บันทึกหน้า 4


เพิ่มเพื่อน    

 

        ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ในภาวะที่ประเทศกำลังระส่ำเผชิญกับวิกฤติไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แทนที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือแก้ปัญหาฝ่าโรคระบาดนี้ไปให้ได้ด้วยกัน แต่ยังมีคนบางจำพวกชอบขวาง บ่นด่า ติเตียน โดยเปล่าประโยชน์ เข้าตำรา "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ" ขนาดเรื่องสวดมนต์ยังดรามาได้ "ยืนยันว่าเจตจำนงของเราไม่ใช่การสวดขับไล่โควิด-19 แต่เป็นการให้กำลังใจประชาชนในทุกด้าน เพราะวันนี้เราประสบปัญหาหลายอย่าง" เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกโรงย้ำกันชัดๆ อีกรอบ พุทธศาสนิกชนทั้งหลายย่อมรู้ดีแก่ใจว่าสวดมนต์เพื่ออะไร ไม่ใช่ว่าสวดมนต์เสร็จปุ๊บ หรือเป่าเพี้ยงเดียว โควิด-19 จะหายวับไปจากประเทศไทยปั๊บ หนำซ้ำการสวดมนต์ก็มีอานิสงส์เป็นอเนกประการ ดั่งคำสอนของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ที่เคยว่าไว้ ดังนี้ "1.เป็นการทบทวนคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แม่นยำ 2.เป็นการศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า 3.เป็นการสืบต่ออายุของพระบวรพุทธศาสนา 4.เป็นการสร้างเหตุปัจจัยแห่งการรู้แจ้งสัจธรรม 5.เป็นการทำบุญด้วยกาย วาจา ใจ 6.เป็นการเตือนตัวเองให้ดำรงชีวิตอยู่ในครรลองคลองธรรม 7.เป็นการพัฒนาปัญญาให้แหลมคม 8.เป็นการศึกษาแนวทางในการสร้างสรรค์พัฒนาชีวิตให้ดีงาม 9.เป็นการบำเพ็ญไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา 10.เป็นการใช้เวลาคุณภาพร่วมกันของคนในครอบครัว" เหล่าบัวใต้น้ำไม่เชื่อก็ลองลดอัตตาลงแล้วสวดมนต์ดูสักบท ไม่จำเป็นต้องเป็นรัตนสูตร หรือโพชฌงค์ เผื่อจะช่วยให้มีสติปัญญาขึ้นมาพ้นน้ำได้บ้าง

                ๐ "ขออัพเดตผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของผม เมื่อสักครู่ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลแล้วว่า ผลตรวจของผมเป็นลบ หมายความว่าไม่ติดเชื้อครับ อย่างไรก็ตาม ผมจะกักตัวเองต่อไปตามแนวทางป้องกันของสาธารณสุข และทำงานที่บ้านไปจนครบ 14 วัน สำหรับวันนี้ผมได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งออกมาตรการชุดที่ 2 ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งต้องมีข้อสรุปโดยเร็ว หากมีบทสรุปแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบต่อไป" เป่าปากโล่งไปตามๆ กัน ไม่เฉพาะแค่ตัว รมว.คลัง "อุตตม สาวนายน" เพราะงานนี้ผวากันทั้ง ครม. ข้าราชการ รวมถึงผู้สื่อข่าวทุกสำนัก มีตัวอย่างให้เห็นแล้วจากสนามมวยที่เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายโยงโยเป็นวงกว้าง ก็ต้องลุ้นให้ขุนคลังปลอดเชื้อตลอดที่กักตัวครบ 14 วัน

                ๐ เรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจที่แต่ละภาคส่วนจะได้รับจากวิกฤติโควิด-19 หลายฝ่ายประเมินตรงกันว่า จะเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี และน่าจะรุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจหลายครั้งที่ไทยเคยเจอ แม้แต่กับวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จนมีหลายคนออกมาเสนอแนวทางข้อเสนอในการเตรียมการรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เช่น ความเห็นของ "กรณ์ จาติกวณิช ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า-อดีตรมว.ขุนคลัง" ที่เคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ไครซิสเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ก็ยังบอกว่ารอบนี้ หนักหนากว่ามาก โดยประมาณการว่า อย่างภาคแรงงาน คาดว่ากลุ่มพนักงาน ลูกจ้างที่อยู่ในระบบสายงานท่องเที่ยว บริการ อาจจะเสี่ยงตกงานร่วมหลักสองล้านคน นอกจากนี้ "กรณ์" ยังเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงการคลัง ใช้มาตรการเร่งด่วนรับมือ โดยให้ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ กลับไปทบทวนกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่บังคับใช้แล้ว โดยทุกหน่วยตัดงบของตัวเองลง อย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้เงินเหลือเป็นกองกลางร่วมกว่า 3 แสนล้านบาท แล้วนำเงินกองกลางดังกล่าว เป็นงบกลางฉุกเฉินเพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น รวมถึงหากจำเป็นก็ออกเป็น "พระราชกำหนดเปลี่ยนแปลงวงเงินงบประมาณ ประจำปี ..." เพื่อจัดกรอบงบประมาณให้สอดคล้องกับการนำมาใช้ช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการต่างๆ และหากยังไม่พอ ก็ใช้ยาแรง เช่น การออกพระราชกำหนดกู้เงิน เป็นการเฉพาะกิจ เพื่อนำเงินมาใช้ในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ เหมือนกับที่เคยมีการทำกันมาแล้ว เช่น การออก พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็ง สมัยปี 2552 ส่วนความเห็น ข้อเสนอทั้งหมดของกรณ์ อดีต รมว.คลัง ติดตามอ่านได้ในบทสัมภาษณ์พิเศษ ไทยโพสต์ สุดสัปดาห์นี้.

ลี้คิมฮวง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"