ส.ส.โรม ลงพื้นที่ตามคดีจับแม่ค้าขายไข่ไก่แพง จี้รัฐบาลเร่งดูราคาไข่ไก่ให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ระบุแจ้งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง ไม่ได้ทำให้ราคาไข่ไก่ถูกลง


เพิ่มเพื่อน    

28 มี.ค.63 - นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชรรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้

ลงพื้นที่นครสวรรค์ ติดตามคดีแม่ค้าไข่ไก่ถูกจับ-จี้รัฐบาลเร่งดูแลราคาไข่ไก่ให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

ตามที่เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.63) ปรากฎข่าว แม่ค้าไข่ไก่เมืองนครสวรรค์ถูกจับกุมเนื่องจากขายไข่ไก่เกินราคา ซึ่งคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท

เบื้องต้นเมื่อคืน ผมได้ติดตามความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวเนื่องจากมีความกังวลว่าจะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายที่กระทบต่อผู้ค้ารายย่อย ในช่วงสถานการณ์การระบาด COVID-19

วันนี้ผมจึงได้เดินทางลงพื้นที่ ที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามประเด็นดังกล่าว พบว่าแม่ค้ารายดังกล่าวได้รับการประกันตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยใช้ตำแหน่งราชการของญาติ แทนการวางหลักทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ 100,000 บาท (ซึ่งถือว่าเป็นวงเงินที่สูง)

ในส่วนของประเด็นราคาไข่ไก่ที่จำหน่ายหน้าร้านนั้น ทางแม่ค้ายืนยันว่าตนเองได้กำไรต่อแผงเพียงแค่ 10-15 บาท เท่านั้น เนื่องจากราคาที่รับมา อยู่ที่ 140-145 บาทต่อแผง สำหรับไข่ไก่เบอร์ 0

ผมจึงได้ตรวจสอบราคา จากผู้ประกอบการขายส่งไข่ไก่ เบื้องต้นพบว่าราคาไข่ไก่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 มีราคาแพงขึ้นจริง ซึ่งมีปัจจัยมาจากต้นทุนการเลี้ยงไก่สูงขึ้น รวมทั้งปัจจัยจำนวนโควต้าแม่พันธ์ุไก่ไข่ตามที่รัฐบาลกำหนด

ซึ่งอันที่จริงเกษตรกร รวมทั้งผู้ประกอบการ รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย ต้องแบกรับภาระขาดทุนมาโดยตลอด คือยิ่งขายจำนวนเยอะยิ่งขาดทุน สำหรับราคาขายไข่ไก่ทุกขนาด จะมีราคาแพงขึ้นจากปี 62 ประมาณฟองละ 1 บาท

ยกตัวอย่าง ราคาขายปลีก คละเบอร์ ตกแผงละ 116 บาท ในขณะที่ราคาตามประกาศของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่(คละ) อยู่ที่แผงละ 84 บาท ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร และประกาศ กกร.ฉบับที่ 53 พ.ศ. 2562 การกำหนดไข่ไก่เป็นสินค้าควบคุม

ในกรณีนี้พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ ใช้ราคา 84 บาทต่อแผง เป็นราคากลาง บวกกับการคำนวนทางวิชาการ จึงแจ้งความจับกุมแม่ค้าคนดังกล่าวว่า ผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร มีโทษความผิดตามมาตรา 41 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท

แน่นอนว่าในกรณีนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับผู้บริโภค แต่จากข้อมูลที่ผมได้ลงพื้นที่พบว่า ราคาขายส่งนั้นสูงกว่าราคากลางอยู่พอสมควร การที่มีการจับกุม ผู้ค้ารายย่อย โดยการแจ้งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง ไม่ได้ทำให้ราคาไข่ไก่ถูกลงแต่อย่างใด

แน่นอนว่ามีการขายไข่ไก่แพงจริงในหลายพื้นที่ ผมเองก็ได้พบเห็นด้วยตัวเอง ในห้างสรรพสินค้าบางแห่งในกรุงเทพมหานคร ว่ามีการขายไข่ไก่แพงเกินไป (บางแห่ง ไข่ไก่เบอร์ 2 ฟองละเกือบ 6 บาท)

ในกรณีนี้ ผมมีข้อเสนอเบื้องต้นว่ากระทรวงพาณิชย์ควรสำรวจราคาขาย ราคาต้นทุน ในตลาดไข่ไก่ทั้งระบบ เพื่อที่จะทราบราคากลางของตลาดที่แท้จริง และอาจกำหนดราคากลางใหม่ เพราะการใช้ราคากลางเมื่อปี 2562 มาเปรียบเทียบแล้วจับกุมผู้ค้ารายย่อย นอกจากจะไม่สามารถควบคุมราคาไข่ไก่ให้ถูกลงได้แล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมประชาชนในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปใหญ่

รัฐบาลควรมีมาตรการเร่งด่วน และจริงจังในการสร้างสมดุลของราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน  มิเช่นนั้นจะกระทบทั้งคนซื้อและคนขาย 

นอกจากนี้ ผมขอเสนอไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าในส่วนของการจับกุม และการใช้ดุลพินิจในการกำหนดวงเงินหลักทรัพย์ในการประกันตัว ควรใช้เกณฑ์ขั้นต่ำไว้ก่อน เพราะมีแนวโน้มว่าคนที่อาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้ อาจจะเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย การหาเงินมาประกันตัวหนึ่งแสนบาทนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพี่น้องพ่อค้าแม่ค้า

สุดท้ายกรณีราคาไข่ไก่ คงเป็นอีกประเด็นที่สะท้อนประสิทธิภาพในการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์วิกฤติ COVID-19 ของรัฐบาล ซึ่งแม้จะเริ่มมีผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 แต่การเตรียมการต่างๆ นับตั้งแต่เรื่องปริมาณหน้ากากอนามัย เรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนถึงล่าสุด เรื่องราคาไข่ไก่

พอเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลน่าจะวิเคราะห์ได้แล้วว่าทิศทางจะเลวร้ายลง แต่รัฐบาลไม่มีแนวทางป้องกันเรื่องเหล่านี้เลย จนสุดท้ายวันนี้ภาระต้องตกมาอยู่ที่ประชาชน นับว่ารัฐบาลสายตาสั้นมากๆ ครับ

หมายเหตุ การลงพื้นที่ในวันนี้ ผมสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือโดยใช้เจลแอลกอฮอล์ ทุกๆ 1 ชม. และพยามลงจากรถน้อยที่สุดตามมาตรการ social distancing.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"