทร์นี้ 
    รัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งประกาศปิดโรงเรียนอย่างน้อย 2 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี ก็ออกมาตรการใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้นโดยห้ามประชาชนอยู่ในสถานที่เดียวกันมากกว่า 100 คน จากเดิมที่กำหนดห้ามเกิน 1,000 คน รัฐบาลยังขอให้ผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีงดออกนอกบ้านด้วย การแข่งขันฟุตบอลลีก 1 และ 2 ของฝรั่งเศสก็ถูกประกาศระงับแล้วเช่นกันอย่างไม่มีกำหนด ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 2,876 รายนับข้อมูลถึงคืนวันพฤหัสบดี เสียชีวิต 61 ราย
    ชาติยุโรปอื่นที่ใช้มาตรการควบคุมโรคเพิ่มเติม อาทิ ตุรกีสั่งปิดโรงเรียน 1 สัปดาห์, ปิดมหาวิทยาลัย 3 สัปดาห์เริ่มแต่วันจันทร์นี้ การแข่งขันกีฬาจะต้องไม่มีผู้ชมจนถึงกลางเดือนเมษายน บัลแกเรียเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน ยูเครนซึ่งมีผู้เสียชีวิตรายแรกเมื่อวันศุกร์ จะปิดพรมแดนห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ส่วนสาธารณรัฐเช็กห้ามชาวต่างชาติทั้งหมดเข้าประเทศ และห้ามชาวเช็กออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 
    ในฝั่งเอเชีย ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ประกาศปิดกรุงมะนิลาแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี ห้ามประชากรราว 12 ล้านคนออกนอกพื้นที่ และยังสั่งปิดโรงเรียนนาน 1 เดือน ห้ามการชุมนุมของคนจำนวนห้าม และห้ามชาวต่างชาติเข้าพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ส่วนสิงคโปร์ประกาศห้ามนักเดินทางที่เคยไปอิตาลี, ฝรั่งเศส, สเปน หรือเยอรมนีในช่วง 14 วัน เดินทางเข้าหรือเปลี่ยนเครื่องในประเทศ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"