ศาลญี่ปุ่นตัดสินประหารหนุ่มจิตเพี้ยน แทงคนพิการดับ19ศพ


เพิ่มเพื่อน    

ศาลญี่ปุ่นพิพากษาประหารชีวิตหนุ่มวัย 30 ปี ที่ก่อเหตุสยองแทงคนไข้ในบ้านพักผู้มีอาการป่วยทางจิตเสียชีวิต 19 คน เมื่อปี 2559 ในเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของญี่ปุ่นยุคหลังสงคราม

แฟ้มภาพ ซาโตชิ อุเอมัตสึ นั่งในรถตำรวจภายหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559

    รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม กล่าวว่า ซาโตชิ อุเอมัตสึ จำเลยวัย 30 ปีรายนี้ยอมรับว่าเป็นผู้แทงเหยื่อที่ศูนย์ดูแลผู้มีอาการป่วยทางจิต สึกูอิ ยามายูริเอน ในเมืองซางามิฮาราที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ

    การฆ่าหมู่ครั้งนั้นมีเหยื่อเสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บอีก 26 ราย หลายรายโดนแทงขณะหลับ แม้อุเอมัตสึจะรับสารภาพผิด แต่ทนายความของเขาเคยโต้แย้งไว้ระหว่างการเริ่มต้นพิจารณาคดีนี้เมื่อเดือนมกราคมว่าอุเอมัตสึมีความผิดปกติทางจิตเพราะเสพกัญชา

    อัยการซึ่งเรียกร้องโทษประหารชีวิต ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของทนาย โดยแย้งว่าจำเลยรายนี้ตระหนักดีถึงการกระทำของเขา ซึ่งหัวหน้าคณะผู้พิพากษาคิโยชิ อาโอนุมะ เห็นด้วยและตัดสินประหารชีวิตเขาด้วยการแขวนคอ

    ผู้พิพากษาอาโอนุมะกล่าวว่า อาชญากรรมครั้งนี้เกิดจากการวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และมีหลักฐานหนักแน่นของการเจตนาฆ่า

    อุเอมัตสึเคยกล่าวบ่อยครั้งว่าเขาต้องการกำจัดคนพิการทั้งหมด สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ในการไต่ส่วนเมื่อเดือนที่แล้วเขากล่าวต่อศาลว่า พวกที่ไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ถือเป็นภาระสังคม การฆ่าคนพวกนี้เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม

    ฆาตกรรายนี้นั่งฟังคำพิพากษาประหารชีวิตตนเองโดยไม่แสดงอารมณ์สะทกสะท้าน เขาเคยบอกไว้ว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะอุทธรณ์คำตัดสิน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร แม้เขาจะเชื่อว่าความผิดของเขาไม่ควรถึงขั้นโดนประหารชีวิต

    ภายหลังก่อเหตุที่สร้างความตกตะลึงทั่วสังคมญี่ปุ่น อุเอมัตสึก็เข้ามอบตัวต่อตำรวจพร้อมกับมีดเปื้อนเลือดที่เขาใช้ก่อเหตุ

    รายละเอียดที่เปิดเผยเวลาต่อมาบอกว่า เขาลาออกจากงานที่ศูนย์แห่งนี้ไม่กี่เดือนก่อนหน้าก่อเหตุ และถูกบังคับให้เข้าโรงพยาบาลประเมินสภาพจิต หลังจากเขาบอกกับบรรดาเพื่อนร่วมงานว่าเขาตั้งใจฆ่าคนที่ศูนย์นี้ แต่เขาถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลใน 12 วันต่อมา โดยแพทย์ลงความเห็นว่าเขาไม่เป็นภัยคุกคาม

    ฆาตกรผู้นี้ไม่เพียงป่าวประกาศให้เพื่อนร่วมงานรู้ถึงเจตนาของเขา เขายังเคยเขียนจดหมายร่างแผนการโจมตีศูนย์ดูแลคนป่วยทางจิตแห่งนี้ โดยอ้างว่าพวกคนพิการมีแต่สร้างความทุกข์

    การตัดสินคดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โฆษกศาลกล่าวว่ามีประชาชนมากกว่า 1,600 คนขอเข้าฟังคำพิพากษา แต่ศาลอนุญาตให้เข้าฟังได้แค่ 10 ที่นั่ง เนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่รักษาระยะห่างระหว่างผู้ฟังคำตัดสินเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา

    อุเอมัตสึเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไมนิจิชิมบุงก่อนหน้านี้ โดยไม่แสดงความสำนึกเสียใจต่อการกระทำของตน เขาบอกว่าคนพิการทางจิต "ไม่มีหัวใจ" สำหรับคนเหล่านี้การมีชีวิตอยู่จึงเปล่าประโยชน์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"