สตช.เข้มคลอดมาตรการสู้โควิด-19 บูรณาการกำลังรองรับภารกิจพิเศษ


เพิ่มเพื่อน    

 

       เข้าขั้นวิกฤติ! การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 หรือโควิด-19 มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 2 แสนคน เสียชีวิตใกล้ทะลุหลักหมื่น องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสโควิด-19 เป็นการแพร่ระบาดใหญ่ระดับโลก หลายประเทศต้องประกาศปิดประเทศไม่ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

                ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ถูกหลายประเทศขึ้นบัญชีไม่ให้ประชากรเดินทางเข้าประเทศ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ล่าสุดตัวเลขสะสมอยู่ที่ 322 คน และเสียชีวิต 1 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ครม.จึงได้คลอด 6 มาตรการคุมเข้มเชื้อไวรัสโควิด-19

                โดยมาตรการที่ว่าคือ 1.มาตรการด้านสาธารณสุข ป้องกันและสกัดการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย 2.มาตรการด้านเวชภัณฑ์ เร่งผลิตในประเทศและจัดหาจากต่างประเทศให้เพียงพอกับความต้องการ 3.มาตรการด้านข้อมูล 4.มาตรการด้านต่างประเทศ การจัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ 5.มาตรการด้านป้องกัน ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง และ 6.มาตรการช่วยเหลือเยียวยา

                โดยเฉพาะมาตรการ "ป้องกันสกัดกั้นนำเชื้อเข้าไทย" มีหลักปฏิบัติคือ ชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศต้องผ่านจุดคัดกรองต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ ได้แก่ ประเทศอิตาลี ประเทศจีน ประเทศอิหร่าน จะต้องทำการขอวีซ่าจากสถานทูตไทยในประเทศนั้นๆ ส่วนเกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊า ที่ยังได้รับสิทธิตามความตกลงระหว่างประเทศเดิมอยู่ แต่จะต้องยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์ผลการรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางไม่เกิน 48 ชม.และจะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

                เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยยังท่าอากาศยานสนามบินต่างๆ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องผ่านการตรวจอุณหภูมิโดยเครื่องเทอร์โมสแกนจากกรมควบคุมโรค ฯ หากพบว่ามีไข้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที แต่ถ้าอุณหภูมิร่างกายปกติจะต้องกรอกข้อมูลที่พักในประเทศพร้อมทั้งกรอกข้อมูลแบบฟอร์ม ต.8 และ ต.8 (ออนไลน์) จากนั้นสาธารณสุขจะประทับตรา  Health Control ลงในเอกสาร ตม. 6 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าจะตรวจสอบตราประทับ  Health Control อีกครั้ง และบันทึกข้อมูลลงในระบบ Biometric จึงผ่านการอนุญาตเข้าเมือง

                อีกมาตรการป้องกัน "ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง" ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา และทุกสถาบันชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่ายทางปากสัมผัส ถูกเนื้อถูกตัว หรือใช้สิ่งของร่วมกันง่าย ให้ปิดชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย  คือ สนามมวย สนามกีฬา สนามม้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และปิดชั่วคราว 14 วันสําหรับผับ  สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ และโรงมหรสพในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

                ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้สนองนโยบายดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มีวิทยุสั่งการเร่งด่วน ให้หน่วยงานทุกหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและข้าราชการตำรวจทุกนาย ดำเนินการอย่างเต็มกำลังความสามารถในการสนับสนุนและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19

                 โดยกำหนดเป็นมาตรการ 6 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านสาธารณสุข การป้องกันสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับผิดชอบการดำเนินการต่อคนเข้าเมือง โดยเฉพาะบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติ ด่าน ตม.ชายแดน จุดผ่านแดนทุกแห่งทั่วประเทศ และเมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศแล้ว ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค-9 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันรับผิดชอบตรวจสอบติดตามการอยู่ในประเทศให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต กรณีพบว่ามีลักษณะเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการโดยด่วน

                2.ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน มอบหมายให้โรงพยาบาลตำรวจรับผิดชอบสำรวจเวชภัณฑ์ป้องกันที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติภารกิจทุกประเภท โดยเฉพาะการตรวจป้องกันรักษาข้าราชการตำรวจ ครอบครัวและประชาชนที่มาเข้ารับบริการ ณ โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด รวมทั้งเตรียมการเพื่อรองรับภารกิจพิเศษที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมตามแผนในระยะต่อไป

                3.ด้านข้อมูล การชี้แจงและการร้องเรียน มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบเฝ้าฟังและติดตามการชี้แจงข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล แล้วแจ้งศูนย์ข้อมูลทุกแห่งทราบเป็นแนวทางในการตอบคำถามผ่านโทรศัพท์สายด่วน 191 ทั่วประเทศ และเมื่อศูนย์ 191 ได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสสำคัญที่จะต้องดำเนินการต่อให้แจ้งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1599 เพื่อรายงานศูนย์ข้อมูลโควิด-19 โดยเร็วที่สุด

                4.ด้านมาตรการป้องกัน มอบหมายให้ บช.น., ภ.1-9 ตรวจตราการปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น เช่น สถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะสถานบริการ  สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด โรงภาพยนตร์ สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า เตรียมความพร้อมให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่งหรือได้รับการร้องขอ

                5.ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยามอบหมายให้ บช.น., ภ.1-9, บช.ก., สตม.รับผิดชอบเพิ่มความเข้มงวดในการสืบสวนจับกุมการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และการดำเนินการตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องการควบคุมสินค้าและบริการ รวมทั้งเร่งรัดป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

                6.ด้านอื่นๆ เพื่อป้องกันตนเองและครอบครัวให้ปลอดภัยจากการรับเชื้อ ให้งดการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องจัดให้มีการตรวจคัดกรอง ด้วยการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร สถานที่ทำการ หรือการคัดกรองด้วยวิธีการหรือเครื่องมืออื่นที่เหมาะสมสำหรับกำลังพล ที่ปฏิบัติงานสัมผัสกับประชาชน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมถุงมือยางขณะปฏิบัติหน้าที่  โดยเฉพาะการตรวจค้นสัมผัสกับบุคคล เอกสาร ยานพาหนะ ทรัพย์สินหรือสิ่งของ ของกลางในคดี โดยประสานกับโรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

                ทั้งนี้ถือว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ระบาดไปทั่วทุกวงการ ทุกอาชีพ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาแล้วจำนวน 16 ราย และเฝ้าดูอาการอีก 220 คน ตำรวจต้องทำงานสัมผัสกับประชาชน 24 ชั่วโมง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มีหนังสือกำชับไปยังทุกกองบัญชาการถึงข้อปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาตัวเองรวมทั้งบุคคลใกล้ชิด "ผบ.ตร." ย้ำถึงแม้ผู้ใต้บังคับบัญชาจะได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่กระทบต่อการให้บริการประชาชนแน่นอน ฉะนั้นประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ปฏิบัติตามข้อบังคับไม่ให้เชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้างและควบคุมได้ในที่สุด.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"