'ทรัมป์'ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติรับมือโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

วิกฤติเกินต้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดทางอนุมัติงบช่วยเหลือรับมือการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ระบุ 8 สัปดาห์นับจากนี้ชี้เป็นชี้ตาย อีกด้านเจ้าตัวยังยอมเปลี่ยนใจยอมรับการตรวจเชื้อ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ขณะแถลงข่าวที่โรสการ์เดนของทำเนียบขาวพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563

    คำประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563 จะทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐสามารถนำงบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์จากกองทุนบรรเทาภัยพิบัติ ไปจัดสรรแก่รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อใช้รับมือกับโรคระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยทรัมป์ยอมรับว่า สถานการณ์ในสหรัฐอาจเลวร้ายลง และช่วง 8 สัปดาห์นับจากนี้เป็นช่วงวิกฤติ

    การตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์โดนผู้เชี่ยวชาญหลายรายตำหนิว่า รัฐบาลของเขาไร้ประสิทธิภาพในการรับมือและดูเบาสถานการณ์ สองวันก่อนหน้านี้เขาเพิ่งออกคำสั่งห้ามนักเดินทางจากกลุ่มประเทศเชงเกนในทวีปยุโรปเดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 30 วัน คำสั่งนี้ยกเว้นอังกฤษ แต่ล่าสุดทรัมป์กล่าวว่าเขาอาจเปลี่ยนใจเนื่องจากการติดเชื้อในอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ผู้นำสหรัฐวัย 73 ปีเปิดเผยด้วยว่า เขาจะยอมรับการตรวจเชื้อไวรัสในเร็วๆ นี้ แม้ต่อมาแพทย์ประจำทำเนียบขาวจะกล่าวว่า ทรัมป์ไม่มีอาการและไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ

    ทรัมป์ยืนกรานมาตลอด แม้กระทั่งไม่นานก่อนแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าเขาจะไม่ตรวจหาเชื้อและไม่แยกกักกันโรค ถึงแม้จะมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดเขาและสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายสมัครใจกักกันตนเองป้องกันล่วงหน้า เนื่องจากมีความเสี่ยงติดเชื้อจากคนใกล้ตัว สัปดาห์ที่ผ่านมายังปรากฏข่าวว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบราซิลที่มาเยือนฟลอริดาพร้อมกับคณะของประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ติดเชื้อไวรัสนี้ เจ้าหน้าที่ผู้นี้ถ่ายภาพคู่กับทรัมป์ด้วย และเมื่อวันศุกร์ รักษาการเอกอัครราชทูตบราซิลเป็นเจ้าหน้าที่คนที่ 2 ที่ติดเชื้อ เขาอยู่ในกลุ่มที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กับทรัมป์ที่รีสอร์ตมาร์อะลาโกวันเสาร์ที่แล้ว

    ข้อมูลถึงเช้าวันเสาร์ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมากกว่า 2,000 ราย เสียชีวิต 47 ราย รัฐบาลท้องถิ่นหลายมลรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วก่อนหน้านี้ หลายรัฐสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กมีคำสั่งห้ามประชาชนร่วมกิจกรรมที่มีคนมากกว่า 500 คน สถาบันและหน่วยงานด้านศิลปะวัฒนธรรมปิดบริการ ที่แคลิฟอร์เนีย รัฐบาลห้ามการรวมตัวของคนเกิน 250 คนจนถึงสิ้นเดือนนี้ ส่วนกิจกรรมเล็กๆ ผู้จัดต้องรับประกันว่าผู้ร่วมงานจะอยู่ห่างกัน 2 เมตร

    กระทรวงกลาโหมประกาศห้ามเจ้าหน้าที่ทหารและพลเมืองในสังกัดเดินทางภายในประเทศตั้งแต่วันจันทร์นี้ คำสั่งห้ามนักเดินทางจากยุโรปเกือบทั้งหมดเข้าสหรัฐที่เริ่มมีผลหลังเที่ยงคืนวันศุกร์ส่งผลให้สนามบินหลายแห่งเกือบร้าง การหยั่งเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าของพรรคเดโมแครตที่รัฐลุยเซียนาเดือนหน้าก็ถูกเลื่อนแล้ว

    กีฬาอเมริกันหลายชนิดเลื่อนการแข่งขัน ล่าสุดกีฬาเบสบอลเลื่อนเปิดฤดูกาลใหม่ ต่อจากบาสเกตบอลเอ็นบีเอที่ระงับการแข่งที่เหลือของฤดูกาลนี้อย่างไม่มีกำหนด การแข่งกอล์ฟพีจีเอทัวร์, ฟุตบอลเมเจอร์ลี และฮอกกีลีกพากันเลื่อนหมด การเลื่อน, ระงับและยกเลิกการแข่งขันกีฬาหลายชนิดพร้อมกันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐ ที่ใกล้เคียงที่สุดก่อนหน้านี้คือภายหลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2544


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"