31 มี.ค.63- ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานเมื่อ.วันที่31มีนาคม ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี  อัตราพบผู้ป่วยจากเชื้อโควิท19ที่ปัตตานี เพิ่มขึ้นทุกวัน ทางจังหวัด มีมาตรการณ์มากมายที่จะยับยั้งโรคดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการแพร่หลายโรคดังกล่าวได้ ยังคงพบผู้ป่วยอย่สงต่อเนืีอง   มียอดผู้ป่วยพึ่งอีกรอบเป็นรวมทั้งสิ้น 44ราย ในพื้นที่ 7 อำเภอ

หลังนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ประกาศให้จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ทั้งพื้นที่ และได้มีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่ฯ อันเนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อ COVID-19 โดยมีคำสั่งใช้อย่างจริงจังในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทำให้ทางจังหวัดปัตตานี ได้เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจค้านเจ้าออกทั้ง ปัตตานี-ยะลา ปัตตานี-นราธิวาส และปัตตานี-สงขลา ร่วมทั้งสิ้น 18 เส้นทาง โดยเน้นยำให้เจ้าหน้าที่สร้างวามเข้าใจ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หากพบว่าผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง และสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 ให้มีการกักตัวทันที 14 วัน และหากพบผู้ใดฝ่าฝืนก็ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันที

มีรายงานว่า  ในกลุ่มไลน์หลายกลุ่ม  มีการเผยแพร่ข้อความเด็ก 9 ขวบติดเชื้อ  ในพื้นที่สายบุรี จ.ปัตตานีอย่างแพร่หลาย. สร้างความตื่นตระหนกกับประชาชนอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวได้นำข้อความจากไลน์ในพื้นที่ปัตตานีชื่อ  Billa News โดยมีข้อความว่า   #โควิด19 พบเด็ก 9 ขวบติดโควิด 19 ที่สายบุรี หมอขอร้องทำตามคำแนะนำแพทย์ นศ.กลับจากปากีสถาน กักตัว 14 วัน งดออกบ้านนั่งร้านชา

 แพทย์หญิงยารียะ สารีกามา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เผยมีผู้ติดเชื้อโควิดของ สายบุรี เป็นเด็กอายุ 9 ขวบ จึงอยากขอร้องพี่น้องประชาชน ปฏิบัติตัวตามคำแพทย์แนะนำ ป้องกันบุตรหลานของท่านเองจากการได้รับเชื้อ

“ขอร้อง..ผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงทุกคนแนะนำกักตัว14วันให้ถูกต้อง และขอร้องอีกอย่างคือระหว่างทางคุณไม่ต้องแวะที่ไหน ไม่ต้องสัมผัสใคร เพราะถ้าวันหนึ่ง คุณเป็นโควิด19 คนอื่นจะได้ไม่ต้องรับเชื้อจากคุณ”

ส่วนกรณีนักศึกษาไทยที่กลับจากปากีสถานขอความร่วมมือกักตัวเอง 14 วันตามมาตรการของแต่ละจังหวัด

เช่นเดียวกับพี่น้องที่ไปนั่งร้านน้ำชา “คุณไม่กลัวโควิด19ไม่เป็นไรแต่ขอให้นึกถึงลูกเมียคุณจะติดไปด้วย”.